รถยนต์ระบบพลังไฟฟ้า
ตอนนี้ค่ายรถทั่วโลกกำลังมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ระบบพลังไฟฟ้า และในตลาดยานยนต์ต่างก็กำลังให้ความสนใจรถยนต์ระบบพลังไฟฟ้านี้เป็นอย่างมากเพราะคิดว่ารถยนต์ระบบพลังไฟฟ้าจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหามลพิษ แต่การเจาะตลาดของรถยนต์ระบบพลังไฟฟ้านั้นอาจจะยังไปได้ไม่ไกลและครอบคลุมทั่วถึงเท่ากับรถยนต์ที่ใช้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ถึงแม้ว่าการผลิตรถยนต์ระบบพลังไฟฟ้านั้นจะถูกพัฒนาขึ้นมาภายใต้แนวคิดเพื่อลดปัญหามลพิษที่ออกมาจากท่อไอเสียของรถยนต์ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ถึงจะมีการทดสอบและทดลองมากแค่ไหน และมีผลการทดสอบออกมาว่ามีผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากแค่ไหน แต่ก็ยังมีการรายงานจากประเทศจีนว่า “รถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้ามีส่วนในการสร้างมลพิษและเป็นการเพิ่มมลภาวะทางอากาศให้มากขึ้นอีกด้วย”
โดยรัฐบาลจีนได้ออกมารายงานว่า ปัจจุบันประเทศจีนน่าจะติดอันดับของประเทศที่ใช้รถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้ามากประเทศหนึ่งในโลก ซึ่งก็มาจากที่รัฐบาลให้เงินสนับสนุนในการซื้อรถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้า เพื่อลดการใช้รถยนต์ที่ใช้ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อลดมลพิษภายในประเทศ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช้วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดสักเท่าไหร่นัก
อีกไม่ถึง 10 ปี รถ EV จะถูกกว่า รถใช้น้ำมัน!?
ยุโรปจริงจังที่จะลดการปล่อยมลพิษจากรถยนต์ลงกว่า 30% ภายในปี 2030
มลพิษทางอากาศ
รัฐบาลจีนได้อภิบายว่า ปัญหามลพิษทางอากาศที่เพิ่มขึ้นจากการใช้รถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้านั้นมาจากการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่มาจากถ่านหิน จึงทำให้เกิดหมอกควันและมลพิษทางอากาศมากกว่ามลพิษทางอากาศที่เกิดจากท่อไอเสียรถยนต์ที่ใช้ระบบน้ำมันน้ำมันเชื้อเพลิง และหมอกควันมลพิษทางอากาศที่เจอนั้นเป็นฝุ่นละอองขนาดใหญ่มากถึง 2.5 PM
โรงงานผลิตไฟฟ้าถ่านหิน
สก๊อต เคนเนดี้ จากศูนย์การศึกษาแผนการ และการพัฒนาระหว่างประเทศ ที่กรุง วอชิงตัน ดีซี ได้ออกมาเปิดเผยว่า การเปลี่ยนจากการใช้รถยนต์ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นรถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้าไม่ได้เป็นการลดหรือยกเลิกการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจากฟอสซิลได้ ในเมื่อรถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้ายังมาจากการใช้พลังงานฟอสซิล แต่การที่ประเทศจีนออกมาแจ้งว่าการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้านั้นก็เป็นเพราะพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตมาจากถ่านหินซึ่งก็เปรียบเสมือนการย้ายแหล่งกำเนิดมลพิษจากท่อไอเสียรถยนต์ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงไปเป็นมลพิษที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน
และเมื่อค่ายรถยนต์หลายค่ายเริ่มออกมาพัฒนาและทดสอบรถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้า และได้รายงานถึงข้อดีต่างๆ นาๆ ของรถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้า แต่ก็มีการายงานจากกลุ่มต่างๆ ว่าจริงๆ แล้วรถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้ามีสมรรถนะด้อยกว่ารถยนต์ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเฉพาะเรื่องการประหยัดน้ำมัน โดยมีงานวิจัยที่เปิดเผยจากทาง financial Time ได้ระบุไว้ว่ารถยนต์ระบบน้ำมันจะใช้พลังงานในการขับขี่ต่ำกว่า 7.0 ลิตร / 100 กิโลเมตร และยังมีการปล่อยมลภาวะน้อยกว่ารถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการผลิตก็ไม่ซับซ้อน และยังมีรายงานจากมหาวิทยาลัยซิงหัว และ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ว่าไม่ว่าจะรถยนต์ไฮบริด , รถยนต์เซลล์พลังงาน ต่างปล่อยมลพิษมากกว่ารถยนต์ระบบน้ำมันเชื้เพลิง ถึงร้อยละ 50 และที่สำคัญรถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้าก็ยังมีราคาแพงมากกว่ารถยนต์ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ไม่น้อย
ถึงแม้ว่าจะมีรายงานออกมารถยนต์พลังงานระบบไฟฟ้าจะไม่ได้เป็นตัวช่วยลดพลังงานไฟฟ้าจากที่ค่ายรถคิดแต่นั้นก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่ค่ายรถแต่ละค่ายต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ผ่านพ้นจากปัญหานี้ไปให้ได้เพื่อจะได้ผลิตรถยนต์ระบบพลังงานไฟฟ้าหรือระบบอื่นๆ ที่จะช่วยลดมลพิษทางอากาศได้จริงๆ ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีต่อประชากรของโลกมาก เพราะทุกวันนี้ยิ่งประเทศที่กำลังพัฒนาและมีจำนวนรถยนต์บนถนนมากรวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอยู่ไม่น้อย ก็ยิ่งทำให้เกิดมลพิษทางอากาศเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้ามีรถยนต์ที่ใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดก็น่าจะดีมากเลยทีเดียว
ดูเพิ่มเติม:
ฮัมบูร์ก ออกมาแจงประกาศแบนรถยนต์ดีเซลอย่างเป็นทางการ และเมืองอื่นในเยอรมนีกำลังจะปฏิบัติตาม
Nissan Motor มุ่งมั่นพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อเตรียมหยุดการพัฒนารถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล