เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลับมาอีกครั้ง และยังอยู่ในการเฝ้าระวัง กรมการขนส่งทางบกจึงงดต่ออายุใบขับขี่ที่ต้องอบรมในสำนักงานทุกประเภท แต่ยังเปิดให้บริการปกติสำหรับผู้ที่ผ่านการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ หรือมีหนังสือรับรองจากโรงเรียนสอนขับรถมาแล้ว พูดง่าย ๆ ก็คือ หากจะต่ออายุใบขับขี่ ต้องอบรมออนไลน์ให้เรียบร้อยก่อนนั่นเอง
ดูเพิ่มเติม: ใบขับขี่หมดอายุใช่ไหม? ทำแบบนี้สิ
กรมการขนส่งทางบก
1. จองคิวต่ออายุล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th:4447/web_booking/page/ โดยเลือกรายการต่ออายุใบขับขี่ที่มีการยื่นใบอบรมออนไลน์หรือยื่นหนังสือรับรองว่าผ่านการอบรม
เว็บไซต์ gecc.dlt.go.th:4447/web_booking/page/
2. อบรมใบขับขี่ออนไลน์ ได้ที่เว็บไซต์ https://www.dlt-elearning.com/Home เมื่อผ่านการอบรมเรียบร้อย ให้นำไปยื่นพร้อมกับเอกสารอื่น ๆ ได้ที่กรมการขนส่งทางบก ตามวันเวลาที่นัดหมายไว้ (หรือหากมีใบรับรองว่าผ่านการอบรมจากโรงเรียนสอนขับรถอยู่แล้ว ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป)
ดูเพิ่มเติม: อบรมใบขับขี่ออนไลน์ ทำง่าย ๆ เองได้ใน 8 ขั้นตอน!
ตัวอย่างการอบรมออนไลน์
ตัวอย่างการอบรมออนไลน์
เมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะได้รับใบยืนยันว่าผ่านการอบรม ดังรูป
3. เตรียมเอกสารต่ออายุใบขับขี่ให้พร้อม ได้แก่
ใบนัดอิเล็กทรอนิกส์
บัตรประชาชน และใบขับขี่ตัวจริง
เอกสารการอบรมใบขับขี่ออนไลน์
4. ไปกรมการขนส่งทางบก ตามวัน/เวลาที่นัดหมาย ตรวจวัดอุณหภูมิที่จุดคัดกรองให้เรียบร้อย แล้วยื่นเอกสารต่าง ๆ กับเจ้าหน้าที่ได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เพื่อรับบัตรคิว และรับใบทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย
วัดอุณหภูมิร่างกายที่จุดคัดกรอง
ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ
5. เข้ารับการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ดังนี้
6. ถ่ายรูปทำใบขับขี่ และชำระเงินค่าธรรมเนียม การต่ออายุใบขับขี่แต่ละประเภทจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน ดังนี้
ถ่ายรูปติดใบขับขี่ และชำระเงินให้เรียบร้อย
ได้ใบขับขี่ใบใหม่มาใช้