ในปัจจุบัน ต่างก็มีมือใหม่หัดขับเพิ่มขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้รถใช้ถนนกันมากขึ้น ซึ่งปัญหาที่มักตามมาก็คือการขาดประสบการณ์ในการออกสู่ท้องถนน ซึ่งการขาดประสบการณ์และมารยาทที่สำคัญบนท้องถนนนี้เอง ที่มักทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา อย่างเช่น ปัญหาด้านสังคม ที่บางครั้งคนที่ขับรถมานานก็ไม่รู้เช่นเดียวกันถึงข้อปฏิบัติที่พึงมี ไม่ใช่เพียงแต่การปฏิบัติตามกฎจราจรเท่านั้น แต่หมายรวมถึงมารยาทในการใช้ถนนร่วมกับผู้อื่นในสังคมด้วยนั่นเอง
เนื่องด้วยการขับขี่บนท้องถนนนั้น ไม่เพียงแต่การปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่มารยาทต่อเพื่อร่วมถนนเองก็สำคัญไม่ต่างกัน เพราะสามารถช่วยลดความเครียดบนถนนที่มีการจราจรหนาแน่นลงได้ รวมไปถึงสามารถบรรเทาปัญหาจราจรที่ติดขัดได้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยหลักๆแล้ว แนวทางการปฏิบัตินั้นมีหลักๆ ดังต่อไปนี้
การมีมารยาทในการใช้รถใช้ถนน
1. ให้สัญญาณขอบคุณ
ทุกครั้งที่มีผู้ขับขี่รถคันอื่นแสดงความมีน้ำใจ โดยเฉพาะการให้ทาง เราควรแสดงความขอบคุณด้วยการยกมือและการเปิดไฟกะพริบฉุกเฉิน ซึ่งการแสดงออกลักษณะนี้จะคล้ายกับการขออภัย อย่างเช่นการขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่ผู้ขับจะก้มหัวให้เล็กน้อยเป็นการขอบคุณ ซึ่งรถยนต์เองก็เช่นเดียวกัน ที่จะต้องแสดงสัญญาณเพื่อขอบคุณผู้ที่มีน้ำใจกับตนเองทุกครั้ง
2. ขออภัยรถคันอื่น
แน่นอนว่า การขับขี่รถบนท้องถนนเราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง เพราะบางครั้งอาจจะเกิดจากตัวเราที่กระทำอะไรบางอย่างผิดพลาดไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้น การขออภัยจึงเป็นพื้นฐานที่ควรกระทำ อย่างเช่น การตัดหน้ารถคนอื่น การเลี้ยวโดยลืมเปิดสัญญาณไฟ และอื่นๆอีกมากมาย การขออภัยจึงเป็นสิ่งที่พึงกระทำ สามารถทำได้โดยการยกมือ หรืออาจจะเปิดไฟกะพริบฉุกเฉินเหมือนกับการให้สัญญาณขอบคุณก็ได้ ซึ่งการขออภัยนี้เองสามารถช่วยลดบรรยากาศความตึงเครียดบนท้องถนนได้ดี
การให้สัญญาณแก่รถคันอื่นทุกครั้งเมื่อทำผิดหรือขอบคุณแก่รถคันอื่น
3. ไม่เปิดไฟสูงพร่ำเพรื่อ
การเปิดไฟสูงนั้น ควรเปิดเฉพาะการขับขี่บนถนนที่แสงสว่างไม่เพียงพอ และมีทัศนวิสัยที่จำกัด หรือแม้กระทั่ง การใช้เพื่อแจ้งเตือนรถที่วิ่งสวนมาว่าด้านหน้ามีอุบัติเหตุ ด่านตรวจ หรือการให้สัญญาณว่าจะเร่งแซง ซึ่งการเปิดไฟสุงไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อใช้โดยที่ไม่ได้ไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน เพราะการใช้ไฟสูงนั้นอาจจะส่งผลให้กระทบกับตาของผู้ขับขี่รถที่วิ่งสวนมาได้
