09:52, 29 ธ.ค. 2565

ค่าออกเทน คืออะไร

บันทึกรายการ

ค่าออกเทน คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรกับรถของเรา และ ออก เท น ช่วยทำให้รถแรงขึ้นได้จริงหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ

เชื่อว่าหลายคนยังคงเข้าใจว่าควรเติม น้ำ มัน ออก เท น สูงเข้าไว้ก่อนเพื่อจะทำให้รถมีความเร็วและแรงมากยิ่งขึ้น จึงทำให้มีความคิดว่าการเติมน้ำมันที่มีเกรดออกเทนสูงจะเหมาะสมและเป็นเรื่องดีกับรถยนต์ทุกคัน โดยเรื่องนี้สำหรับคนที่ใช้รถยนต์เครื่องดีเซลอาจจะไม่ต้องกังวลมากเท่าไร เนื่องจากการจุดติดระเบิดให้กำลังเครื่องยนต์นั้นแตกต่างกัน แต่สำหรับคนที่ขับรถยนต์เครื่องยนต์เบนซินต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก มาดูกันว่าค่าออกเทนคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรกันบ้างในบทความนี้

ค่าออกเทน คืออะไร

ค่าออกเทน คืออะไร

ค่า ออก เท น คือ ค่ามาตรฐานกลางที่เอาไว้ใช้เพื่อกำหนดความสามารถของเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์ว่ามีความสามารถที่มีพละกำลังเครื่องยนต์สูงโดยที่ไม่จุดระเบิดตัวเองก่อนการจุดระเบิดตามกลวัตรการทำงานของเครื่องยนต์ โดยตัวเลขของค่าออกเทนเป็นค่าที่เกิดขึ้นจากกระบวนการกลั่นน้ำมันตามกระบวนการกลั่นน้ำมันดิบ ซึ่งในแต่ละโมเลกุลของน้ำมันจะประกอบไปด้วยธาตุคาร์บอนและไฮโดรเจนเรียงร้อยต่อกัน ซึ่งค่าที่นำมากำหนดและใช้ในเชื้อเพลิงเรียกว่า Iso-octane ซึ่งมีคุณสมบัติทนความร้อนและแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติที่สามารถพบได้ในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์

นอกจากนี้ยังมีค่า Heptune ที่นำมาใช้กับน้ำมันเชื้อเพลิง แต่จะมีความอ่อนไหวมากกว่าจนสามารถชิงจุดระเบิดด้วยตัวเองได้ ซึ่งค่าออกเทนที่เกิดขึ้นจึงบอกได้ว่าน้ำมันเชื้อเพลิงถูกทดสอบมาเพื่อทนต่อการชิงจุดระเบิดได้มากน้อยเพียงใด เช่น น้ำมันเบนซิน 95 ประกอบไปด้วย Iso-octane 95 ส่วน และ Heptane 5 ส่วน ตัวเลขนี้หมายความว่าน้ำมันชนิดนี้มีความสามารถต่อต้านต่อการชิงจุดระเบิดของน้ำมันได้มากถึง 95% และสามารถบ่งบอกได้ว่าถึงแม้จะมีค่าออกเทนสูงแต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความเร็วและความแรงได้มากกว่ากันเลย

