ฟอร์ดเตรียมลดกำลังคนกว่า 7,000 ตำแหน่ง
เรียกความสนใจจากแฟนคลับค่ายฟอร์ดรวมไปถึงผู้สนใจข่าวสารในแวดวงรถยนต์จากทั่วโลกรวมถึงภายในประเทศไทยได้เป็นอย่างดีเมื่อฟอร์ด มอเตอร์ผู้ผลิตรถยนต์ฟอร์ดที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ภายในประเทศสหรัฐอเมริกาผลิตระยนต์ออกจำหน่ายทั่วโลกภายใต้แบรนด์ฟอร์ดถือเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ ได้มีการเปิดเผยผ่านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานตรงจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา ผ่านแถลงการณ์มีข้อความว่า
“บริษัทจะทำการประกาศแจ้งให้พนักงานรับทราบเกี่ยวกับกำหนดการเลิกจ้างงานซึ่งจะมีกำหนดเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 21 พฤษภาคมนี้ และ การเลิกจ้างในครั้งนี้จะครบกำหนดสิ้นสุดลงไปภายในสิ้นเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้” อย่างไรก็ตามพนักงานส่วนใหญ่ที่ฟอร์ดมีเป้าหมายในการปลดออกนั้นเป็นพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในแถบอเมริกาเหนือมีจำนวนประมาณ 2,400 คน หรือ ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานรับเงินเดือนที่มีอยู่ทั่วโลก พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการให้พนักงานมีการลาออกโดยสมัครใจอีกจำนวน 1,500 คน อีกด้วยถือเป็นมาตรการลดกำลังพนักงานฝ่ายผลิตครั้งใหญ่ในรอบหลายปีของฟอร์ด
ฟอร์ดประกาศเลิกจ้างพนักงานในอเมริกาเหนือ
กอปรกับที่นางมาริสา แบรดลีย์ โฆษกหญิงจากค่ายฟอร์ดได้กล่าวถึงมาตรการที่ฟอร์ดปรับลดพนักงานกว่า 7,000 ตำแหน่ง มีการระบุออกมาว่า ฟอร์ดจะมีกำหนดพิจารณาปลดพนักงานออกภายในสัปดาห์นี้โดยเริ่มจากฝั่งอเมริกาเหนือก่อนเป็นที่แรก ส่วนในภูมิภาคอื่นยังไม่มีการระบุพื้นที่เป้าหมายในการปลดพนักงานอย่างแน่ชัด
ทางด้านนายจิม แฮกเก็ตต์ ประธานบริษัทฟอร์ด มีการเปิดเผยว่า ในการปรับโครงสร้างด้านกำลังคนครั้งใหญ่ของบริษัทคราวนี้กลุ่มเป้าหมายหลักที่จะถูกบอกเลิกจากนั้น คือ พนักงานในระดับผู้จัดการที่มีอัตราเงินเดือนสูซึ่งอาจจะเข้าข่ายในประกาศเลิกจ้างครั้งนี้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์
ตะลึง ! ฟอร์ดปรับโครงสร้างครั้งใหญ่
สำหรับมาตรการดังกล่าวถือเป็นการปฏิบัติตามกรอบการลดภาระค่าใช้จ่ายในแง่ของเงินเดือนพนักงานโดยแผนปรับโครงสร้างลดจำนวนพนักงานลงในครั้งนี้จะช่วยให้ฟอร์ดสามารถที่จะลดรายจ่ายลงไปได้มากถึงปีละ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว โดยฟอร์ดเริ่มมีแนวคิดหันไปลงทุนในกิจการพัฒนาเกี่ยวกับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (รถ EV) และ รถยนต์ไร้คนขับ พร้อมกับมีความคาดหมายในการเติบโตกับธุรกิจรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในระยะยาวซึ่งในปัจจุบันค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายค่ายทั้งในฝั่งเอเชีย ยุโรป และ ทวีปอเมริกาต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนารถยนต์ในกลุ่มนี้
