Kia Niro EV 2019
หลังจากที่ Kia Niro EV 2019 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ล่าสุดทางค่ายได้แจ้งราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย โดยรุ่นต่ำสุดมีค่าตัวอยู่ที่ 39,495 USD (ราว 1.26 ล้านบาท) และรุ่น Premium เริ่มที่ 44,995 USD (ประมาณ 1.44 ล้านบาท) ขณะที่เพื่อนร่วมชาติอย่าง Hyundai Kona Electric มีราคาต่ำกว่าราว 1,500 USD (ประมาณ 48,000 บาท)
Kia Niro EV 2019 แตกต่างจากรุ่นปกติ ด้วยกระจังหน้าแบบปิด และแถบสีฟ้า เอกลักษณ์ของรถยนต์ EV
ด้าหลังติดตั้งสปอบเลอร์เพิ่มความสปอร์ต และมีแถบสีฟ้าแสดงความแตกต่างจากรุ่นไฮบริด
สำหรับ Kia Niro ถือเป็นรถยนต์รุ่นอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกับ Toyota Prius และ Hyundai Ioniq โดย Kia Niro รุ่นก่อนหน้านั้นมีให้เลือกทั้งรูปแบบเครื่องยนต์ hybrid และ plug-in hybrid ซึ่งล่าสุดได้พัฒนาเวอร์ชั่นไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์ ในรุ่น “Kia Niro EV” นับว่าครบครันทุกทางเลือกสำหรับผู้ซื้อที่นิยมรถยนต์กลุ่มเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
แม้ว่า Kia Niro จะอยู่ในตระกูลเดียวกันกับ Ioniq แต่ด้านพละกำลังและแบตเตอรี่ถือว่ามีความแข็งแกร่งกว่ามากทีเดียว อาจใกล้เคียงกับ Hyundai Kona Electric ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตกำลัง 201 แรงม้า แรงบิด 395 นิวตัน-เมตร (291ปอนด์-ฟุต) กอรปกับแบตเตอรี่ ลิเธียม ไอออน ขนาด 64.0-kWh ทำให้ Kia Niro สามารถวิ่งได้ไกลถึง 385 กิโลเมตร ขณะที่ Hyundai Kona วิ่งได้ระยะทาง 415 กิโลเมตร ต่างกันราว 57 กิโลเมตร
2019 Kia Niro EV | CarGurus Test Drive Review
Kia Niro สามารถวิ่งได้ไกลถึง 385 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง
พร้อมติดตั้งระบบชาร์จอย่างรวดเร็ว CCS DC ที่ชาร์จพลังงานแบตเตอรี่ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 75 นาที
Kia Niro EV มาพร้อมกับระบบชาร์จอย่างรวดเร็ว CCS DC โดยติดตั้งเป็นระบบมารตฐานในทุกรุ่น ซึ่งสามารถชาร์จพลังงานแบตเตอรี่ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 75 นาที และจะเพิ่มระยะทางประมาณ 100 ไมล์ เพียงการชาร์จ 30 นาที สำหรับการชาร์จด้วยไฟฟ้าขนาด 240 โวลต์ (หรือการชาร์จแบบระดับที่ 2 ) จะใช้เวลาประมาณ 9.5 ชั่วโมงในการเติมเต็มแบตเตอรี่
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกระดับของการเบรกแบบใหม่ได้ถึง 4 ระดับ โดยการติดตั้ง paddle ที่บนพวงมาลัยพร้อม คุณสมบัติการฟื้นฟู (regenerative braking) นอกจากนี้ระบบ Smart Regen สามารถปรับระดับการฟื้นฟู (regenerative braking) โดยอัตโนมัติ ในการตอบสนองต่อยานพาหนะก่อนชะลอตัวลง
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ มีออพชั่นอุปกรณ์ให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน
โดย Niro EV มีด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นย่อย คือ
สำหรับ Niro EV นั้น ผู้ซื้อสามารถแยกความแตกต่างจากรุ่น Niro อื่น ๆ ได้ จากกระจังหน้าสีน้ำเงินดีไซน์เฉพาะ ช่องดักลมสีฟ้าด้านล่าง ลวดลายกราฟฟิคบนไฟ LED สีฟ้า และแถบสีฟ้าบนกันชนหลัง พร้อมล้อขนาด 17 นิ้ว ที่ถูกออกแบบพิเศษให้สอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์มากยิ่งขึ้น
อ่านเพิ่มเติม
Mitsubishi Pajero Final Edition รุ่นพิเศษ ปิดท้ายการผลิตในญี่ปุ่น!
รีวิว Kia Stinger 2018 เรือธงเด่นในแบบ Fastback 5 ประตูมาดูกันว่ามีอะไรดี