น้ำมันชิงจุดระเบิด คืออะไร

โดยปกติแล้วเครื่องยนต์ของรถจะประกอบไปด้วยระบบการทำงานหลากหลายชิ้นส่วน ซึ่งมีทั้งเรื่องการเสียดทาน ระบบความร้อนในการทำงาน รวมถึงอัตราการอัด หรือ Compression Ratio คือค่ากำลังอัดจากจังหวะจุดติดระเบิดที่จะขยายตัวส่งลูกสูบลงไปหมุนเพลาให้เป็นแรงบิดไปสู่ชุดเกียร์และลงไปยังล้อรถ ถ้าหากว่ามีกำลังอัดเครื่องยนต์มากก็จะทำให้การทำงานของเครื่องยนต์มีแรงดันภายในเผาไหม้และเกิดอุณหภูมิสูงขึ้น จนทำให้เชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์มีความจำเป็นต้องต่อต้านการชิงจุดระเบิด แต่ถ้าหากผู้ขับขี่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนต่ำกว่าที่เครื่องยนต์กำหนด ในระหว่างที่หัวฉีดเชื้อเพลิงจ่ายน้ำมันลงไปยังห้องเผาไหม้จะจุดระเบิดตัวเองทันทีก่อนที่หัวเทียนจะจุดระเบิด ซึ่งทำให้เครื่องยนต์มีแรงดันภายในห้องเผาไหม้มากเกินไปจนทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่องยนต์เกิดความผิดพลาด โดยอาการที่กล่าวมานี้เรียกว่า Knocking

น้ำมันชิงจุดระเบิด คืออะไร

ผลลัพธ์การใช้ค่าออกเทน

เมื่อผู้ใช้รถได้ใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนที่เหมาะสมกับความต้องการของเครื่องยนต์ ผลลัพธ์ที่ได้คือจะทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นการประหยัดทรัพยากรและพลังงาน รวมทั้งยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย แต่ถ้าหากผู้ขับขี่ใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนต่ำกว่าความต้องการของเครื่องยนต์ก็จะทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพที่ลดลง รวมถึงอาจเกิดความเสียหายไปยังตัวกรองไอเสีย แต่ในขณะเดียวกันหากใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงกว่าความต้องการของเครื่องยนต์ก็จะทำให้เกิดความสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

ออกเทนยิ่งสูง ช่วยให้รถแรงขึ้นจริงหรือไม่

หลายคนคงมีความสงสัยว่าถ้าหากเติมค่าออกเทนสูงจะช่วยทำให้รถของเราแรงขึ้นได้จริงหรือไม่ ซึ่งก็คงต้องบอกว่าเป็นเรื่องจริงแต่ไม่ใช่กับรถทุกประเภท เพราะรถบางประเภทได้มีการออกแบบเครื่องยนต์ให้สามารถรับประโยชน์ได้จากออกเทนน้ำมัน เช่น เครื่องยนต์เทอร์โบ หรือเครื่องยนต์กำลังอัดสูง เป็นต้น โดยตามหลักการแล้วการจุดระเบิดเครื่องยนต์จะมีระยะเวลาที่แน่นอน แต่ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ในปัจจุบันได้มีการตรวจจับค่าการจุดระเบิดจนทำให้เครื่องยนต์หลายรุ่นสามารถปรับเวลาการจุดระเบิดได้ด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายของเครื่องยนต์ ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ขับขี่เติมน้ำมัน E20 เครื่องยนต์ก็จะถูกตั้งค่าการจุดระเบิดอีกแบบ หรือการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 95 เครื่องยนต์ก็จะถูกตั้งค่าตามน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้รับมา

อย่างไรก็ตาม หากจะอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น ค่าออกเทน จริง ๆ แล้วก็คือเป็นเพียงแค่ค่าทนความร้อนภายในน้ำมันเท่านั้น แต่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเพราะว่าค่าออกเทนมีผลต่อเครื่องยนต์ได้หลายปัจจัย ทั้งเรื่องความเร็ว ความแรง และอัตราการประหยัดน้ำมัน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้รถของคุณแรงขึ้นได้ ทั้งนี้ ควรคำนึงถึงข้อจำกัดของสมรรถนะของพละกำลังเครื่องยนต์แต่ละแบบที่ไม่เหมือนกัน และผู้ใช้รถควรเลือกเติมน้ำมันตามคู่มือการใช้งานของรถยนต์ที่ได้ระบุเอาไว้ เพื่อรีดประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ได้อย่างเต็มที่

ดูเพิ่มเติม

เกียร์ S คืออะไร ใช้ตอนไหนดี

การ เปิด แอร์ รถยนต์ ที่ ถูก ต้อง ควรทำอย่างไร

ในหมวดเดียวกัน