การขับรถบนท้องถนนในปัจจุบันนั้นนอกจากการมีทักษะในการขับขี่ที่ดีแล้วการรู้จักเตรียมรถให้พร้อมสำหรับการขับขี่ก็ถือเป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญเนื่องจากต่อให้ผู้ขับขี่มีประสบการณ์สูงในการขับรถมากเพียงไรแต่รถที่ท่านขับอยู่กลับมีสภาพที่ไม่พร้อมสำหรับการใช้งานก็ย่อมส่งผลให้ประสิทธิภาพในการขับรถมีน้อยลงตามไปด้วยวันนี้ข่าวรถได้นำ 4 วิธีดูแลรถแบบง่ายๆมาให้ผู้ขับขี่ลองนำไปใช้กันครับ
ดูเพิ่มเติม>>
ตรวจเช็คระบบเกียร์
1.การตรวจเช็คระบบเกียร์ การตรวจเช็คระบบเกียร์ในรถยนต์นั้นถือได้ว่ามีความสำคัญและเป็นการป้องกันปัญหาเกียร์หลุดซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับผู้ใช้รถได้เป็นอย่างดี เพราะระบบส่งกำลังนับเป็นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการกำหนดอัตราเร่งให้ได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ สำหรับปัญหาเกียร์หลุด หรือ เกียร์ค้างเกิดขึ้นเพราะระบบเกียร์มีการทำงานผ่านการส่งกำลังจากคันเกียร์ไปสู่สายคันเกียร์ที่มีลักษณะเป็นสายสลิงมีแกนเหล็กเป็นลวดสลิงอยู่ภายในหุ้มด้วยวัสดุที่ผลิตขึ้นจากยางเมื่อผู้ขับขี่ใช้รถจะถูกดึงเข้า และ ดันออก ไป-กลับ เป็นเช่นนี้ตลอดเวลาที่จะเปลี่ยนเกียร์จึงควรตรวจสอบระบบส่งกำลังให้พร้อมใช้อยู่เสมอ หรือ อาจนำเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการตรวจเช็คระบบส่งกำลัง
2.การตรวจเช็คหม้อน้ำ สำหรับการตรวจเช็คหม้อน้ำก็เพื่อทำความสะอาดคราบสกปรกต่างๆที่ทำให้หม้อน้ำอุดตันทั้งสนิม หรือ เศษฝุ่นผงจากการสันดาปของเครื่องยนต์ ผ่านวิธีการสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วคลายน๊อตหางปลาออกก่อนนำสายยางฉีดล้างรถมาเปิดน้ำใส่เข้าไปในหม้อน้ำรถยนต์ระวังอย่าปล่อยให้หม้อน้ำแห้งฉีดล้างทำความสะอาดจนคราบสกปรกภายในหม้อน้ำรถยนต์หลุดร่อนออกมาจนหมดจากนั้นจึงปิดเครื่องยนต์พร้อมขันน๊อตหางปลาปิดเข้าไปที่เดิมให้แน่นก่อนเติมน้ำยาหล่อเย็นเข้าไปเสริมเพื่อให้หม้อน้ำสร้างความเย็นได้ดียิ่งขึ้น
หมั่นทำความสะอาดแผงระบายความร้อน
3.ทำความสะอาดแผงระบายความร้อน ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถที่จะทำความสะอาดแผงระบายความร้อนได้ด้วยตนเองเพียงแค่ใช่เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดล้างภายในห้องเครื่องโดยเฉพาะบริเวณแผงระบายความร้อนด้านหน้ารถ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมักมีสิ่งสกปรก หรือ คราบของเสียต่างๆจากภายนอกรถเข้ามาติดอยู่ในบริเวณนี้เป็นจำนวนมากซึ่งการฉีดล้างจะช่วยขจัดคราบเหล่านี้ออกไปและช่วยให้ระบบแอร์ภายในรถระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น
4.การตรวจสอบแบตเตอรี่ สำหรับการตรวจเช็คแบตเตอรี่รถยนต์นั้นผู้ขับขี่สามารถที่จะตรวจสอบได้ด้วยตนเองผ่านการสังเกตในขณะที่ทำการสตาร์ทเครื่องยนต์หากต้องใช้ระยะเวลาในการสตาร์ทนาน และ สตาร์ทเพียงครั้งเดียวไม่ติดก็แสดงว่าระบบไฟในรถของท่านกำลังมีปัญหาควรนำไปเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คและทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ กอปรกับถ้ามีเสียงดังในขณะทำการสตาร์ทก็ให้ผู้ขับขี่ลองตรวจสอบไปที่ไดสตาร์ทซึ่งอาจมีการเสื่อมสภาพได้เช่นกัน
สำหรับผู้ที่มีการใช้งานรถอยู่เป็นประจำควรหมั่นตรวจเช็คสภาพรถรวมถึงระบบไฟภายในรถให้มีความพร้อมสำหรับการใช้งานอยู่เสมอครับ