4. ปิดไฟเมื่อจอดที่ทางแยก
เมื่อถึงทางแยกไฟแดงทุกครั้ง หากเปิดไฟหน้ารถอยู่อาจจะต้องปิดหรือหรี่ลงเพื่อไม่ให้แยงตาของรถฝั่งตรงข้าม เพราะอาจจะสร้างความรำคาญหรือรบกวนผู้ใช้ถนนคนอื่นๆได้ ในขณะเดียวกัน หากขับรถสวนกันวนทางที่แคบๆ การปิดไฟหน้าให้เหลือเพียงไฟหรี่ก็เป็นการรักษามารยาทบนท้องถนนได้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ควรกระทำเมื่อแน่ใจแล้วว่าบนถนนมีแสงสว่างเพียงพอ และถนนเส้นนั้นมีความปลอดภัย โดยเฉพาะบริเวณไหล่ นอกจากนี้อย่าลืมเปิดไฟหน้าหลังจากที่พ้นช่วงสวนทางกันมาแล้วด้วย
เมื่อถึงทางแยกให้ปิดไฟสูงหรือหรี่ไฟต่ำ เพื่อไม่ให้แสงไฟกระทบตาผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ
5. เคารพเพื่อนร่วมท้องถนน
การเคารพเพื่อนร่วมท้องถนนถือเป็นอีกหนึ่งมารยาทที่ควรกระทำ โดยเฉพาะการขับขี่รถอย่างสุภาพ อาทิ การไม่จอดที่จอดรถคนพิการ จอดรถให้ตรงช่อง ระมัดระวังจักรยานและจักรยานยนต์ รวมถึงผู้คนที่กำลังเดินข้ามทางมาล้ายหรือถนนทั่วไปด้วย นอกจากนี้ การขับรถในเขตชุมชนจะต้องขับด้วยความเร็วต่ำ เพระอาจจะมีเด็กหรือคนแก่กำลังข้ามถนนอยู่ก็ได้ อีกประการหนึ่งก็คือ ควรบีบแตรในจังวะที่เหมาะสม ไม่ควรกดแช่จนเกินไป ควรบีบแตรเพียงเพื่อเป็นการให้สัญญาณเท่านั้น
6. รักษาช่องทางจราจร
การขับขี่ที่มักทำให้การจราจรติดขัดนั้น ส่วนหนึ่งมักมาจากการเปลี่ยนเลนบ่อยครั้ง ไม่อยู่ในเลนของตนเอง เพราะคิดว่าหากเปลี่ยนเลนแล้วจะทำให้ตนเองถึงจุดหมายปลายทางเร็วมากขึ้น แต่ในทางกลับกัน การเปลี่ยนเลนอยู่ตลอดเวลานั้นมักจะทำให้การจราจรเกิดการคับคั่งมากขึ้น เพราะไม่สามารถระบายรถได้ทัน นอกจากนี้ หากขับขี่บนถนนหลวงทางไกล หากผู้ขับขี่คนใดคนนึ่งเหยียบเบรกกะทันหัน อาจจะทำให้เกิดการจราจรหนาแน่นขึ้นตามมาโดยทันที และหากมีคนเปลี่ยนเลนกระทันหันอาจจะทำให้เบรกไม่ทันจนเกิดการเฉี่ยวชนกันได้
การรักษาเลนจะทำให้การจราจรไม่ติดขัดได้
สรุป
เรียกได้ว่า การขับขี่บนท้องถนนนั้น นอกจากจะต้องปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดแล้ว จะต้องรู้จักมารยาทขั้นพื้นฐานในการใช้ถนนร่วมกับผู้อื่นด้วย เพราะนอกจากจะเป็นการลดความตึงเครียดในสภาวะที่การจราจรติดขัดแล้วนั้น ยังเป็นการแสดงถึงน้ำใจที่มีต่อกันอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม