16:11, 6 มิ.ย. 2562

หักพวงมาลัยจนสุดจะมีข้อเสียอะไรบ้างค่ะ

บันทึกรายการ

นับเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถหลายคนตั้งคำถามถึงการหักพวงมาลัยไปจนสุดจะส่งผลเสียอย่างไรกับระบบบังคับเลี้ยวภายในรถหรือไม่ วันนี้ข่าวรถได้นำคำตอบจากผู้รู้มาให้ชมกันครับ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆพอดีหนูเพิ่งที่จะทำการหัดรถใหม่เพื่อเตรียมไว้เผื่อซื้อรถจะได้ขับได้ค่ะ แล้วคราวนี้เกิดคำถามขึ้นในหัวว่าในกรณีที่เราหักพวงมาลัยทางซ้ายสุด หรือ ทางขวาสุดมันจะส่งผลดี ผลเสียอย่างไรบ้างหรือเปล่าค่ะเพราะส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการขับรถแต่อย่างใดเลยอยากที่จะทราบความคิดเห็นจากพวกพี่ๆด้วยค่ะ รบกวนคำตอบด้วยนะค่ะ

ยศวดี บ่วงเกษม (yoyo_yosvadee@gmail.com)

เจษฎา โชคอำนวย

สวัสดีครับคุณยศวดี ก่อนอื่นต้องเรียนให้ทราบตั้งแต่เนิ่นๆว่าการทราบถึงวิธีใช้งานระบบต่างๆภายในรถอย่างถูกต้องนั้นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อผู้ขับขี่ยิ่งในกรณีที่เพิ่งจะหัดขับรถใหม่จะต้องเน้นในประเด็นนี้มากเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามการใช้งานพวงมาลัยนั้นผู้ขับขี่หลายรายมักที่จะหมุนพวงมาลัยไปในด้านซ้ายสุด-ขวาสุดอยู่บ่อยครั้งและค้างไว้เป็นระยะเวลานานเมื่อต้องหักเลี้ยว แต่แท้ที่จริงแล้วการกระทำพฤติกรรมดังกล่าวเป็นระยะเวลานานและบ่อยครั้งย่อมที่จะส่งผลเสียต่อระบบบังคับเลี้ยวภายในรถโดยตรงเนื่องจากจะทำให้น้ำมันพาวเวอร์มีความร้อนสูงขึ้นอีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้ชิ้นส่วนอื่นๆภายในระบบบังคับเลี้ยวเสียหายได้เช่นกัน


หักพวงมาลัยจนสุดจะมีข้อเสียอย่างไร

ทั้งนี้การหักพวงมาลัยจนสุดนั้นจะส่งผลเสียโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถที่มีการติดตั้งพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฮดรอลิก (แร็ค แอนด์ พิเนียน) สาเหตุก็เพราะในระหว่างที่เราทำการหักเลี้ยวชุดโรตารี่วาล์วจะทำการปล่อยน้ำให้ไหลเข้าไปยังลูกสูบทั้งสองข้างเพื่อทำให้ลูกสูบอยู่ในสภาวะที่มีความสมดุลและพร้อมสำหรับการหักเลี้ยวมากที่สุดก่อนที่น้ำมันเหล่านั้นจะถูกส่งกลับไปยังถังเก็บน้ำมันอีกต่อหนึ่งและถูกดูดกลับไปที่ปั๊มพาวเวอร์


การหมุนพวงมาลัย

เมื่อผู้ขับขี่มีการหักหมุนพวงมาลัยทอร์ชั่นบาร์สปริงจะเริ่มบิดตัวส่งผลให้โรตารี่วาว์ลทำงานก่อนจะส่งน้ำมันไฮดรอลิคเข้าไปในด้านใดด้านหนึ่งของลูกสูบกำลังซึ่งจะช่วยผ่อนแรงในการหักเลี้ยวพวงมาลัย แต่ในกรณีที่ผู้ขับขี่มีการหักพวงมาลัยจนสุดและค้างไว้นานๆก็จะส่งผลให้น้ำมันไฮดรอลิคมีความร้อนสูงขึ้นมากหากมีการกระทำอย่างนี้บ่อยๆก็ย่อมที่จะทำให้น้ำมันไฮดรอลิคเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ อีกทั้งหากใช้งานรถรุ่นเก่าที่มีการติดตั้งระบบพวงมาลัยแบบแร็ค แอนด์ พิเนียน เมื่อมีการหมุนหักพวงมาลัยจนสุดอยู่บ่อยครั้งแรงดันน้ำมันพาวเวอร์ที่สูงจะส่งผลให้แร็คพวงมาลัยรั่วได้ง่าย

นอกจากนี้แล้วในรถที่มีการติดตั้งระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าการหมุนพวงมาลัยจนสุดพร้อมกับเคลื่อนรถไปด้วยจะยิ่งทำให้เพลาขับมีปัญหาได้โดยง่าย เพราะฉะนั้นการหมุนพวงมาลัยในทุกครั้งผู้ขับขี่จึงไม่ควรที่จะหักไปจนสุดเพื่อป้องกันเพลาขับมีปัญหาและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมซึ่งเป็นหลักหมื่นเลยทีเดียว

สำหรับผู้ที่มีการใช้งานรถอยู่เป็นประจำควรหมั่นตรวจสอบระบบบังคับเลี้ยวภายในรถให้อยู่ในสภาพที่ปกติอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ครับ

ในหมวดเดียวกัน