รถยนต์ Audi E-Tron electric SUV
หลังจากที่เราได้เห็น E-Tron ที่เป็นปลั๊ก-อิน ไฮบริดกันมาแล้ว ล่าสุด Audi ประกาศเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง Audi E-Tron electric SUV ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด พร้อมท้าชนคู่แข่งอย่าง Tesla Model X, Jaguar I-Pace, Mercedes-Benz EQC รวมถึง Porsche Taycan ที่ต้องร้อนๆหนาวๆแน่นอน
E-Tron SUV จะใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แม้ว่าทาง Audi จะยังไม่เปิดเผยแน่ชัดเกี่ยวกับรายละเอียดแรงม้าและแรงบิด แต่ได้รับการยืนยันว่า E-Tron SUV จะสามารถทำอัตราเร่งจาก 0- 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 5.5 วินาทีแน่นอน ซึ่งถือว่าค่อนข้างรวดเร็วสำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยแบตเตอรี่ขนาด 95 กิโลวัตต์ทั้งสองตัวเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากทาง Audi ที่ได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพสูงสุดโดยการชาร์จไฟหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ไกล 385 - 470 กิโลเมตร (240 ถึง 295 miles) ซึ่งมีระยะทางมากกว่า E-Tron ถึง 30 % ทีเดียว และยังได้รับประโยชน์จาก VW Group’s Electrify America ที่มีสถานีชาร์จไฟทั่วสหรัฐอเมริกาเกือบ 500 แห่งภายในปี 2019 นี้
Audi E-Tron electric SUV คันแรกของค่าย
สำหรับระยะเวลาในการชาร์จยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ทาง Audi กล่าวว่า “E-Tron SUV รองรับไฟฟ้ากระแสสลับ DC 150 กิโลวัตต์ กรณีชาร์จเร่งด่วนที่สถานี” และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “การชาร์จนี้จะให้กระแสไฟฟ้ามากถึง 80% ภายในระยะเวลาชาร์จเพียง 30 นาทีเท่านั้น” ส่วนการชาร์จแบบ AC อาจใช้เวลาข้ามคืนในการเติมเต็มแบตเตอรี่ นอกเหนือจากการชาร์จไฟทั้งสองแบบแล้ว E-Tron SUV ยังสามารถปรับเปลี่ยนแรงเบรก 90% ให้กลับเป็นพลังงานขับเคลื่อนเพื่อให้รถสามารถขับต่อไปได้ยาวนานขึ้นอีกด้วย
Audi E-Tron electric SUV มีมิติตัวถังยาว 4,900 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร และสูง 1,666 มิลลิเมตร และที่พิเศษคือได้มีการติดตั้งกล้องขนาดเล็กแทนกระจกมองข้าง Virtual Mirrors ที่จะแสดงภาพบริเวณแผงประตูด้านข้างแทน
Audi E-Tron electric SUV ติดตั้งกล้องแทนกระจกมองข้าง
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมี่ยม หลังคาพาโนรามิค Sunroof ระบบปรับอากาศแยก 4 โซน เบาะนั่งที่มีระบบนวดผ่อนคลายความตึงเครียดขณะขับขี่ นอกจากนี้ Audi ยังติดตั้งระบบนำทางอัจฉริยะ MMI ที่แสดงทั้งเส้นทางและสถานีบริการชาร์จไฟ พร้อมกับเทคโนโลยี Virtual Cockpit infotainment เช่นเดียวกับ new A6 และ A7 ที่มีหน้าจอขนาด 10 นิ้วบริเวณคอนโซลกลางสำหรับระบบนำทาง มัลติมีเดีย เชื่อมต่อโทรศัพท์รวมถึงตั้งค่า E-Tron ทำงานผสานกับจอด้านล่างขนาด 8.6 นิ้ว สำหรับการตั้งค่า HVAC และป้อนคำสั่งด้วยตัวอักษร ส่วนช่องเก็บสัมภาระด้านหลังสามารถจุได้ 28.5 คิวบิกฟุต และเมื่อปรับพับเบาะแถวหลังจะทำให้พื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มเป็น 57 คิวบิกฟุต
ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหนัง Valcona พร้อมเทคโนโลยีลำ้สมัยครบครัน
เบาะหลังสามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระได้ถึง 57 คิวบิกฟุต
Audi E-Tron electric SUV มีทั้งหมด 3 รุ่นคือ Premium Plus เริ่มต้นที่ราคา 2.4 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีนำเข้า) มาพร้อมกับล้อขนาด 20 นิ้ว , กล้อง 360 องศา, ชุดลำโพงจาก Bang & Olufsen 16 ตัว, ระบบปรับอากาศทั้งร้อนและเย็น 12 ทิศทางและอุปกรณ์ตกแต่งด้วยวัสดุหนังแท้ทั้งหมด รุ่นถัดมาคือ Prestige ราคา 2.66 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีนำเข้า) โดยมีอุปกรณ์เพิ่มเติมคือ ระบบแสดงผลแบบ head-up display , ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ , ระบบนวดบริเวณเบาะหน้า, ตกแต่งภายในด้วยหนัง Valcona และกระจกลดเสียงทั้งด้านหน้าและด้านข้าง สำหรับรุ่นท็อปอย่าง First Edition ราคา 2.82 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีนำเข้า) ซึ่งเป็นรุ่นลิมิเต็ดที่นำเข้าสหรัฐอเมริกาเพียง 999 คันเท่านั้น มาพร้อมกับล้อขนาด 21 นิ้ว , สีตัวถังใหม่ Daytona Gray , ชุดตกแต่งภายนอกสีส้ม , ภายในตกแต่งด้วยหนัง Valcona สีดำและลายไม้ โดย Audi E-Tron electric SUV จะเริ่มจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกาในไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 นี้
ดูเพิ่มเติม:
Lexus แซงหน้า Audi ด้วยการติดกล้องจิ๋วแทนกระจกมองข้าง ประเดิมจำหน่ายที่ญี่ปุ่นเป็นแห่งแรก !!
Vinfast เปิดตัวรถยนต์ SUV และ Sedan ดีไซน์แบบอิตาลี พร้อมเทคโนโลยีวิศกรรมจากเยอรมัน