16:28, 6 มิ.ย. 2562

ยาง Uptis ไม่รั่ว ไม่ต้องเติมลม! ยางรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Michelin

บันทึกรายการ

Michelin เปิดตัวยางรถยนต์แบบใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติล้ำยุค ไม่ต้องเติมลม และไม่ต้องกลัวยางรั่วอีกต่อไป


Michelin Uptis

Michelin ได้นำเสนอยางต้นแบบ Uptis หรือ Unique Puncture-proof Tire System เกิดจากการคิดค้น และผสมผสานระหว่าง ยางธรรมชาติ อลูมิเนียม และเรซิ่น ไฟเบอร์กลาส แบบใหม่ พร้อมคุณสมบัติเชิงกลและอุณหภูมิที่เหมาะสม จนกระทั่งกลายมาเป็น ยาง Uptis อย่างที่เห็นกัน โดยได้รับความร่วมมือจาก GM ในการทดสอบสมรรภาพ ผ่านรถยนต์ Chevrolet Bolt EV

โดย Eric Vinesse รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Group Michelin ได้กล่าวว่า ยาง Uptis มีการจดสิทธิบัติมากกว่า 50 ประเทศแล้ว และยังได้รับการยืนยันว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสามารถลดปริมาณยางที่ต้องกำจัดทิ้งได้ เพราะจากข้อมูลของ Michelin พบว่า 20 % ของยางทั้งหมด (ราว 200 ล้านเส้น) มักเสียหายก่อนเวลาอันควรจากสาเหตุต่างๆ อาทิ รั่วซึม บิดเบี้ยว เป็นต้น

Michelin Uptis จากการผสมผสานของวัสดุแบบใหม่

สำหรับยางรถชนิดนี้ ได้เตรียมติดตั้งให้กับรถยนต์กลุ่ม eco ของ General Motors ในราวปี 2024 ตามที่ Steve Kiefer รองประธานอาวุโสของ GM ด้านการจัดซื้อและซัพพลายเชนทั่วโลก ได้มีส่วนช่วยในการนำเสนอยางรถ Uptis ของ Michelin โดย Michelin และ GM ได้ร่วมกันทดสอบสมรรถนะของยางต้นแบบ เริ่มจาก Chevrolet Bolt EV จากนั้นจึงเปลี่ยนการทดสอบไปที่รถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆของค่าย นอกจากนี้ยังมีแผนทดสอบการใช้งานจริงภายในปีนี้อีกด้วย

UPTIS: a fundamental step towards more sustainable mobility!

ทั้งนี้ Michelin และ GM ไม่ได้เป็นบริษัทแรกที่ริเริ่มคิดค้นยางแบบไม่บรรจุแรงดัน เนื่องจากในปี 2017 ทาง Toyota และ Sumitomo ได้มีการเผยคอนเซปต์ยางลักษณะนี้เช่นกัน โดยทาง Michelin มองว่ายางแบบใหม่นี้ จะเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้อย่างมาก แรกสุดคือลดต้นทุนการบำรุงรักษาที่แทบจะไม่เกิดขึ้นเลย ลดความเสี่ยงอันเกิดจากยางรั่ว และไม่ต้องเสียเวลากับปัญหาจากยางรถอีกต่อไป

ยางแห่งอนาคต ที่ช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษาได้เป็นอย่างดี

ตามที่ Cyrille Roget ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารด้านเทคนิคและวิทยาศาสตร์ของมิชลิน ให้ข้อมูลว่า ยาง Uptis จะมีน้ำหนักประมาณ 22.6 กิโลกรัม (ราว 50 ปอนด์) ซึ่งหนักกว่ายางทั่วไปเล็กน้อย แต่จะเบากว่ายาง run-flat ซึ่งผู้ที่ใช้ยาง Uptis จะสามารถลดน้ำหนักของอุปกรณ์ติดรถต่างๆได้มากพอสมควร อาทิ ยางอะไหล่ แม่แรง และชุดเปลี่ยนยาง นอกจากนี้ทาง Michelin ยังเผยอีกว่า Uptis เหมาะกับยานพาหนะในอนาคตมากที่สุด เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์ไม่เพียงพัฒนาเครื่องยนต์ และพลังงานเท่านั้น แต่คุณสมบัติการขับขี่ในอนาคตมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ชิ้นส่วนรถยนต์แบบดั้งเดิมบางชิ้นอาจหายไปในไม่ช้าเช่นอากาศในยางรถยนต์

อ่านเพิ่มเติม
6 สาเหตุหลักที่ทำให้ยางรถยนต์เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ที่หลายๆ คนมองข้าม
รู้หรือไม่ว่าการจอดรถบนพื้นถนนเรียบเป็นเวลานานๆ มีผลทำให้ยางรถยนต์เสียทรงได้

Khan-Chit

ในหมวดเดียวกัน