14:59, 25 ก.ค. 2561

ติดฟิล์มรถยนต์แบบทึบ ผิดกฎมาย เสี่ยงโดนตำรวจตรวจค้น ใช่หรือไม่?

บันทึกรายการ

หลายคนยังสงสัยว่า ปัจจุบันการบังคับใช้ พรบ.รถยนต์ ว่าด้วยการติดฟิล์มนั้น ยังคงบังคับหรือไม่ และการติดฟิล์มแบบใดที่จะไม่โดนตำรวจเรียกตรวจค้น ที่นี่มีคำตอบ!!

มีเรื่องอยากจะสอบถามค่ะ เมื่อสามวันก่อนดิฉันได้ขับรถไปต่างจังหวัด และโดนตำรวจเรียกค้น โดยให้เหตุผลว่าความทึบของฟิล์มมีมากเกินไป เนื่องจากดิฉันได้ฉาบปรอทเอาไว้ด้วย แต่นานแล้ว ซึ่งดิฉันไม่ทราบว่าโดยปกติแล้วจะต้องติดฟิล์มกรองแสงขนาดเท่าใดของกระจกรถ วานผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ

วิรวรรณ สุคนธ์ศรี (wira.sukon@gmail.com)

นพดล นฤวัตปกรณ์

สวัสดีครับ คุณ วิรวรรณ สุคนธ์ศรี จากรายละเอียดการติดฟิล์มของคุณนั้น ที่บอกว่ามีการฉาบปรอทเอาไว้ด้วย จึงไม่ผิดครับที่ตำรวจเรียกตรวจสอบ เนื่องจากการฉาบปรอทผิดกฎหมาย ตาม พรบ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12


การติดฟิล์มบนกระจกรถยนต์

เพราะมีการกำหนดเอาไว้แล้วว่า หากรถนั้นมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกระทรวง หรือเพิ่มเติมสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อื่น จะมีผลห้ามมิให้ผู้นั้นใช้รถจนกว่าจะจัดให้ถูกต้องครบถ้วนหรือเอาออก ซึ่งการติดฟิล์มปรอทหรือฉาบปรอทนั้น มันจะทำให้สะท้อนเข้าตา ซึ่งจะไปทำร้ายหรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นได้


การติดฟิล์มบนกระจกรถยนต์

โดยในปัจจุบัน ได้มีการยกเลิกกฎหมายบังคับการติดฟิล์มกรองแสงแล้ว เนื่องจากมีความลำบากในการตรวจสอบและวัดค่าความทึบแสง ถ้านับจากอดีตที่มีการกำหนดกฎหมายในอุตสาหกรรมยานยนต์ขึ้นมานั้น ที่ผ่านมาก็มีหลากหลายโครงการที่ถูกกำหนดโดยรัฐบาล


การติดฟิล์มบนกระจกรถยนต์

ซึ่งเรื่องของ “ฟิล์มกรองแสง” เองก็เป็นเรื่องที่มีการผ่อนผันมาเรื่อยๆ ที่มีการกำหนดกฎหมายขึ้นมาก็เพราะต้องการป้องกันการเกิดอาชญากรรมต่างๆที่ใช้รถยนต์ เนื่องจากเป็นการอำพรางเรื่องที่เกิดขึ้นในรถ แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่าไม่ได้มีความเท่าเทียมกัน หากเทียบกับคนที่เป็นบุคคลสำคัญ เพราะนั่นก็ติดฟิล์มดำทึบเหมือนกัน จนล่าสุดก็ต้องยกเลิกด้วยเหตุผลข้างต้นครับ แต่ก็แนะนำว่าให้ติดแบบไม่เต็มบานแทน เพื่อป้องกันการโดนตรวจค้นในกรณีที่เดินทางไกลและมีด่านตรวจ

ในหมวดเดียวกัน