Honda (ฮอนด้า) แท็กทีม GM หรือ General Motors (เจเนอรัล มอเตอร์ส) พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า Honda บนแพลตฟอร์มสหกรณ์ใหม่ที่เปิดกว้างของ GM โดยมีชื่อเรียกเฉพาะว่า Flexible Global Platform ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์การลดต้นทุนด้วยปริมาณ (economies of scale) ขณะที่คู่แข่งอย่าง Toyota เลือก BYD เป็นคู่ขาพัฒนา EV
วันที่ 2 เมษายน 2563 Honda และ GM ประกาศความร่วมมือในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า Honda ใหม่ 2 รุ่น โดยจะใช้โมดูลาร์แพลตฟอร์มหรือ Flexible Global Platform และ Ultium Batteries ของ GM
ทั้งนี้ Flexible Global Platform และ Ultium Batteries ถือเป็นไพ่ใบสำคัญในการขับเคลื่อน GM ไปสู่ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแถวหน้า เพราะแพลตฟอร์มดังกล่าวนั้นคงแนวคิดการผลิตแบบมวล (Mass) คล้ายกับ Ford Model T เมื่อร้อยกว่าปีก่อน
ซึ่ง Flexible Global Platform และ Ultium Batteries ออกแบบไว้ให้สามารถนำไปปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลากรูปแบบ หลายขนาด หลายแบรนด์ (เป็นโมดูลาร์คล้ายตัวต่อ LEGO อยากยาวก็ต่อ อยากสั้นก็ตัดออก มีความยืดหยุ่นสูง) และรถยนต์ไฟฟ้า Honda 2 รุ่นใหม่ ก็จะใช้ Flexible Global Platform และ Ultium Batteries เช่นกัน
แต่ในส่วนของดีไซน์ รถยนต์ไฟฟ้า Honda ทาง Honda จะเป็นผู้ออกแบบเอง รวมถึงการปรับแต่งทางด้านวิศวกรรมให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น มีการบังคับควบคุมตามวิถีของ Honda ส่วนข้อดีของการร่วมกันใช้แพลตฟอร์ม Flexible Global Platform และ Ultium Batteries ร่วมกับ GM ย่อมเป็นการเร่งให้เกิด economies of scale ที่ต้องอาศัยปริมาณมาช่วยเฉลี่ยลดต้นทุน รวมถึงระยะเวลาการพัฒนา เรียกว่า วิน วิน สำหรับ Honda และ GM
ขณะที่ Ultium Batteries ของ GM นั้นพัฒนาร่วมกับ LG Chem ตั้งแต่ระดับเคมีของแบตเตอรี่ ไปจนถึงการออกแบบแบตเตอรี่แพ็กให้มีขนาดบาง ง่ายต่อส่วนอื่น ๆ ทั้งการออกแบบระบบระบายความร้อน จัดสรรพื้นที่ห้องโดยสาร (ตัวแบตเตอรี่จะวางนอน หรือตั้งก็ได้) และ GM คาดว่า Ultium Batteries จะทำระยะทางวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 640 กม./ชาร์จ
ทั้งนี้รถยนต์ไฟฟ้า Honda รุ่นใหม่ ที่พัฒนาร่วมกับ GM (หรือใช้เทคโนโลยีแพลตฟอร์ม และแบตเตอรี่ของ GM) ทาง Honda คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในปี 2024 สำหรับตลาดสหรัฐฯ รวมถึงแคนาดาเป็นแห่งแรก ซึ่งนอกจากโปรเจกต์นี้แล้ว Honda และ GM ยังพัฒนาเทคโนโลยีเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell), ระบบขับขี่อัตโนมัติ ร่วมกันด้วย
ดูเพิ่มเติม