ขั้นตอนที่ 1 จองคิวอบรม
ก่อนจะไปสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ผู้ขับขี่ต้องจองคิวอบรมเสียก่อน เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมาย ที่กำหนดเอาไว้ว่าผู้ขอรับใบขับขี่จะต้องผ่านการอบรมขั้นต่ำ 5 ชั่วโมง โดยสามารถจองได้หลายช่องทาง ได้แก่
- เว็บไซต์ ebooking.dlt.go.th
- เบอร์โทรศัพท์ 02-271-8888 หรือเบอร์ 1584
- กรมการขนส่งหรือสำนักงานขนส่งฯ ใกล้บ้าน
โดยผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์ ต้องเตรียมเอกสารสำหรับการใช้ยื่นเรื่องดำเนินการ ดังนี้
เอกสารประกอบคำขอ
- บัตรประชนชนตัวจริง และสำเนา อย่างละ 1 ฉบับ ส่วนกรณีชาวต่างชาติให้ยื่นใบสำคัญบัตรประจำตัวคนต่างด้าว หรือหนังสือเดินทาง (PASSPORT) + สำเนา หรือยื่นใบสำคัญถิ่นที่อยู่หรือใบอนุญาตการทำงาน (ที่ยังไม่หมดอายุ)
ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน เพื่อแสดงว่าไม่เป็น 5 โรคต้องห้าม ได้แก่ โรคเท้าช้าง, วัณโรค, โรคเรื้อน, พิษสุราเรื้อรัง และโรคติดยาเสพติด
***กรณีผู้ทำการอบรมนอกกรมขนส่ง ต้องเตรียมใบรับรองการอบรมไปด้วย
ขั้นตอนที่ 2 ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- ทดสอบตาบอดสี
- ทดสอบสายตาทางลึก
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
- ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรกเท้า)
ขั้นตอนที่ 4 สอบข้อเขียน
สำหรับการสอบข้อเขียน ผู้ขอรับใบขับขี่ จะต้องทำข้อสอบผ่านระบบ E-exam โดยมีข้อสอบทั้งหมด 2 ชุด ชุดละ 25 ข้อ รวมเป็นจำนวน 50 ข้อ ซึ่งผู้สอบต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบ 45 ข้อขึ้นไป (90%) หากไม่ผ่านจะต้องสอบใหม่ในวันถัดไป หรือไม่เกิน 90 วันหลังอบรม
ข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ 2565: รวมข้อสอบใบขับขี่รถยนต์ 2565 พร้อมเฉลย
ขั้นตอนที่ 5 สอบภาคปฏิบัติ
ในการสอบปฏิบัติเพื่อขอรับใบขับรถจักรยานยนต์ จะมีการทดสอบทั้งหมด 5 ท่า ดังนี้
ท่าที่ 1 การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
เป็นการสอบโดยการขับรถจักรยานยนต์ไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ซึ่งผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามป้ายจราจรให้ถูกต้อง
ท่าที่ 2 การขับรถทรงตัวบนทางแคบ
ผู้ขับขี่ต้องขับรถทรงตัวบนสะพานไม้แคบ ๆ หรือทางแคบ ที่มีความกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3 เมตร
ท่าที่ 3 การขับรถผ่านทางโค้งรัศมีแคบรูปตัวแซด
ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องทางเดินรถรูปตัว Z ที่มีความกว้างประมาณ 2 เมตร โดยห้ามชนสิ่งกีดขวางตลอดเส้นทาง
ท่าที่ 4 การขับรถผ่านทางโค้งซ้ายและโค้งขวารูปตัวเอส
ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องทางเดินรถรูปตัว S ที่มีความกว้างประมาณ 2 เมตร โดยห้ามชนสิ่งกีดขวางตลอดเส้นทาง
ท่าที่ 5 การขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
ผู้ขับขี่ต้องขับรถด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนเส้นทางที่กำหนดไว้ โดยห้ามชนสิ่งกีดขวางใด ๆ ตลอดเส้นทาง
ขั้นตอนที่ 6 ชำระค่าธรรมเนียมและถ่ายรูปติดบัตร
เมื่อผ่านการทดสอบทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว จะต้องชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการ รวม 205 บาท รายละเอียด ดังนี้
ค่าธรรมเนียมขอมีบัตร 5 บาท
ค่าทำใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 100 บาท
ค่าถ่ายรูปบัตรสมาร์ตการ์ด 100 บาท
อย่างไรก็ตาม ควรเตรียมตัวไปสอบตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะไม่ว่าจะพลาดในด่านข้อเขียน หรือตกม้าตายในด่านปฏิบัติ ก็ต้องเสียเงินค่ารถ และเสียเวลาเพิ่มอีกหนึ่งวันเลยทีเดียว ด้วยความหวังดีจาก Khaorot
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaorot.com/
SUNSAWON