สวัสดีค่ะพอดีรถมีอาการใส่เกียร์ D เดินหน้าแล้วรถไม่เคลื่อนตัว พอเอาไปตรวจเช็คในศูนย์บริการผลปรากฏว่าน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพค่ะส่งผลให้เวลาเข้าเกียร์แล้วเกียร์ฝืด ตอนนี้ช่างที่ศูนย์ได้ทำการเปลี่ยนให้ใหม่แล้วค่ะ เลยอยากสอบถามพี่ๆว่าพอมีวิธีแนะนำการตรวจสอบดูน้ำมันเกียร์ว่ามีการเสื่อมสภาพกันอย่างไรบ้างค่ะ ครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์ใส่เกียร์แล้วรถไม่เคลื่อนตัวอีกค่ะ ขอบคุณมากๆนะค่ะ
ปนัดดา รุ่งจันทรส (aaey_panadda@hotmail.com)
เจษฎา โชคอำนวย
น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพรู้ได้อย่างไร
สวัสดีครับ คุณปนัดดา
ในกรณีที่น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพนั้นผู้ขับขี่สามารถสังเกตได้ด้วยตนเองได้แบบง่ายๆครับ เริ่มต้นในขณะที่ผู้ขับขี่สตาร์ทเครื่องยนต์ยนต์แล้วเข้าเกียร์ D หรือ เกียร์ R ในระบบเกียร์อัตโนมัติจะรู้สึกว่ารถเคลื่อนออกตัวได้ช้ามากแทบจะไม่เคลื่อนตัวเลยซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพ รวมถึงอาจจะมีการเติมน้ำมันเกียร์ในอัตราส่วนที่ไม่ถูกต้อง มักจะเกิดขึ้นกับรถที่มีอายุการใช้งานยาวนานตั้งแต่ 100,000 กิโลเมตรขึ้นไป หากผู้ขับขี่ปล่อยให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นแนวทางการแก้ไขอาจต้องเข้าตรวจสอบระบบเกียร์ในศูนย์บริการซึ่งต้องทำการตรวจเช็คอุปกรณ์ส่งกำลังหลายรายการทั้งผ้าคลัทช์ สายเกียร์ และ น้ำมันเกียร์ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ประเด็นต่อมาเมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ในบางช่วงจังหวะอาจรู้สึกว่าเกียร์มีการเปลี่ยนระดับไวกว่าปกติ หรือ อาจช้ากว่าเดิมได้อีกเช่นกัน สาเหตุก็เพราะระบบเกียร์ออโต้รุ่นใหม่ที่มีใช้กันอยู่ในปัจจุบันเป็นระบบปั๊มหากผู้ขับขี่ไม่มีการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามกำหนดเวลาย่อมทำให้เกียร์เกิดการทำงานที่ผิดปกติได้ และ ในบางกรณีผู้ขับขี่อาจสังเกตได้จากการสิ้นเปลืองพลังงานซึ่งจะมีมากยิ่งขึ้น นอกจากจะทำให้เราเสียเงินค่าน้ำมันเพิ่มมากยิ่งขึ้นแล้วผู้ขับขี่ยังต้องเสียค่าซ่อมแซมระบบเกียร์ที่เสียหายเนื่องจากปัญหาน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพในราคาที่ไม่น้อยเลยทีเดียว
น้ำมันเกียร์เกรดสูงช่วยยืดการใช้งานระบบเกียร์
ปัญหาน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพยังส่งผลให้เมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ในตำแหน่งเกียร์ D หรือ R อาจทำให้รถมีอาการกระตุก ปัญหานี้เกิดขึ้นได้จากสาเหตุที่ผู้ขับขี่ขาดการตรวจเช็คระดับของน้ำมันเกียร์ให้อยู่ในระดับที่ปกติ อีกทั้งยังขาดการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะเวลาที่กำหนด หรือ ผู้ขับขี่มักสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่เครื่องยนต์เย็นตัวจัด ทั้งนี้ผู้ขับขี่ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เมื่ออายุการใช้งานประมาณ 20,000-40,000 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยให้ระบบเกียร์ยังคงทำงานได้ตามปกติอยู่อีกทั้งยังเป็นการช่วยยืดระยะการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆในระบบเกียร์ให้ยาวนานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้แล้วการสังเกตที่สีของน้ำมันเกียร์ก็ยังเป็นส่วนที่สำคัญหากน้ำมันเกียร์ในรถของท่านมีสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีดำอาจเป็นเพราะมีการปนเปื้อนจากเศษฝุ่นของแผ่นเกียร์ที่ไปผสมเข้ากับน้ำมันทำให้ระบบไฮดรอลิกอัดตัวแน่นจนส่งผลให้เกิดเสียงดังตอนเข้าเกียร์อีกทั้งสภาพอากาศในบ้านเราที่มีความร้อนชื้นทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ขับขี่ที่พบปัญหาน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพควรนำรถของท่านไปตรวจเช็คยังศูนย์บริการและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวลงได้ครับ