รถยนต์ เป็นยานพาหนะสำคัญที่ใช้สำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน แน่นอนว่าเมื่อผ่านไปนานหลายปีสีของรถยนต์ก็ย่อมซีดลงเป็นธรรมดา จึงทำให้หลายคนเลือกที่จะนำรถยนต์ของตัวเองไปทำสีใหม่และถือโอกาสเปลี่ยนสีให้แตกต่างไปจากเดิม เพื่อสร้างความแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำเดิมอีกต่อไป แต่หลังจากการเปลี่ยนสีรถยนต์แล้วยังมีอีกหนึ่งขั้นตอน คือการแจ้งเปลี่ยนสีรถที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งถ้าหากว่าผู้ใดที่ไม่ทำตามขั้นตอนนี้จะมีความผิดทางกฎหมาย วันนี้เราจึงมาแนะนำการแจ้งเปลี่ยนสีรถต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และมีขั้นตอนอย่างไรมาฝากผู้อ่านทุกคน
แจ้งเปลี่ยนสีรถ
การแจ้งเปลี่ยนสีรถ ใช้เอกสารอะไรบ้าง
สำหรับการแจ้งเปลี่ยนสีรถจะต้องมีการเตรียมเอกสารก่อนไปทำเรื่องที่กรมการขนส่งทางบก ซึ่งเอกสารในการแจ้งเปลี่ยนสีรถมีดังนี้
ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถ
หลังจากที่ได้รู้กันไปแล้วว่าการแจ้งเปลี่ยนสีรถจะมีการเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ต่อมาเป็นขั้นตอนการดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถมีดังนี้
เมื่อเจ้าของรถได้ทราบกันไปแล้วว่าการเปลี่ยนสีรถจะต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง และขั้นตอนการดำเนินการเปลี่ยนสีรถจะต้องทำอย่างไรบ้าง สุดท้ายเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายในการแจ้งเปลี่ยนสีรถมีดังนี้
สำหรับรถที่ไม่ได้ทำการเปลี่ยนสีรถ แต่แปะสติกเกอร์รอบคัน หรือแปะวัสดุอื่นๆ จะต้องเข้าดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถหรือไม่นั้น คำตอบคือหากรถของคุณติดสติกเกอร์รอบคันเกินกว่า 30% ของตัวรถทั้งหมด จะต้องเข้าแจ้งดำเนินการเปลี่ยนสีรถกับกรมการขนส่งทางบกเช่นเดียวกัน แล้วเกิน 30% เป็นแบบไหน สามารถสังเกตได้ง่ายเลยคือการเปลี่ยนสีรถบริเวณกระโปรงหน้าหรือกระโปรงท้าย ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เกิน 30% อย่างแน่นอน หากทำสีในส่วนนี้ก็ต้องไปดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถรูปแบบเดียวกันกับด้านบน มิฉะนั้นอาจโดนตำรวจเรียกและเสียค่าปรับได้โดยไม่รู้ตัว
การจดแจ้งสีรถตามกฎหมายที่ออกโดยกรมขนส่งทางบก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป ได้ระบุเอาไว้ดังนี้
สุดท้ายนี้ สำหรับใครที่ได้นำรถยนต์ของตัวเองไปทำการเปลี่ยนสีมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปทำเรื่องแจ้งการเปลี่ยนสีต่อนายทะเบียน ต้องรีบไปดำเนินการให้เรียบร้อยได้ที่กรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศไทย เพื่อทำเรื่องให้ถูกต้องตามกฎหมายและขับใช้รถในชีวิตประจำวันได้อย่างสบายใจ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaorot.com/
ดูเพิ่มเติม: