ถือว่าเป็นข่าวที่ทำเอาตกตะลึงกันไปตามๆกัน กับงานประมูลรถที่ผ่านมา เพราะค่ายม้าลำพองได้ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์ที่ทำสถิติการประมูลที่สูงที่สุดในโลก โดยรถรุ่นที่ได้นำมาประมูลนั้นก็คือ Ferrari 250 GTO ปี 1963 ที่ถือเป็นสุดยอดนวัตกรรมของรถสปอร์ตเลยก็ว่าได้ เพราะอัดแน่นไปด้วยความเพียบพร้อม ทั้งสมรรถนะ ดีไซน์ ราคา และที่สำคัญคือจำนวนการผลิตที่มีเพียงไม่กี่คันบนโลก
Ferrari 250 GTO ปี 1963
ซึ่งสิ่งที่ทำให้รถคันนี้กลายเป็นรถที่สามารถทุบสถิติการประมูลที่สูงมากที่สุดในโลกนั้น ก็เพราะว่าความนิยมที่มากขึ้น ซึ่งสวนทางกับจำนวนคันที่มีบนโลก และด้วยอายุที่มากขึ้นก็ยิ่งทำให้ราคาผันขึ้นตามไปด้วยเช่นเดียวกัน เพราะราคาประมูลนั้นสูงเป็นสิบเท่าเลยก็ว่าได้ สังเกตได้จากในปี 1980 ที่รถคันนี้ได้มีค่าตัวพุ่งไปถึง 1 ล้านเหรียญ ต่อมาในปี 2012 ราคาก็พุ่งสูงถึง 35 ล้านเหรียญ จนมาถึงงานประมูลล่าสุดในปีถัดมา ก็ทำราคาประมูลนั้นสูงถึง 53 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 1,700 ล้านบาทไทย โดยที่ในปัจจุบันยังไม่มีรถคันใดที่ทำสถิติได้สูงเทียบเท่าหรือมากกว่าเลยแม้แต่คันเดียว
รีวิว Ferrari 812 Superfast สุดยอดพลัง 789 แรงม้า
Ferrari 250 GTO ปี 1963
ส่วนเหตุผลอีกประการหนึ่ง ที่ทำให้ราคาสูงได้ขนาดนี้ ก็คงจะเป็นเพราะเอกลักษณ์ที่งดงาม สง่า และดุดันไปพร้อมๆกัน ที่สำคัญคือมีจำนวนเพียง 39 คัน บนโลก จะเรียกได้ว่าราคาผันตามเวลาที่ผ่านไปก็ได้เช่นเดียวกัน
Ferrari 250 GTO ปี 1963
>> ดูเพิ่มเติม: ราคา เฟอรารี่ ล่าสุด
สำหรับประวัติของรถรุ่นนี้นั้น เริ่มแรกได้เปิดตัวขึ้นในปี 1962 ซึ่งจุดประสงค์ก็เพื่อนำมาใช้แข่งขันในคลาสแกรนด์ ทัวร์ริ่ง โดยตัวรถนั้นได้ผลิตขึ้นในปี 1962-1964 และมีเพียงจำนวน 39 คัน บนโลก ซึ่งในตอนที่ได้นำเข้ามาจำหน่ายที่ประเทศไทย ราคาอยู่ที่ 590,000 บาทไทย เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าเทียบกับราคาประมูลที่ผ่านมา ถือว่าแพงหูฉี่จนต้องตะลึงไปตามๆกัน
Ferrari 250 GTO ปี 1963
ด้านสมรรถนะนั้น ถือว่าเกิดมาพร้อมกับความแรงแบบทะลุปรอท เพราะใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 3,000 ซีซี ให้กำลังได้ถึง 300 แรงม้า และเมื่อผนวกกับเกียร์แบบ 5 สปีด ก็ยิ่งทำให้ไม่ตกเป็นรองใครเลยแม้แต่น้อย เพราะถ้าเทียบรถสปอร์ตในปัจจุบัน บางคันก็ยังให้กำลังได้ไม่ถึงรถรุ่นเก่าอย่าง Ferrari 250 GTO เลยก็มี
สรุป
จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบัน รถสปอร์ตที่ได้รับความนิยมนั้นไม่ได้มีเพียงตัวใหม่ในตลาดรถยนต์เท่านั้น หากแต่รถรุ่นเก่าอย่าง Ferrari 250 GTO เอง ก็ได้รับความนิยมไม่ต่างกัน เพราะสมรรถนะและดีไซน์ที่ทำออกมาให้ไม่ตกยุคสมัยนี้เอง ที่ทำให้ราคาประมูลสูงเป็นลำดับหนึ่งของโลก แต่ในอนาคตจะมีรถจากค่ายใดมาโค่นแชมป์หรือไม่ก็ต้องรอติดตามกันต่อไป
อ่านเพิ่มเติม :