14:44, 31 มี.ค. 2563

Genesis G80 2020 โฉมใหม่ ทั้งหรูและทรงพลังในแบบกังนัมสไตล์

บันทึกรายการ

All-new Genesis G80 2020 เปิดตัว พร้อมสู้แบรนด์พรีเมียมทั้ง Lexus, Mercedes-Benz และ BMW ซึ่ง All-new Genesis G80 2020 จะเต็มไปด้วยสิ่งหรูหรา แปลกตา เป็นตัวเองมากขึ้น

All-new Genesis G80 2020

All-new Genesis G80 2020 เปิดตัวผ่านโลกออนไลน์ พร้อมวางจำหน่ายบนโลกจริงที่เกาหลีใต้ก่อนเป็นแห่งแรก วันที่ 30 มีนาคม 2563 และจะเริ่มวางจำหน่ายในภูมิภาคอื่น ๆ โดยเริ่มที่อเมริกาเหนือช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อดวลความพรีเมียมกับคู่แข่งอย่าง Lexus ES, BMW 5 Series และ Mercedes-Benz E-Class ด้วยดีไซน์ใหม่ หรูขาดบาดใจ และดูทรงพลัง อีกทั้งยังจะไฮเทคยิ่งกว่าเดิม

กระจังหน้า Crest Grille และแถบไฟ 4 ดวง คือ Brand Identity ของ Genesis ยุคใหม่

เพราะถึงแม้ All-new Genesis G80 2020 จะยังคงสไตลิ่งเดียวกับโฉมก่อน ด้วยการเป็นรถพรีเมียมซีดานขนาดกลางกึ่งมหึมา ด้วยความยาวตัวถังเฉียด 5 เมตร กว้างเกือบ 2 เมตร และฐานล้อเหยียดยาวถึง 3 เมตร บวกกับการใช้ทรีตเมนต์แสดงความสง่า หรูหรา เช่น แผงกระจังหน้าทรงอลังการลายตาข่ายชุบโครเมียมแวววาว ไฟหน้า 4 แถบ (Brand Identity ใหม่ของ Genesis) สยายยาวไปถึงบังโคลน ตลอดจนแนวหลังคาลาดยาว พร้อมหน้าต่างด้านข้างซ้าย-ขวา รวม 6 บาน

บางมุมของ All-new Genesis G80 2020 มีความคล้าย Audi A7 Sportback

รวมถึงพื้นผิวตัวถังของ All-new Genesis G80 2020 เลือกลดสันขอบ ไปเพิ่มคิ้วโครเมียม ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงความเรียบหรูแล้ว All-new Genesis G80 2020 ยังมีบุคลิกที่สุขุม และกรีดกรายกว่า Genesis G80 โฉมก่อนมาก เพื่อให้ตรงตามปรัชญาการออกแบบ Athletic Elegance ของ Genesis แต่ภาพรวมที่ออกมาก็ชวนให้นึกถึง Bentley ผสมกับ Audi อยู่ไม่น้อยทีเดียว

ภายใน All-new Genesis G80 2020 มินิมอลกว่า แต่หรูกว่า โฉมก่อนมาก

ส่วนภายใน All-new Genesis G80 2020 ให้บรรยากาศที่หรูสงบมากขึ้นเช่นกัน จากการลดรายละเอียด รวมถึงการใช้เส้นแนวนอนบนแผงหน้าปัด โทนสี ประกอบกับวัสดุคุณภาพสูง ตั้งแต่การประดับประดาด้วยหนัง ลายไม้และโลหะ รวมถึงการกรีดลากเส้นโค้งไหลผ่านตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารสร้างความรู้สึกต่อเนื่องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

สำหรับทางด้านขุมพลัง All-new Genesis G80 2020 เตรียมเครื่องยนต์ไว้ 3 แบบ ไว้เลือกทำตลาดตามความเหมาะสมของแต่ละภูมิภาค ได้แก่

  • เบนซิน แบบ 4 สูบ 2.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 304 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 421 นิวตันเมตร
  • เบนซิน แบบวี 6 สูบ 3.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 380 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร
  • ดีเซล แบบ 4 สูบ 2.2 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร

และถ้ามองในเรื่องของความไฮเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญ All-new Genesis G80 2020 ก็ไม่ทำให้ลูกค้าตลาดบนผิดหวัง ด้วยระบบความปลอดภัยล้ำหน้า ไล่ตั้งแต่ระบบช่วยขับขี่สุดฉลาดทำงานร่วมกับปัญญาเสมือน (AI), ระบบป้องกันอุบัติเหตุรอบคัน ไปจนถึงถุงลมนิรภัย 10 ลูก ที่เพิ่มมาคือส่วนคั่นกลางระหว่างผู้โดยสารแถวหน้า

นอกจากนี้ All-new Genesis G80 2020 ยังสามารถสั่งช่วยจอดระยะไกล (Remote) จากภายนอกตัวรถ เผื่อกรณีต้องจอดในพื้นที่แคบผู้ขับขี่ลงลำบากผ่าน Smart Key นี่ยังไม่รวมถึง ระบบเบาะนั่งปรับอัตโนมัติลดความเมื่อยล้าขณะขับขี่ แถมเบาะหลังสองฝั่งยังมีฟังก์ชันระบายอากาศแยกปรับร้อน-เย็นได้โดยโชเฟอร์ และลูกเล่นอื่น ๆ อีกมากมาย

ปรัชญาการออกแบบ Athletic Elegance สื่อสารผ่านพื้นผิว และเส้นตัวถังของ Genesis G80 2020

แต่ถึงอย่างไรคงต้องยอมรับว่า All-new Genesis G80 2020 หรือแบรนด์ Genesis ทั้งแบรนด์ มีโอกาสเกิดในไทยได้ยาก ตราบเท่าที่คนไทยส่วนใหญ่ยังคงจงรักภักดีกับภาพลักษณ์ของรถแบรนดหรูฝั่งเยอรมนี เฉกเช่น Mercedes-Benz, BMW หรือ Audi เป็นต้น เพราะไม่ว่าจะประเสริฐเลอเลิศเพียงใด คงต้องแพ้พ่ายอยู่ดี

หรือต่อให้เป็นในอเมริกาเหนือ แบรนด์ Genesis จะเป็นที่ยอมรับ แต่ยอดขาย Genesis G80 ปีที่ผ่านมา (2019) ยังห่างชั้น Lexus ES รวมถึง Mercedes-Benz E-Class และ BMW 5 Series ซึ่งในปีนี้ All-new Genesis G80 2020 คือภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ต้องฝ่าฟันขึ้นไปอยู่แถวหน้าบนเส้นทางซีดานหรูขนาดกลางให้ได้

ดูเพิ่มเติม

ATS

ในหมวดเดียวกัน