สวัสดีค่ะ เนื่องจากว่าแถวๆบ้านอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำเมื่อเกิดมีฝนตกหนักก็มักที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำสูงบ้าง-ต่ำบ้างขึ้นอยู่กับปริมาณของฝนที่ตกค่ะ แล้วคือตัวหนูเองก็ต้องขับรถผ่านจุดที่มีน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเลยอยากทราบความรู้ว่าถ้าต้องขับรถผ่านจุดที่มีน้ำท่วมสูงจะต้องขับอย่างไรค่ะ แล้วมีข้อห้ามอะไรหรือไม่รบกวนขอคำตอบด้วยค่ะ
สุพัตรา นวลจันทร์ (supatra_kam@hotmail.com)
เจษฎา โชคอำนวย
วิธีการขับรถในพื้นที่น้ำท่วม
สวัสดีครับคุณสุพัตรา ก่อนอื่นต้องเรียนให้ทราบว่าการขับรถไปในเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังนั้นนับว่ามีความอันตรายเป็นอย่างมากเนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการที่น้ำจะเข้าไปภายในระบบเครื่องยนต์จนส่งผลให้เครื่องยนต์ดับได้ ยิ่งในกรณีที่ต้องขับรถยนต์ในขณะที่มีฝนตกหนักและต้องเข้าไปในพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น ภายในอุโมงค์ทางลอด เส้นทางเลียบริมแม่น้ำที่มีน้ำท่วมขังถือเป็นจุดที่ผู้ขับขี่ควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อการที่น้ำจะท่วมตัวรถได้ อีกทั้งยังมีอันตรายถึงชีวิตของผู้ขับขี่เองด้วย
กอปรกับการที่รถยนต์ในปัจจุบันมักมีการออกแบบติดตั้งช่องอากาศเข้าเครื่องยนต์ไว้บริเวณด้านบนหรือช่วงตรงกลางของกันชนหน้าซึ่งในกรณีนี้เมื่อผู้ขับขี่ขับรถลุยน้ำท่วมในระดับที่สูงถึงฝากระโปรงหน้าก็จะทำให้น้ำเข้าเครื่องยนต์และเครื่องยนต์ดับไปโดยปริยาย สาเหตุก็เพราะเครื่องยนต์ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้บีบอัดน้ำได้เมื่อน้ำเข้าสู่กระบอกสูบจะส่งผลให้ข้อเหวี่ยง ก้านเพลา รวมถึงส่วนต่างๆภายในเครื่องยนต์สามารถที่จะแตกหักได้ ทั้งนี้ผู้ขับขี่ควรหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านจุดที่มีน้ำท่วมสูง ส่วนในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่ทราบว่าระดับน้ำข้างหน้าที่กำลังจะขับข้ามไปมีความสูงมากน้อยเพียงใดก็อาจใช้วิธีการเปลี่ยนเส้นทางได้เช่นกันแม้จะเพิ่มระยะทางแต่ก็ลดความเสี่ยงที่เครื่องยนต์จะเสียหายได้
ขุบรถลุยน้ำท่วมต้องปฏิบัติอย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้นหากน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์แล้วทำให้ระบบไฟภายในรถมีปัญหาซึ่งในรถรุ่นใหม่นิยมใช้ระบบไฟฟ้าเป็นหลักจะทำให้ประตูไฟฟ้า รวมถึงระบบแอร์ และ กระจกไม่สามารถที่จะใช้งานได้เพราะฉะนั้นหากเลี่ยงไม่ได้จริงๆที่จะต้องขับรถลุยน้ำท่วมผู้ขับขี่ก็ควรปิดระบบปรับอากาศภายในรถและลดกระจกลงเพื่อเพิ่มความปลอดภัยหากเครื่องยนต์ดับ โดยในขณะที่ผู้ขับขี่ต้องขับรถผ่านพื้นที่น้ำท่วมนั้นควรใช้เกียร์ต่ำ ก่อนจะใช้วิธีการเหยียบคันเร่งเบาๆในระยะความเร็วที่ไม่สูงมากนักและไม่ควรที่จะผ่อนคันเร่งเพื่อป้องกันเครื่องยนต์ดับ และถ้าหากเครื่องยนต์ดับผู้ขับขี่ก็ไม่ควรฝืนสตาร์ทเครื่องยนต์อีกเพราะยิ่งจะทำให้น้ำเข้าไปภายในระบบเครื่องยนต์มากยิ่งขึ้น
ส่วนในกรณีที่มีรถขับอยู่ข้างหน้าผู้ขับขี่ควรปล่อยทิ้งระยะห่างประมาณ 2-3 ช่วงตัวรถ เนื่องจากรถคันที่ขับอยู่ด้านหน้าอาจทำการเบรก หรือ เครื่องยนต์ดับกะทันหันและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนขึ้น นอกจากนี้แล้วในกรณีที่ผู้ขับขี่นำรถไปขับขี่ผ่านจุดที่มีน้ำท่วมมาควรทำการล้างทำความสะอาดรถทุกครั้งเนื่องจากน้ำที่ท่วมขังเหล่านี้หากปล่อยทิ้งไว้คราบสกปรกต่างๆที่หมักหมมอยู่บนตัวรถจะส่งผลให้เกิดคราบสนิม หรือ ซีลยางต่างๆมีรอยรั่วและมีคราบสนิมขึ้นเกาะต่อไปได้ในอนาคต
สำหรับผู้ที่ต้องขับรถลุยน้ำท่วมสามารถนำความรู้ข้างต้นไปประยุกต์ใช้เพื่อให้สามารถขับรถลุยน้ำท่วมขังได้อย่างปลอดภัยมากที่สุดครับ