14:39, 5 ก.ย. 2561

วิธีป้องกันไฟไหม้รถยนต์

บันทึกรายการ

เหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์นับเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวผู้ขับขี่สามารถเกิดขึ้นได้กับรถทุกคันซึ่งผู้ขับขี่สามารถที่จะเรียนรู้วิธีการรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้อย่างง่ายๆด้วยตนเอง

พอดีอยากสอบถามเพื่อนๆถึงเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ค่ะจะเห็นได้ตามข่าวในปัจจุบันมีเกิดขึ้นบ่อยมาก พวกพี่ๆมีการรับมือกับเหตุการณ์ไฟไหม้รถอย่างไรบ้างค่ะรวมถึงวิธีป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยนะค่ะ 

ทิพย์กมล รุ่งแสงรวี (auy_rungsang@hotmail.com)

เจษฎา โชคอำนวย


ไฟไหม้รถเหตุร้ายที่เกิดขึ้นได้กับรถทุกรุ่น

ในกรณีที่มีไฟไหม้รถยนต์นั้นสามารถเริ่มป้องกันได้ง่ายๆด้วยตัวของผู้ขับขี่เองเพียงแค่หมั่นตรวจสอบสภาพรถ ระบบหล่อเย็นของรถรวมไปถึงเครื่องยนต์โดยเฉพาะในส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า และ น้ำมันซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดไฟไหม้ได้ หากพบสิ่งผิดสังเกตควรรีบนำรถเข้าตรวจเช็คทันที อีกทั้งยังไม่ควรที่จะปรับแต่งเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มความเร็วโดยเด็ดขาดเนื่องจากอุปกรณ์บางอย่างถูกออกแบบมาเฉพาะรุ่นเมื่อมีการปรับเพิ่มเข้าไปใหม่อาจส่งผลให้เกิดการทำงานที่ผิดพลาดแก่เครื่องยนต์ได้

ประเด็นต่อมา คือ การชำรุดของชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในรถ เช่น แบริงของพัดลมไฟฟ้าชำรุดจนทำให้ไม่สามารถที่จะหมุนได้จนเป็นสาเหตุให้เกิดความร้อนสูงที่มอเตอร์จนลุกไหม้ หรือ ฉนวนที่ใช้สำหรับหุ้มสายไฟเริ่มชำรุดเสื่อม กรอบเปราะจนสายไฟมีลักษณะเปลือยออกซึ่งจะส่งผลให้เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร ด้วยกระแสไฟที่สูงมากอาจหลอมละลายเปลือกสายไฟ และ ลุกลามไปที่ฉนวนกันความร้อนรวมถึงฉนวนกันเสียงเครื่องยนต์จัดเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่จะนำไปสู่การเกิดเพลิงลุกไหม้รถต่อไปได้  

ทั้งนี้ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดไฟไหม้รถยนต์ขึ้นมากในปัจจุบันได้แก่ โคมไฟหน้ารถ ในระยะหลังนี้มักพบเป็นจุดต้นเพลิงอยู่บ่อยครั้ง ด้วยวัสดุที่อยู่ภายในเบ้าไฟหน้าที่มักนิยมใช้พลาสติกเข้ามาแทนที่โลหะ หรือ แก้วเช่นในอดีต อีกทั้งดวงไฟหน้าก็มักเป็นแบบฮาโลเจนซึ่งเปลือกหลอดมีความร้อนจัดมาก หากหัวไฟมีการหลุดลงมาจนสัมผัสกับโคมพลาสติกก็สามารถที่จะทำให้เกิดประกายไฟได้ในทันที


ไฟไหม้รถยนต์ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ

วิธีป้องกันปัญหาไฟไหม้รถยนต์ได้ดีที่สุดควรตรวจสภาพรถให้มีความพร้อมใช้งานอยู่เสมอผสานกับการตรวจสอบน้ำในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับที่ปกติ อีกทั้งยังต้องปรับตั้งค่าสายยางให้อยู่ในการตั้งค่าที่กำหนดไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป เสริมด้วยการตรวจสอบใต้ท้องรถหากพบคราบน้ำมันรั่วซึมควรนำไปตรวจเช็คที่อู่ซ่อมรถโดยทันที อีกทั้งการสังเกตระบบเชื้อเพลิงมีการลดลงอย่างผิดปกติในขณะขับขี่ เครื่องยนต์ร้อนจัดรวมถึงมีกลิ่นเหม็นไหม้ยาง หรือ พลาสติกให้ผู้ขับขี่นำรถไปเช็คระบบเชื้อเพลิงโดยด่วน

สำหรับผู้ที่พบปัญหารถมีกลิ่นเหม็นไหม้ หรือ คราบน้ำมันอยู่ใต้ท้องรถควรนำรถเข้าไปตรวจสอบยังศูนย์บริการเพื่อป้องกันปัญหาไฟไหม้รถซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ในหมวดเดียวกัน