09:32, 10 ม.ค. 2562

Mini Cooper S E 2019 แฮชท์แบ็คพลังงานไฟฟ้าคันแรกจากเยอรมัน!!

บันทึกรายการ

รถพลังงานไฟฟ้า (EV) คันแรกจากค่าย Mini จะมาในรูปแบบแฮชท์แบ็คกระทัดรัด ที่มีความร้อนแรงไม่แพ้รุ่นปกติ ผ่านสายการผลิตในโรงงานที่เยอรมัน


Mini Cooper S E 2019

นอกเหนือจากการมุ่งเน้นทำกลยุทธทางการตลาดและอัพระดับของ Mini ในสูงขึ้นจากการจัดอันดับทั่วโลก Mini แล้ว ทางค่ายยังกำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพตามอุดมคติ โดยโมเดลนี้จะมีชื่อว่า “Cooper S E” ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดเผยในช่วงปลายปีนี้ เพื่อกระตุ้นการตลาดให้ดีขึ้น

Cooper S E จะพัฒนาขึ้นภายใต้เพลทฟอร์มรถแฮทช์แบคขนาดเล็กสามประตูของทางค่ายที่ชื่อว่า UKL1 แต่เนื่องจากเพลทฟอร์มเดิมไม่ได้ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงรูปแบบการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด จึงต้องมีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงบางส่วนให้เหมาะสำหรับวางแบตเตอรี่ไฟฟ้า และรองรับเทคโนโลยีที่กำลังจะติดตั้ง สำหรับด้านสมรรถนะของ Cooper S E คาดว่าจะติดตั้ง มอเตอร์ไฟฟ้า ของ BMW i3 S ที่มีกำลัง 181 bhp ซึ่งจะให้แรงม้าและแรงบิดน้อยกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรของ  Cooper S ขนาดกำลัง189 bhp เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของแบตเตอรี่จะถูกชดเชยด้วยแรงบิดและการที่ไม่มีเกียร์ จะช่วยให้สามารถทำอัตราเร่งใกล้เคียงกับ Cooper S โดยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน จาก i3 สามารถวิ่งได้ระยะทาง 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง (200 ไมล์)


Cooper S E จะพัฒนาโดยดัดแปลงเพลทฟอร์มจาก Mini Cooper S 2018

การเปิดตัว Cooper S E นับว่าเป็นจุดสำคัญของการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีของ Mini ในปีนี้ โดยทางค่ายถือเป็นเวลาเหมาะสมในการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่บ่งบอกถึงภาพลักษณ์ของ Mini ในอนาคต ซึ่งเชื่อว่า “Cooper S E” รถพลังงานไฟฟ้าสไตล์แฮทช์แบคคันนี้เหมาะสมที่สุด เพราะไม่ใช่เพียง EV ขนาดเล็กจะเข้ากันได้ดีกับสภาพแวดล้อมในเมืองเท่านั้น แต่เนื่องมาจากลักษณะการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีการตอบสนองแบบรวดเร็วและช่วยควบคุมล้อแต่ละล้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ


อาจมีการปรับรายละเอียดเล็กน้อย เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างแฮทช์แบ็คทั้งสองรุ่น

ภาพคอนเซปต์ของ Cooper S E จะมีรายละเอียดแตกต่างจาก Cooper S แฮชท์แบ็ค เล็กน้อย โดยอาจมีการดีไซน์ไฟหน้าใหม่ และใส่สัญลักษณ์ “E” เพื่อเพิ่มความแตกต่างระหว่างแฮชท์แบ็คทั้งสองรุ่น ทั้งนี้ทางค่ายมีแผนเปิดตัวและวางจำหน่าย Cooper S E ในอังกฤษช่วงปลายปี 2019 โดยคาดว่าราคาน่าจะเริ่มต้นประมาณ 30,000 ปอนด์ หรือราว 1.22 ล้านบาท

ดูเพิ่มเติม:
รวมปัญหาต่างๆ ของ Mazda MX-5 Roadster เปิดประทุนรุ่นจิ๋ว แต่ปัญหาไม่จิ๋วพร้อมวิธีแก้ไข
เติมเต็มความเท่ในสไตล์สุดคลาสสิคกับชุดแต่ง Mazda MX-5 2018-2019

Khan-Chit

ในหมวดเดียวกัน