คันเร่งค้าง ต้องทำยังไง?
บุรินทร์ จังเกตุทอง (jimmy198@yahoo.com)
เจษฎา โชคอำนวย
เรียนคุณ บุรินทร์ หลายคนคงเคยได้ยิน “คันเร่งค้างให้ดับเครื่อง” ที่บอกกล่าวและแชร์กันอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นความเชื่อและปฏิบัติต่อต่อกันมา ซึ่งอันที่จริงเป็นวิธีที่ผิด ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้การควบคุมรถยากขึ้น แล้ววิธีที่ถูกต้องควรทำอย่างไร? โดยที่ควรทำหลักๆก็คือ
1. ตั้งสติ
“ตั้งสติ” สิ่งที่ใครๆก็รู้ แต่ทำยาก ซึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาวิธีตั้งสติให้ได้ อย่าลนลาน เพราะจะทำให้สถานการณ์แย่ลง โดยส่วนมากนิยมใช้วิธีหายใจลึกๆหรือนับ 1 2 3 เพื่อเรียกสติกลับมา
อย่าดับเครื่อง
2. อย่าดับเครื่อง
สิ่งที่ควรระลึกไว้เสมอเมื่อคันเร่งค้างคือ “ห้ามดับเครื่อง” เพราะการดับเครื่องยนต์ไม่ใช่แค่ตัดกำลังเครื่อง แต่ยังส่งผลถึงระบบผ่อนแรงพวงมาลัย และระบบผ่อนแรงเบรกให้หยุดทำงานตามไปด้วย ทำให้เบรกยากแถมพวงมาลัยก็หนัก ทีนี้ล่ะงานเข้าของจริง ยิ่งรถบางรุ่นเป็นระบบล็อคพวงมาลัยหลังดับเครื่องยิ่งทำให้ควบคุมรถลำบาก
เข้า “N” หรือเกียร์ว่าง
3. เข้า “N” หรือเกียร์ว่าง
การเข้าเกียร์ว่าง เพื่อตัดไม่ให้เครื่องยนต์ส่งกำลังไปที่เกียร์ ทำให้เกียร์ไม่สามารถส่งกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อรถซึ่งจะช่วยให้รถไม่พุ่งไปด้านหน้า หากท่านใช้เกียร์กระปุก ขณะเข้าเกียร์ว่างเมื่อคันเร่งติดจะมีเสียงดังจากการเพิ่มรอบเครื่องเกิดขึ้น ซึ่งเป็นปกติไม่ต้องตกใจ เพราะเครื่องยนต์หัวฉีดสมัยใหม่ นับแต่ป1990 จะมีโปรแกรมที่
จำกัดการทำงานของรอบเครื่องอยู่แล้ว เช่น Honda City เมื่อเข้าเกียร์ว่างแล้วคันเร่งถูกกด รอบจะตีไม่เกิน 5,000 ส่วนเกียร์ออโต้ง่ายกว่ามากแค่โยกเกียร์ไปด้านหน้าเพื่อเข้า “N”เท่านั้น
เบรก
4. เบรก
หากเป็นถนนโล่ง หรือมีรถสวนบ้าง ค่อยๆเหยียบเบรกกะระยะเบรกให้ดีอย่าเบรกกระทันหันจนหัวทิ่ม แต่ถ้าเป็นเขตชุมชนควรดูรอบรถให้แน่ใจก่อนว่าไม่เบรกขวางทางรถคันอื่น หากอยู่ในภาวะกระชั้นชิด การจราจรติดขัด มีคนข้ามถนนตัดหน้าอันนี้ค่อยเบรกสุดตัว โดยพยายามประคองพวงมาลัยให้ตรง แต่ต้องระวังการเบรกตัวโก่งตรงทางโค้ง ตัวรถอาจเสียการทรงตัว หมุนคว้างได้
5. เปิดไฟขอทาง หาที่จอด
เมื่อรถเกิดการขัดข้อง ต้องหาที่จอดอย่าลืมเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแจ้งให้รถคันอื่นได้รู้ และขอทางเพื่อเข้าจอดในที่เหมาะสมรอการช่วยเหลือต่อไป หากเลี้ยวจอดกระทันหัน อาจทำให้รถที่ตามมาเบรกไม่ทันและเกิดอุบัติเหตุได้
6. ขอความช่วยเหลือ
หลังที่หาทางจอดรถได้ก็ถือว่าเหตุการณ์คับขันได้ผ่านไปแล้ว 80% ขั้นตอนต่อไปคือโทรเรียกช่างที่คุณใช้บริการเป็นประจำหรือแล้วแต่สะดวก จะให้ดีควรมีเบอร์ช่างติดรถเตรียมพร้อมอยู่เสมอสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และถ้าใครจะโทรหาญาติหรือคนรักเพื่อขอกำลังใจด้วยก็ได้ไม่ว่ากัน
จะเห็นได้ว่าวิธีดังกล่าวข้างต้นไม่ยากเลย เพียงแค่เรารู้วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องและทำตามขั้นตอน อย่าลืม! เมื่อ“คันเร่งค้าง” 1. ห้ามดับเครื่อง 2. เข้าเกียร์ว่าง 3. เบรก เพียงเท่านี้ก็รับมือกับเหตุการณ์ได้อย่างสบายๆแล้ว