Isetta microcar รถยนต์ไฟฟ้าขนาดจิ๋ว
Microlino เป็นบริษัทขนาดย่อม ที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของสองพี่น้องชาวสวิสเซอร์แลนด์ หลังจากได้เปิดตัว BMW Isetta รถคูเป้ขนาดเล็กประตูเดียว ในงานแสดงยนตรรกรรม Geneva auto show เมื่อสองปีที่แล้ว ขณะนี้ได้จับมือกับ Tazzari Group ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กจากฝั่งอิตาลี เพื่อสร้างและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าโดยมีเป้าหมายที่ 10,000 คันต่อปี
สำหรับด้านราคาค่าตัวของ Isetta microcar คันนี้ ทาง Microlino เปิดเผยมาว่าตกอยู่ที่ 13,600 เหรียญ (หรือราว 450,976 บาทไทย) ซึ่งขณะนี้มียอดสั่งจองเรียบร้อยแล้วถึง 7,200 คัน
การออกแบบของ Isetta microcar ยังคงความสวยงามเช่นเดียวกับ Isetta เดิม โดยมีเพียงประตูเดียวที่เปิด-ปิดแบบบานพับจากด้านหน้าของตัวถัง ผู้ขับขี่สามารถเข้านั่งหลังพวงมาลัยได้ไม่ลำบาก นอกจากนี้ผู้โดยสารท่านอื่นยังเข้าไปนั่งข้างๆได้ โดยที่ผู้ขับไม่ต้องลุกขยับตัวออกมา
Microlino - Change urban mobility - Lifestyle and Prototype #2
Isetta microcar มีการขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 2 ขนาดด้วยกัน คือ แบตเตอรี่ขนาด 8 กิโลวัตต์ ที่เหมาะสำหรับวิ่งในระยะทางใกล้ๆ ซึ่งการชาร์ตพลังงานแต่ละครั้งสามารถวิ่งได้ประมาณ 74 ไมล์ (ราว 119 กิโลเมตร) และแบตเตอรี่ขนาด 14.4 กิโลวัตต์ ที่วิ่งทางไกลได้ถึง 133 ไมล์ (หรือราว 214 กิโลเมตร) โดยทางบริษัทแจ้งว่าระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จไฟฟ้าแต่ละครั้งประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งไม่ต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปมากนัก
Isetta microcar มีขนาดกระทัดรัด เหมาะกับการขับขี่ในเขตชุมชนเมือง
นอกจากนี้ Isetta microcar ยังเป็นรถที่เหมาะสำหรับขับในเมืองอย่างมาก โดยสามารถความเร็วสูงสุดได้ 55 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ที่กำลังสูงสุดจากพลังงานมอเตอร์ไฟฟ้า 20 แรงม้า ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดความเร็วในเขตชุมชนเมืองของทางฝั่งยุโรปส่วนใหญ่
เช่นเดียวกับรถยนต์ต้นแบบอย่าง Isetta ที่ออกแบบมาสำหรับประชาชนยุโรปในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งหลายประเทศมีสถานภาพทางเศรษฐกิจฝืดเคือง จึงต้องการรถยนต์ขนาดเล็กที่สามารถเคลื่อนที่ได้โดยราคาไม่สูงนัก (คล้ายกับแนวคิดในการผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นหลังสงครามโลก ) Isetta microcar ในปัจจุบัน ได้คงเอกลักษณ์ดังกล่าวไว้ จากขนาดตัวที่มีความยาวเพียง 8 ฟุต (ประมาณ 2,438 มิลลิเมตร) ถือว่าสั้นกว่า Smart car ถึง 609 มิลลิเมตร ในส่วนของพื้นที่ภายในมีปริมาตรเท่ากับ 10.6 ลูกบาศก์ฟุต หรือเทียบเท่า 1,526 ตารางนิ้วเท่านั้น
ด้านบนเปิดประทุน ด้านหน้าเปิดเข้าออกสะดวกสบาย
ส่วนที่แตกต่างจาก Smart car คือ เมื่อผู้ขับขี่จอดเทียบชิดกับรถคันข้างๆหรือชิดกำแพง จะไม่เกิดปัญหาเรื่องเปิดประตูออกไม่ได้เพราะ Isetta microcar คันนี้สามารถเปิดออกจากด้านหน้านั่นเอง ซึ่งถือเป็นความสะดวกสบายอย่างหนึ่งที่เจ้าของรถจะได้รับจากรถยนต์คันจิ๋วนี้
ทางบริษัทกล่าวว่ามีแผนที่จะผลิต 100 คันสำหรับในปีนี้ และเพิ่มกำลังการผลิตอย่างน้อย 5,000 คันในปีหน้า โดยมีเพียงแผนการขายรถในทวีปยุโรปและในประเทศจีนเท่านั้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะประตูด้านหน้าและตัวควบคุมข้างหน้าไม่น่าจะผ่านมาตรฐานการชนของสหรัฐอเมริกา
ดูเพิ่มเติม:
จำหน่ายในไทยแล้ว สำหรับ Lexus ES300h 2018 พร้อมสนนราคาที่ 3.59 ล้านบาท
เพิ่มความร้อนแรงกับ ลัมโบร์กินี สำหรับกระแส Supper Car เมืองไทย