10:59, 25 มี.ค. 2562

Tesla ลดการตรวจบำรุงรักษาประจำปี เหลือเพียง “เช็คเมื่อจำเป็น”

บันทึกรายการ

ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ระบบไฟฟ้า Tesla ปรับลดการตรวจเช็คประจำปี ให้กลายเป็น “เช็คเมื่อจำเป็น” เท่านั้น ซึ่งบ่งบอกเป็นนัยได้ว่า รถยนต์ระบบไฟฟ้ามีการบำรุงรักษาน้อยกว่ามาก

Tesla ลดการตรวจบำรุงรักษาประจำปี เป็น “เช็คเมื่อจำเป็น”

Tesla ค่อยๆเปลี่ยนนโยบายการบำรุงรักษา EV โดยเริ่มเปลี่ยนจากการให้บริการตามระยะเวลาที่กำหนด เป็น “เช็คเมื่อจำเป็น” บนคู่มือประจำรถแต่ละรุ่นของ Tesla ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการเรียกตรวจเช็คบำรุงรักษาเป็นระยะ เช่นเดียวกันกับรถยนต์อื่นๆทั่วไป โดย Tesla Model S และ X จะตรวจเช็คทุก 1 ปี และ 20,000 กิโลเมตร (12,500 ไมล์) และ Tesla Model 3 จะต้องรับการตรวจเช็คทุก 2 ปี และ 40,000 กิโลเมตร (25,000 ไมล์) ซึ่งการปรับเปลี่ยนนโยบายนี้ เรียกได้ว่ารถยนต์ของ Tesla ในปัจจุบันแทบไม่ต้องการเช็คบำรุงประจำปี รวมถึงการเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะ อาทิ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก หรือตัวกรองอากาศ อีกต่อไป


Tesla  model X

จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้รู้สึกว่า รถยนต์ระบบไฟฟ้า (EV) มีการบำรุงรักษาน้อยกว่ารถยนต์ทั่วไปมาก นั่นเป็นเพราะมอเตอร์ไฟฟ้าไม่มีของเหลว หรือชิ้นส่วนอะไหล่มากมายเหมือนกับระบบพลังงานเชื้อเพลิง นอกจากนี้ระบบเฟืองเกียร์ยังไม่ซับซ้อน สามารถส่งผ่านกำลังโดยตรงเพียงลดเกียร์หนึ่งระดับเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น การเบรกแต่ละครั้งของรถยนต์ระบบไฟฟ้า (EV) ยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้ากักเก็บไว้ในแบตเตอรี่ด้วยระบบ Regenerative system ได้อีกด้วย พร้อมกันนี้ยังช่วยลดการสึกหรอของผ้าเบรก และระบบเบรกได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ ทาง Tesla ได้มีแอพพลิเคชั่นสำหรับติดตามปัญหาการบริการ และสามารถแจ้งเตือนเจ้าของรถเมื่อจำเป็นต้องซ่อมแซม


Tesla  model S

การบำรุงรักษาประจำปีแบบเดิม ที่จะตรวจสอบสภาพรถโดยช่างเทคนิค พร้อมบันทึกความเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนอะไหล่บางชิ้น อาทิ เปลี่ยนใบปัดน้ำฝน ตัวกรองอากาศ และแม้แต่แบตเตอรี่ของกุญแจรถ โดยยังคงแนะนำให้รับบริการบางส่วนเป็นระยะ ดังนี้

  • เปลี่ยนไส้กรองอากาศในห้องโดยสาร (Cabin Air Filter) เป็นส่วนที่จะช่วยลดมลพิษทางอากาศ ทาง Tesla จึงแนะนำให้เปลี่ยนทุก 2 ปี
  • กรองอากาศ (High Efficiency Particulate Air (HEPA) Filter) แนะนำให้เปฃลี่ยนทุก 3 ปี
  • เปลี่ยน และสลับยาง (Tire Rotation, Balance and Wheel Alignment) แนะนำให้ตรวจสอบสมรรถภาพยางทุก 16,000-32,000 กิโลเมตร และตั้งศูนย์ถ่วงล้อเมื่อจำเป็น หากใช้งานหนัก หรือขับเร็วเป็นประจำควรตรวจเช็คบ่อยขึ้น
  • เบรก และน้ำมันเบรก (Brake Fluid Test) แนะนำให้ตรวจสอบทุก 2 ปี และเปลี่ยนถ่ายเมื่อจำเป็น
  • ระบบปรับอากาศ (Air Conditioning Service) แนะนำให้เช็คทุก 2 ปี สำหรับ Model S, ทุก 4 ปี สำหรับ Model X, ทุก 6 ปี สำหรับ Model 3
  • การดูแลในช่วงฤดูหนาว (Winter Care) แนะนำให้ทำความสะอาด และหล่อลื่น เบรก คาลิปเปอร์ ทุก 12 เดือน หรือ 20,000 กิโลเมตร

ซึ่งทาง Tesla มีแผนจะหยุดเสนอแพคเกจแผนการบำรุงรักษาแบบชำระเงินล่วงหน้า โดยยังให้บริการเช่นเดิมสำหรับผู้ที่ซื้อแพคเกจไปแล้วก่อนหน้านี้

Tesla  model 3

การลดลงของการบำรุงรักษา นั่นหมายถึงจำนวนเงินที่ต้องเตรียมชำระค่าตรวจเช็คในแต่ละปีลดจะน้อยลง และเมื่อพิจารณาด้านอัตราสิ้นเปลืองของรถยนต์ระบบไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานกว่ามาก อาจทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้นสำหรับการเลือกซื้อรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงแบบเดิม หรือจะซื้อรถยนต์ระบบไฟฟ้ามาใช้งานแทน ต้องติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมต่อไป ว่าทาง Tesla ประเทศไทยจะมีการปรับแผนการบำรุงรักษาอย่างไร

อ่านเพิ่มเติม
รีวิวเจาะลึก Audi Q2 2019 SUV รุ่นใหม่จากแรงบันดาลใจคนพันธุ์สปอรต์
Drive your Desire มอบ 3 ข้อเสนอสุดพิเศษให้คุณได้เป็นเจ้าของรถยนต์ VOLVO ก่อนใครๆ โดยไม่ต้องรอ MOTOR SHOW

Khan-Chit

ในหมวดเดียวกัน