สวัสดีค่ะ พอดีรถที่ขับอยู่โดนเศษหินจากรถบรรทุกกระเด็นใส่กระจกด้านหน้าทำให้กระจกร้าวเป็นจุดเล็กๆไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ยังคงไม่แตกถ้าหากมองจากภายนอกก็จะเห็นเป็นรอยแตกร้าวได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ แล้วคราวนี้อยากจะสอบถามพวกพี่ๆว่าควรที่จะเปลี่ยนกระจกหรือไม่ค่ะเพราะแตกไม่มากและอีกประเด็นหนึ่ง คือ ค่าเปลี่ยนกระจกบานหน้าแพงอยู่พอสมควรด้วย รบกวนขอความคิดเห็นจากพวกพี่ๆด้วยค่ะ
กมลเนตร แสงอัปสร (kamonnate@gmail.com)
เจษฎา โชคอำนวย
กระจกรถแตกต้องรีบนำไปซ่อมหรือไม่
สวัสดีครับ คุณกมลเนตร
สำหรับกระจกรถเมื่อได้รับความเสียหาย หรือ แตกร้าว ควรที่จะทำการเปลี่ยนใหม่อย่างรวดเร็วที่สุดครับ เนื่องจากในขณะที่ทำการขับขี่รถอยู่ยิ่งเป็นกระจกบานหน้าด้วยแล้วต้องต้านทานแรงลมที่มาปะทะด้านหน้าตามความเร็วของรถซึ่งอาจจะส่งผลให้กระจกเกิดอาการร้าวและแตกได้ในขณะที่ทำการขับขี่จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับผู้ขับขี่ได้ อีกทั้งรอยแตกของกระจกแม้ว่าจะมีขนาดเล็ก หรือ รอยแตกขนาดใหญ่ก็ตามยิ่งปล่อยไว้นานรอยแตกยุบเหล่านั้นเมื่อถูกแรงลมก็จะยิ่งปริแตกเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามหากรอยแตกนั้นมองไม่เห็นอย่างเด่นชัดและมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนักก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำการเปลี่ยนกระจกบานใหม่แต่อย่างใด ผู้ขับขี่สามารถที่จะนำรถเข้าไปให้ร้านที่รับซ่อมกระจกรถยนต์โดยตรงซ่อมได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรที่จะปล่อยทิ้งเอาไว้นานเนื่องจากในขณะที่ทำการขับขี่อยู่บนท้องถนนอาจมีคราบหินปูนสกปรกเข้ามาเกาะอยู่ที่บริเวณรอยแตกได้ส่งผลให้ทำความสะอาดได้ยาก อีกทั้งยังทำให้รอยแตกของกระจกขยายวงกว้างขึ้นไปกว่าจนไม่สามารถประสานได้และต้องทำการเปลี่ยนใหม่ทั้งบาน
ทั้งนี้ช่างจะทำการซ่อมกระจกรถยนต์ที่แตกด้วยวิธีการฉีดน้ำยาเรซิ่นชนิดพิเศษแล้วทำให้แข็งตัวด้วยรังสียูวี จนกระทั่งเมื่อน้ำยาเรซิ่นที่ฉีดเข้าไปแห้งลงกระจกจะเริ่มแข็งตัวและประสานกันจนกลับมาเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งนี้น้ำยาเรซิ่นที่เป็นส่วนเกินจะถุกกำจัดออกไปด้วยวิธีการขัดและทำให้กระจกกลับมาสว่างใสได้อย่างเก่าอีกครั้ง
กระจกรถแตกมากควรนำเข้าซ่อมโดยด่วน
ส่วนวิธีการป้องกันไม่ให้กระจกแตกร้าวนั้นผู้ขับขี่ไม่ควรขับรถตามหลังรถบรรทุกหิน ดิน ทราย เนื่องจากเศษฝุ่นดินจากรถจำพวกนี้จะเข้ามาปะทะกับกระจกด้านหน้ารถโดยตรงจนทำให้กระจกแตกร้าว และ ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจกรถที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูงเนื่องจากจะทำให้กระจกมัวได้ง่ายมากยิ่งขึ้นแต่ผู้ขับขี่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดกระจกรถโดยตรง หากไม่สามารถที่จะหาได้ก็สามารถที่จะใช้น้ำยาล้างจานมาผสมกับน้ำสะอาดแล้วใช้เช็ดทำความสะอาดได้อีกเช่นกัน นอกจากนี้แล้วในถังพักน้ำสำหรับฉีดล้างกระจกผู้ขับขี่ก็สามารถที่จะเทน้ำยาล้างจานลงไปผสมด้วยได้ เนื่องจากในขณะขับขี่เมื่อเปิดน้ำสำหรับเช็ดล้างกระจกก็สามารถที่จะทำความสะอาดกระจกไปได้ในตัวอีกด้วย
สำหรับผู้ขับขี่ที่ใช้งานรถยนต์อยู่เป็นประจำควรเช็ดล้างทำความสะอาดกระจกรถอยู่เสมอเพื่อให้สามารถมองเห็นทัศนวิสัยภายนอกได้อย่างเด่นชัดครับ