Bollinger B2 ตัวถังทำมาจากอลูมีเนียม
Bollinger B1 เป็นรถ SUV แบบไฟฟ้าที่ผลิตจากอเมริกา ซึ่งรวมเอาการออกแบบที่ยอดเยี่ยมที่สุดชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์รถยนต์ ด้วยภาพลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่ง มุมมองการใช้พื้นที่ได้หลากหลาย และอีกไม่นานก็จะเตรียมต้อนรับน้องใหม่ที่มาในแบบรถบรรทุกในชื่อ Bollinger B2 ซึ่งสามารถบรรทุกสัมภาระได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ทาง Bollinger ได้ปล่อยเพียงภาพประกอบการออกแบบโดยใช้คอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ Bollinger กล่าวว่า B2 จะใช้วัสดุในการวร้างตัวถังจากอลูมิเนียม ซึ่งเหมือนกับเป็น Bollinger B1 ในเวอร์ชั่นรถกระบะนั่นเอง
รถกระบะไฟฟ้าคันแรกของโลกที่มีระบบขับเคลื่อนแบบ All Wheel Drive
และเช่นเดียวกับในรุ่น SUV รถกระบะ Bollinger B2 จะเคลื่อนที่ด้วยชุดมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่มีกำลังการผลิตรวม 520 แรงม้า พร้อมระบบกันสั่นสะเทื่อนแบบ Hydro-pneumatic ที่รองรับแรงสั่นสะเทื่อนได้ดีเยี่ยม นุ่มนวลทุกเส้นทางการขับขี่ และที่น่าสนใจคือแบตเตอรีไฟฟ้าขนาด 120 กิโลวัตต์นี้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 320 กิโลเมตร (200 ไมล์) อีกทั้งยังมีขนาดกระทัดรัดไม้สิ้นเปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ นอกจากนี้ยังเป็นรถกระบะไฟฟ้าคันแรกของโลกที่มีระบบขับเคลื่อนแบบ All Wheel Drive
ตัวถังออกแบบพิเศษสามารเปิดทะลุเพื่อการใช้งานหลากหลายรูปแบบ
การส่งผ่านคุณลักษณะต่างๆจาก B1 จะรวมถึงฝาเปิดด้านหลังของที่นั่งแถวสอง ที่สามารถเปิดเชื่อมไปถึงส่วนกระบะท้ายช่วยเพิ่มพื้นที่ได้มากขึ้น โดยส่วนท้ายกระบะ B2 ขนาดปกติจะกว้าง 2,645 มิลลิเมตร ยาว 3,806 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าไม่กว้างมาก แต่เมื่อเปิดฝากระจกหลังที่นั่งแถวสองจะสามารถบรรทุกไม้กระดานอัดได้ถึง 8 แผ่นอย่างสบายๆ นอกจากนี้ยังสามารถจัดเรียงไม้อัดหนา 0.5 นิ้วได้ถึง 72 แผ่นด้วยกัน
เช่นเดียวกันกับ B1 รถกระบะรุ่น B2 จะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรถบรรทุกคลาส 3 โดย Bollinger B2 สามารถบรรทุกน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 2,268 กิโลกรัม (5,000 ปอนด์) และมีความสามารถลากจูงสูงสุด 3,400 กิโลกรัม(7,500 ปอนด์)
สามารถบรรทุกหนักสูงสุด 2,268 กิโลกรัม
โดยทางค่ายผู้ผลิตรถยนต์ Bollinger กล่าว่า ทางบริษัทวางแผนเริ่มผลิตในปี 2019 และหลังจากกระบวนการทดสอบเสร็จสิ้น จะเริ่มวางจำหน่ายในต้นปีถัดไป
Bollinger B2 นับว่าเป็นรถกระบะในฝันของหลายๆท่าน เพราะนอกจากจะมีรูปทรงที่แข็งแกร่ง โดดเด่นจากรถกระบะค่ายอื่นแล้ว คุณสมบัติในการใช้งานที่สามารถยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตลอดยังเป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง อีกทั้งยังใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งทันกับยุคสมัย จึงไม่แปลกใจถ้าผู้ใช้จะหลงรักรถกระบะคันนี้ และหวังว่าโมเดลจริงจะเหมือนกับการออกแบบหรืออาจดีกว่าเดิม คงต้องติดตามชมกันต่อไปครับ
ดูเพิ่มเติม