สวัสดีค่ะ คือ หนูค้างค่างวดมา 4 งวด ไฟแนนซ์ติดต่อเข้ามาจะขอรับรถแต่ทางเราไม่มีรถให้ จึงมีคำถามดังนี้ค่ะ 1.ไม่มีรถคืนให้ไฟแนนซ์จะแจ้งความเป็นคดีอาญาหรือแพ่ง 2.กรณีที่เป็นอาญาต้องใช้เงินประกันในวันไกล่เกลี่ยหรือไม่ 3.ถ้าคดีสิ้นสุดขอผ่อนชำระเป็นงวดได้หรือไม่ ขอผู้รู้และผู้มีประสบการณ์จริงให้คำตอบหน่อยค่ะ
ปุยนุ่น คล้ายวรรณ (puinoon_klaiwan@gmail.com)
ดวงดาว ภูสิทธ์อุดม
ไม่จ่ายค่างวด ไม่มีรถคืน โดนฟ้องยักยอกทรัพย์
ตอบคำถามคุณปุยนุ่น: เรียนคุณปุยนุ่นในกรณีที่คุณปุยนุ่นจะนำรถไปขายต่อให้กับบุคคลอื่นนั้นไม่สามารถที่จะทำได้เนื่องจากบริษัทไฟแนนซ์ได้ยกเลิกสัญญาเช่าซื้อกับคุณปุยนุ่นแล้ว ฉะนั้นหมายความว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทไฟแนนซ์ถือเป็นผู้ครอบครองตามกฎหมายไม่ใช่ผู้เช่าซื้ออีกต่อไป หากจะขายดาวน์ หรือ ขายต่อให้กับบุคคลอื่นถือเป็นการยักยอกทรัพย์ และ ร่วมกันยักยอกทรัพย์บริษัทไฟแนนซ์มีสิทธิฟ้องร้องความผิดทางคดีอาญาต่อผู้เช่าซื้อได้
ในกรณีข้างต้นอาจจะถูกดำเนินคดีทั้ง 2 รูปแบบระหว่างคดีแพ่งและอาญา โดยในคดีแพ่งเป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าคุณปุยนุ่นจะต้องชดใช้ตามที่บริษัทไฟแนนซ์เรียกร้องในชั้นศาล ส่วนในเรื่องที่สามารถผ่อนผันได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลอีกเช่นกัน ในกรณีที่ศาลอนุญาตก็สามารถผ่อนผันได้แต่หากไม่อนุญาตจำเลยย่อมต้องหาเงินก้อนมาชดใช้ให้แก่บริษัทไฟแนนซ์ ในกรณีที่ไม่มีเงินจำนวนดังกล่าวย่อมถูกบริษัทไฟแนนซ์ร้องบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์ขายทอดตลาดนำเงินมาชดเชยตามจำนวนที่โจทย์ได้ร้องขอต่อไป
ผ่อนค่างวดไม่ไหวควรนำรถไปคืนไฟแนนซ์
ส่วนคดีความทางอาญาในกรณีของคุณปุยนุ่นรถยนต์คันดังกล่าวถือเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทไฟแนนซ์ ผู้เช่าซื้อไม่มีอำนาจใดๆในการเปลี่ยนแปลงสัญญาเช่าซื้อกับผู้ให้เช่าซื้อได้อีก กอปรกับบริษัทไฟแนนซ์มีวัตถุประสงค์ในการยึดรถเพื่อนำไปขายทอดตลาดหากผู้เช่าซื้อไม่มีรถนำมาคืนให้แก่บริษัทไฟแนนซ์ให้ถือเป็นการยักยอกทรัพย์เป็นความผิดอาญามีโทษจำคุก เพราะฉะนั้นผู้เช่าซื้อควรดำเนินการคืนรถให้แก่บริษัทไฟแนนซ์โดยทันที
สำหรับแนวทางการแก้ไขคุณปุยนุ่นสามารถเข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ยกับบริษัทไฟแนนซ์ได้ด้วยตนเองเพื่อขอผ่อนผันในการแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ และ ดำเนินการนำรถมาคืนให้แก่บริษัทไฟแนนซ์ให้เร็วที่สุดเพื่อให้บริษัทไฟแนนซ์นำรถยนต์คันดังกล่าวไปขายทอดตลาดได้ตามปกติ พร้อมกับเตรียมเงินก้อนไว้อีกส่วนหนึ่งเพื่อชดใช้ค่าขาดประโยชน์ ค่า ติดตามทวงถาม และ ค่าดำเนินการให้แก่บริษัทไฟแนนซ์อีกด้วย
สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกับในกรณีข้างต้นควรตั้งสติก่อนเป็นอันดับแรกจากนั้นจึงสอบถามผู้รู้ หรือ นักกฎหมายเพื่อหาแนวทางการแก้ไข หรือ ทางออกที่เป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่ายมากที่สุด