หากรถคันใดมีการดัดแปลง หรือเพิ่มเติมอุปกรณ์ส่วนควบ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจผู้อื่น เช่น รถกระบะต่อเติมตัวถังหรือโครงหลังคาเกิน 3 เมตร เป็นต้น จะถือว่าฝ่าฝืนความผิด ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตราที่ 12 และถูกปรับสูงสุด 2,000 บาท
การนำวัสดุอื่นมาปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน ได้แก่
จนทำให้ไม่สามารถมองเห็นตัวอักษร, ตัวเลข หรือจังหวัดได้ชัดเจน จะถือว่ามีความผิด และต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตราที่ 11 ที่ระบุไว้ว่า
“... รถที่จดทะเบียนแล้ว ต้องมีและแสดงแผ่นป้ายและเครื่องหมาย ครบถ้วนถูกต้องตามที่กําหนดในกฎกระทรวง…”
ดูเลย: ไขข้อข้องใจสำหรับรถแต่ง ที่ปรับป้ายทะเบียนรถให้ยาวขึ้นหรือปรับแต่งป้ายทะเบียน
สำหรับรถคันที่มีการดัดแปลงหรือแก้ไขขนาดล้อให้ล้นเกินตัวถัง จะถือว่าฝ่าฝืนความผิด ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตราที่ 12 และถูกปรับสูงสุด 2,000 บาท
การใช้รถที่มีสภาพ และมีอุปกรณ์ส่วนควบไม่มั่นคงแข็งแรง หรือไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เท่ากับว่าเจ้าของรถได้กระทำความผิด ฐานฝ่าฝืนกฎหมายตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตราที่ 12 ระวางโทษปรับ 2,000 บาท และอาจมีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกตามมาตรา 71 มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท
หากผู้ขับขี่รถรับจ้างคันใดปฏิเสธผู้โดยสาร หมายความว่า ได้กระทำความผิดได้ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และต้องโทษปรับสูงสุด 5,000 บาท (ตามกฎหมายใหม่) ตามมาตรา 57 จัตวา ที่ระบุเอาไว้ว่า
“...ในขณะที่อยู่ในระหว่างการรับจ้างบรรทุกคนโดยสาร ผู้ขับ รถยนต์สาธารณะหรือรถจักรยานยนต์สาธารณะจะปฏิเสธไม่รับจ้างบรรทุกคนโดยสารมิได้เว้นแต่การ บรรทุกนั้นน่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่ตนหรือแก่คนโดยสาร…”
สำหรับแท็กซี่ที่ไม่กดมิเตอร์ จะถือว่าฝ่าฝืนความผิด และเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 5 (2) ฐานไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร (มิเตอร์) เป็นเงิน 1,000 บาท และเปรียบเทียบปรับตามมาตรา 6 (1) ฐานใช้รถไม่จดทะเบียน (รถหมดอายุ) เป็นเงิน 1,000 บาท นอกจากนี้ ผู้ขับรถจะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นเวลา 1 เดือน และยึดแผ่นป้ายทะเทียนรถทันที
หากผู้ขับรถโดยสารสาธาระณะกล่าววาจาไม่สุภาพ เสียดสีดูหมิ่น ก้าวร้าวต่อผู้โดยสาร เท่ากับว่าได้กระทำความผิด และต้องจ่ายค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 57 ฉ (2)
“...ผู้ขับรถยนต์สาธารณะหรือรถจักรยานยนต์ต้องไม่กล่าววาจาไม่สุภาพ เสียดสีดูหมิ่น ก้าวร้าวหรือแสดงกิริยาในลักษณะ ดังกล่าวต่อคนโดยสารสาธารณะ...”
รวมไปถึงต้องระวางโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท ฐานมีผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 102 (2) ที่ระบุไว้ว่า
“...ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจํารถต้องไม่แสดงกิริยาหรือใช้ถ้อยคําเป็นการเสียดสี ดูหมิ่น ก้าวร้าว รังแก รบกวน หรือ หยาบหยามผู้หนึ่งผู้ใด หรือแสดงกิริยาวาจาหรือส่งเสียงด้วยประการหนึ่งประการใดในลักษณะไม่สมควรหรือไม่สุภาพ...”
รถโดยสารคันใดไม่หยุดรับ หรือจอดส่งผู้โดยสาร ณ สถานีหรือที่ที่มีเครื่องหมายกำหนด จะต้องจ่ายค่าปรับสูงสุด 5,000 บาท เพราะได้ฝ่าฝืนกฎหมายตามมาตรา 105 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522
“...ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถละเว้นการหยุดรถเพื่อรับหรือ ส่งผู้โดยสาร ณ ที่ที่มีเครื่องหมายให้รถนั้นหยุด ในเมื่อปรากฏว่ามีผู้โดยสารต้องการให้หยุดรถเพื่อรับ หรือส่ง…”
สำหรับผู้ขับรถสาธารณะที่จอดให้ผู้โดยสารลงก่อนถึงปลายทาง หรือสถานี จะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตราที่ 106 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ที่ระบุไว้ว่า
“...ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถกระทํา การใด ๆ อันเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร…”
อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นอย่าลืมให้แจ้งเบาะแส และรอรับเงินส่วนแบ่งค่าปรับที่บ้านได้เลย ส่วนผู้ใช้รถ ทั้งรถส่วนบุคคล และรถสาธารณะควรปฏิบัติข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่อยากเสียเงินโดยใช่เหตุ เพราะการกระทำของตัวเอง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaorot.com/
อ่านเพิ่มเติม