09:20, 17 ก.ย. 2561

4 ขั้นตอนตรวจสภาพรถยนต์ก่อนเดินทางท่องเที่ยวช่วงปลายฝนต้นหนาว

บันทึกรายการ

การตรวจเช็ดสภาพรถยนต์ 4 ขั้นตอนก่อนการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปลายในต้นหนาว

ชอบขับรถเที่ยวต่างจังหวัดค่ะ ไม่ทราบว่า ควรมีการเตรียมตัวเกี่ยวกับการตรวจสภาพรถอย่างไรบ้างให้การเดินทางราบรื่น

Unclepor

ประเทศไทยท่องเที่ยวได้ทั้งปี และในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่กำลังใกล้จะมาถึงในเดือนตุลาคม จนถึงพฤศจิกายน เป็นช่วงที่ภูเขา น้ำตก ดอย ทะเลน่าท่องเที่ยวเป็นที่สุด แต่ไม่ว่าจะเดินทางไปเที่ยวไหนในช่วงอากาศดีๆและมีวันหยุดพักผ่อนยาวๆแบบนี้ การตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนออกเดินทางถือว่ามีความสำคัญมากๆ เพราะช่วยให้การเดินทางราบรื่นและถึงจุดหมายด้วยความสุขและปลอดภัย วันนี้เรามาดูวิธีการตรวจสอบรถยนต์ก่อนเดินทางออกไปพบประสบการณ์ใหม่ๆในช่วงปลายฝนต้นหนาว

ตรวจสอบระบบเบรค

ตรวจสอบการเบรค หมั่นฟังเสียงเบรคประจำรถของคุณไว้เสมอๆ  ว่ามีเสียงเอี๊ยดอ๊าดผิดปกติ หรือเวลาเหยียบเบรคแล้วหยุดสนิทหรือไม่  อาการของรถมีการสั่นหรือกระตุกอย่างไร เพื่อที่จะได้บอกอาการของรถถูกเมื่อนำรถไปตรวจเช็คระบบเบรกที่ศูนย์บริการ  เพราะการตรวจสอบระบบเบรกมีความยุ่งยากและซับซ้อนเกินกว่าที่คุณจะสามารถดูแลด้วยตนเองได้ ไว้ใจให้ผู้เชี่ยวชาญเช็คเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ดีกว่า

ตรวจเช็คแบตเตอรี่

ในส่วนของแบตเตอรี่เป็นชนิดเติมน้ำกลั่น ควรตรวจวัดระดับน้ำกลั่นก่อนทุกครั้ง และควรตรวจที่ขั้วแบตเตอรี่ว่าแน่นหรือไม่ มีสนิมมาเกาะบริเวณขั้วหรือเปล่า ซึ่งโดยปกติแล้วอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อยู่ที่ประมาณ 2 ปี หากใช้แบตฯ ลูกนี้มีการใช้งานนานเกินจำ  แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนใหม่ก่อนออกเดินทาง เพราะการขับรถไปจอดแล้วสตาร์ทไม่ติดอาจจะทำให้เสียเวลาการท่องเที่ยว และหาที่เปลี่ยนยากสุดๆในแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่สามารถทราบได้ว่ามีหรือไม่

ตรวจเช็คหม้อน้ำและน้ำยาหล่อเย็น

ความสำคัญของหม้อน้ำคือ ช่วยระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ ความร้อนที่สูงเกินไปจะทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ ในเครื่องยนต์เสียหาย ดังนั้น แค่เปิดกระโปรงรถ แล้วดูระดับน้ำในหม้อน้ำสำรอง ให้อยู่ในระหว่าง Max กับ Min ก็เพียงพอแล้ว ข้อควรระวังคือ อย่าเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์กำลังร้อน เพราะน้ำร้อนอาจพุ่งขึ้นมาจนทำให้เกิดอันตรายได้ เช่นเดียวกับการตรวจเช็คน้ำยาหล่อเย็น (Coolant) ที่ช่วยให้ระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง

ก่อนขับรถทางไกลทุกครั้งควรเช็คระดับหรือเช็คสภาพน้ำมันเครื่อง ซึ่งการเช็คระดับน้ำมันเครื่องนั้น คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยจอดรถในแนวราบ สตาร์ทรถทิ้งไว้ เพื่อวอร์มเครื่องให้มีความร้อนเท่ากับตอนวิ่งปกติ เมื่อมาตรวัดความร้อนขึ้นแล้ว ให้ดับเครื่อง แล้วรอสัก 2-3 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องที่อยู่ในเครื่องยนต์ไหลกลับลงอ่าง จากนั้นดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องขึ้นมา แล้วใช้กระดาษชำระเช็ดน้ำมันเครื่องที่ส่วนปลายก้านออก เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องกลับลงไปตรงๆ จนสุด แล้วดึงขึ้นมาเพื่ออ่านค่าระดับน้ำมันที่วัดได้ หากอยู่ในระดับ Mid ก็เติมน้ำมันเครื่องให้อยู่ระหว่าง Max กับ Mid

ส่วนการเช็คสภาพน้ำมันเครื่องนั้น ให้สังเกตว่าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนสีเป็นสีดำหรือยัง ถ้าใช่ แสดงว่าถึงเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว และควรดำเนินการทันที เพื่อให้รถยนต์ของคุณอยู่ในสภาพพร้อมสำหรับการเดินทางไกลอย่างปลอดภัย

เมื่อสภาพรถพร้อมแล้ว สุขภาพของผู้ขับขี่ก็มีความสำคัญเช่นกัน  ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนออกเดินทาง เพราะการขับรถอย่างมีสติสำคัญไม่แพ้สมรรถนะความพร้อมของเครื่องยนต์ เพื่อความปลอดภัยและสดชื่นสดใสกับการท่องเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวอย่างมีความสุข

บทความที่เกี่ยวข้อง

ในหมวดเดียวกัน