ฟอร์ดปลดพนักงาน
ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 เป็นต้นมาฟอร์ดได้มีแนวทางการทำตลาดรถยนต์ในกลุ่มประเทศภายในเอเชียมากยิ่งขึ้น อาทิ ในออสเตรเลียมีการนำ Ford F-150 รถกระบะในสไตล์ออฟโรด 4 ประตูขนาดใหญ่ที่สามารถบรรทุกสัมภาระได้เป็นจำนวนมากเข้ามาตีตลาดภายในออสเตรเลียเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานรถออฟโรด และ รถที่สามารถขับขี่ได้ภายในพื้นที่ทุรกันดารรวมไปถึง Ford Everest รถอเนกประสงค์ในตระกูลพีพีวีที่ได้รับการพัฒนามาจากพื้นฐานกระบะก็เรียกคะแนนนิยมจากนักขับในแถบออสเตรเลียได้อย่าล้นหลาม
Ford Ranger Raptor
กอปรกับในตลาดรถเมืองไทยเองนั้นฟอร์ดก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากนักขับผู้ชื่นชอบรถกระบะในสไตล์อเมริกันทั้งจาก Ford Ranger Wildtrak และ ในรุ่นล่าสุด Ford Ranger Raptor กระบะสุดพรีเมียมที่มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นถึง 1.6 ล้าน สามารถตีตลาดกลุ่มผู้ชื่นชอบกระบะที่มาพร้อมฟังก์ชั่นช่วยเหลือตลอดการขับขี่ได้เป็นอย่างดีนับเป็นมิติใหม่ของรถกระบะและสร้างความนิยมให้แก่ฟอร์ดที่มีการจำหน่ายทั้งในประเทศไทยรวมไปถึงกลุ่มประเทศภายในภูมิภาคอาเซียนได้เป็นจำนวนมาก
แตกต่างจากภายในแถบอเมริกาเหนือรวมถึงภายในทวีปยุโรปที่มียอดการจัดจำหน่ายรถยนต์ฟอร์ดได้ไม่ดีเท่าไรนักเนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อในปัจจุบันมีการหันไปนิยมรถในกลุ่ม SUV และ รถกระบะ ทำให้รถซีดานมียอดจำหน่ายที่ลดลงไปผนวกกับสถานการณ์กีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งผลให้ธุรกิจทั่วโลกมีการชะลอตัวลงเนื่องจากความไม่แน่นอนในการส่งออกยิ่งส่งผลผลักดันให้ยักษ์ใหญ่ในตลาดรถยนต์อย่างฟอร์ด มอเตอร์ต้องประกาศมาตรการขั้นเด็ดขาดในการบอกเลิกสัญญาจ้างงานเพื่อช่วยป้องกันงบประมาณของบริษัทที่ต้องจ่ายออกไปเป็นจำนวนมากอยู่โดยตลอด
Ford Everest
อย่างไรก็ตามภายในปี 2019 นี้ฟอร์ดยังคงมีเป้าหมายในการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่องผ่านการปรับโครงสร้างกำลังคนเช่นเดียวกันทั้งจากการเตรียมถอนตัวออกจากธุรกิจในการผลิตรถบรรทุกขนาดใหญ่ในบราซิล (Heavy Truck) ที่นับเป็นธุรกิจรถที่ฟอร์ดได้มีการไปลงทุนไว้ในทวีปอเมริกาใต้ เสริมด้วยมาตรการยุติการผลิตรถยนต์จากโรงงานขนาดใหญ่ในรัสเซียที่ฟอร์ดมีการจัดตั้งเอาไว้ถึง 2 แห่ง และ ยังปรับโครงสร้างอัตรากำลังคนจากโรงงานฟอร์ดที่ถูกตั้งเอาไว้ในเมืองบอร์กโดซ์ภายในประเทศฝรั่งเศสอีกด้วย
สำหรับในประเทศไทยผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดยังคงมั่นใจได้กับมาตรการปรับลดกำลังคนของฟอร์ดในแถบอเมริกาเหนือที่จะไม่ส่งผลกระทบระยะยาวถึงไทยแต่อย่างใดและไม่มีผลต่อกำหนดการส่งมอบรถที่ถูกสั่งจองไปแล้วก่อนหน้านี้ครับ
ดูเพิ่มเติม