แม้งานดีไซน์ของ BMW iX จะโดนบูลลี่และไม่เป็นที่ยอมรับสำหรับคนส่วนใหญ่เท่าไรนัก แต่สำหรับ BMW i4 2022 ไลน์อัพใหม่ ซึ่งถูกวางตำแหน่งไว้เป็นพรีเมียมสปอร์ตซีดานขนาดกลางของรถไฟฟ้าตระกูล i อาจมีกระแสตอบรับต่างออกไปและมันอาจจะกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Tesla Model 3 ได้เลย ด้วยรูปทรงสุดเซ็กซี่ พร้อมสมรรถนะการขับขี่เร้าใจตามสไตล์ BMW
BMW i4 M50
BMW i4 eDrive40
ทั้งนี้ เบื้องต้น BMW i4 2022 ใหม่ จะมีให้เลือกเพียง 2 รุ่น คือ BMW i4 M50 และ BMW i4 eDrive40 โดย i4 Series ทั้ง 2 รุ่น ได้ถูกวางตัวไว้เป็นพรีเมียมสปอร์ตซีดานขนาดกลางที่ให้ความสำคัญกับการขับขี่มากเป็นพิเศษด้วยรูปทรง 4-Door Gran Coupe หรือพูดง่าย ๆ ว่าเหมือน BMW 4 Series Grand Coupe แต่จะไม่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน
โดย BMW i4 M50 จะมีขุมพลังไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 795 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในระยะเวลาเพียง 3.9 วินาที วิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 510 กิโลเมตร ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP
ขณะที่ BMW i4 eDrive40 จะมีกำลังสูงสุด 340 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร แต่ขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อหลัง ตามสไตล์ BMW ดั้งเดิม เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 5.7 วินาที ส่วนระยะทางวิ่งสูงสุดเหนือกว่าที่ 590 กิโลเมตร บนมาตรฐานการทดสอบเดียวกัน
สำหรับจุดเด่นของ BMW i4 2022 ใหม่ คือการขับขี่ เพราะ BMW ตั้งใจจะบอกว่า i4 Series เป็นสปอร์ตซีดานไฟฟ้าที่เน้นการขับขี่มากเป็นพิเศษทั้งในแง่ของความสปอร์ตและความสบาย โดยการออกแบบโครงสร้างให้มีความแข็งแกร่งทนต่อการบิดตัวแต่มีน้ำหนักเบา
ระบบกันสะเทือนและแชสซีส์ BMW i4 M50
ระบบกันสะเทือนและแชสซีส์ BMW i4 eDrive40
ระบบกันสะเทือนที่ใช้จะเป็นแบบหลายจุดยึด โช้คอัพด้านหน้าเป็นแบบ Lift-related Damper (ซึ่งไม่ใช่ระบบ Adaptive และถูกใช้ใน BMW 3 Series G20 มาแล้ว) และด้านหลังใช้สปริงลมเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทำงานร่วมกับระบบควบคุมต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ i4 Series มีการยึดเกาะโดดเด่น มีเสถียรภาพมั่นคงในทุกสถานการณ์ของการขับขี่ที่เปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว
BMW i4 M50
BMW i4 eDrive40
ส่วนภายในห้องโดยสาร BMW i4 2022 ยังคงบรรยากาศหรูหรา กว้างขวางและทันสมัย มีการเก็บเสียงอย่างดี มีระบบปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารล่วงหน้าได้ทั้งร้อนและเย็น เบาะและพวงมาลัยแบบสปอร์ตเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
นอกจากนี้ ระบบอินโฟเทนเมนต์จะใช้หน้าจอ BMW Curve Display ขนาด 14.9 นิ้ว (และจอแสดงข้อมูลสำหรับขับขี่ 12.3 นิ้ว) ที่ใช้ระบบประมวลผลประสิทธิภาพสูง BMW Operating System 8 และมี BMW iDrive control เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดนำมาใช้ครั้งแรกใน i4 Series อัปเกรดระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant
และแน่นอนว่า BMW i4 2022 ยังติดตั้งระบบช่วยขับขี่มากถึง 40 ฟังก์ชัน เพื่อช่วยเหลือ สนับสนุน ป้องกันและลดความผิดพลาดของผู้ขับขี่อย่างเต็มตามแบบรถยุคใหม่ ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยใส่ความสะดวกสบายลงไปเต็มที่ เพราะต้องต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง Tesla Model 3
แต่อย่างไรก็ตาม BMW i4 2022 จะยังไม่วางจำหน่ายจนกว่าจะถึงเดือนกันยายน 2564 โดยราคาค่าตัวของ BMW i4 M50 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นสมรรถนะสูง เริ่มต้นที่ 65,900 ดอลลาร์ (2.05 ล้านบาท) ส่วน BMW i4 eDrive40 เริ่มที่ 55,400 ดอลลาร์ (1.72 ล้านบาท) และที่สำคัญ BMW i4 Series คงมีวางจำหน่ายในไทยแน่
อ่านเพิ่มเติม