Toyota Fortuner 2018
Toyota Fortuner 2018 สัมผัสใหม่แห่งนิยามยนตรกรรม ทุกมุมมองสะท้อนภาพลักษณ์แห่งความภาคภูมิ เหนือชั้นกว่าทุกข้อจำกัดแห่งการขับเคลื่อน ที่มาพร้อมกับไฟหน้าอันโดดเด่นที่เปล่งแสงเจิดจรัสด้วย LED โปรเจคเตอร์ แบบ Bi-Beem ส่วนไฟท้ายก็เป็น LED Light Guiding ที่ปรับแสงให้สามารถมองเห็นในระยะไกล กันชนท้ายดีไซน์สุดสวยเพื่อความโดดเด่นให้ให้กับตัวรถและรับกับกระจังหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว สุดล้ำมาพร้อมกับไฟเบรก LED 3 ดวง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวระบบ Welcome Light ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและยังมีระบบป้องกันการหนีบ ส่วนสีสันของตัวถังก็มีให้เลือกมากถึง 7 สี ได้แก่ Super White II , Dark Grey Mica Metallic , Nebula Blue , Phantom Brown , Silver Metallic , Attitude Black Mica , White Pearl CS ส่วนราคาก็ค่อนข้างจะสูงไปนิดเริ่มต้นที่ 1,239,000 บาท
Toyota Fortuner 2018
รถยนต์ Toyota Fortuner 2018 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ทั้งเบนซินและดีเซล ซึ่งเบ่งเป็น 3 รุ่น คือ:
รุ่นดีเซล 2.8 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177 แรงม้า) ที่ 3400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน - เมตร ที่ 1,600 - 2,400 รอบ/นาที
รุ่นดีเซล 2.4 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด/ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,000 รอบ/นาที
รุ่นเบนซิน 2.7 ลิตร Dual VVT-i (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 122 กิโลวัตต์ (166 แรงม้า) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เใมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที (รองรับน้ำมัน E20)
ส่องรถ SUV 5 ค่ายที่คุ้มราคา น่าซื้อมากที่สุดในปี 2018
ถุงลมเสริมความปลอดภัยมาให้มากถึง 7 จุด
ด้านความปลอดภัย Toyota Fortuner 2018 ก็ได้จัดทุกอย่างมาแบบเน้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเพื่อให้มีความมั่นจว่าสามารถนั่งอยู่บน Toyota Fortuner อย่างปลอดภัยได้ทุกเส้นทาง โดยที่ทาง Toyota Fortuner ได้จัดระบบถุงลมเสริมความปลอดภัยมาให้มากถึง 7 จุด มั่นใจอีกขั้นของการปกป้องที่เหนือชั้น ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง/ ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง/ ม่าน 2 ตำแหน่ง/ เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง และยังมีระบบ TSD ควบคุมแรงเบรกและแรงบิดของเครื่องยนต์ระบบ EBD การกระจายแรงเบรก ระบบเบรก ABS ระบบเสริมเบรก
ภายในห้องโดยสาร Toyota Fortuner 2018
ส่วนภายในห้องโดยสาร Toyota Fortuner 2018 ได้รังสรรค์ตกแต่งห้องโดยสารให้กว้างขวาง พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งคนขับสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้ามากถึง 8 ทิศทาง เบาะแถว 2 ปรับได้แบบ One Touch เพิ่มความเย็นฉ่ำให้กับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ด้วยระบบรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 ตอน และยังมีเทคโนโลยีล้ำๆ ไม่แพ้ค่ายไหนมากมายไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดแสงดีไซน์แปลกแหวกแนวแบบ Optitron พวงมาลัยหุ้มหนังมาพร้อมกับสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่ จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID หน้าจอสีแบบ TFT หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว ที่แสดงระบบนำทางและเครื่องเล่น DVD รวมถึงการเชื่อมต่อ Bluetooth เชื่อมต่อกับระบบโทรศัพท์ด้วยระบบ Hands-free เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร ระบบปปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ช่องเสียบอุปกรณ์ USB ,iPOD และ AUX กล้องมองหลังที่ช่วยให้มั่นใจทุกครั้งที่ถอยหลัง และระบบ Push Start
จาการทดสอบขับ Toyota Fortuner 2018 ในเมืองมาสักพักก็ถือว่าดีในระดับหนึ่ง ที่ว่าดีในระดับหนึ่งก็เพราะการขับ Toyota Fortuner 2018 นั้น สภาพการจราจรไม่เอื้ออำนวยให้ทดสอบสมรรถนะของ Toyota Fortuner 2018 เพราะการจราจรติดขัดจึงทำให้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้มากเท่าที่ควร เต็มที่ก็ 100 กิโลเมตร /ชั่วโมง และต้องคอยเหยียบเบกอยู่เป็นระยะๆ แต่ถ้าได้ออกไปต่างจังหวัดรับรองว่าจะต้องสนุกแน่นอน
และเมื่อถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็นึกสนุกอยากจะลองของจึงชวนเดอะแก๊งกลับบ้านต่างจังหวัด ครั้งนี้แหละเลยจัดหนักลองความเร็วได้มากถึง 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพราะการจราจรคล่องตัวถนนโล่งมาก ไม่ว่าจะช่วงทางโค้ง เร่งเครื่องแซง เปลี่ยนเลน Toyota Fortuner 2018 ก็ยังสามารถทรงได้เป็นอย่างดี แต่ก็แอบรู้สึกไม่ค่อยปลื้มกับพวงมาลัยสักเท่าไหร่ เพราะด้วยที่เราเป็นผู้หญิงจึงทำให้รู้สึกว่าพวงมาลัยหนักเกินไปในช่วงทางเลี้ยวและทางโค้ง
ในช่วงทางตรงถนนเรียบการขับขี่และการทรงตัวของ Toyota Fortuner 2018 ทำได้ดีมาก แต่อาจจะมีช่วงโค้งหักศอกที่รู้สึกว่ารถกระด้างและสะบัดนิดหน่อย อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะพวงมาลัยหนักไปหรือป่าวจะทำให้รู้สึกเช่นนั้น ส่วนระบบเบรกก็จับไวไม่ต้องกดแป้นเบรกลึกก็สามารถควบคุมรถได้
ส่วนการขับขี่บนทางขรุขระอย่างเช่นทางลูกรังหรือถนนช่วงที่เป็นหลุมเป็นบ่อ Toyota Fortuner 2018 ก็สามารถผ่านไปได้ด้วยดีไม่งอแง หรือแม้กระทั่งระดับทางลาดชันที่ต้องไต่ขึ้นเหมือนขึ้นเขา ก็สามารถทำได้ดีไม่มีสะดุด และลองจอดรถในช่วงที่เป็นทางชันเพื่อทดสอบระบบ HAC-Hill start Assist control ที่ออกตัวบนทางชัน โดยปล่อยเบรกปรากฏว่ารถค้างอยู่บนทางลาดชันประมาณ 3 วินาทีโดยที่รถไม่ไหล แล้วจึงค่อยเหยียบคันเร่งและขับรถลงจากทางลาดชัน โดยที่ไม่ต้องแตะเบรกให้รถไหลลงมาเอง ซึ่งก็ทำได้ดีด้วยระบบ DAC-Downhill Assist ที่สามารถควบคุมความเร็วในช่วงทางลาดชัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่
จากประสบการณ์ที่นำมาแชร์เป็นเพียงประสบการณ์ของเราเพียงคนเดียวอาจจะไม่ค่อยพบปัญหาอะไรมากมาย แต่ก็อยากจะให้ผู้อ่านได้ลองฟังความคิดเห็นจากคนอื่นที่ได้ทดลองใช้ Toyota Fortuner 2018 กันดูบ้าง ซึ่งข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาก YouTube
ความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับ Toyota Fortuner
เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับความคิดเห็นต่างๆ นี่อาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ถ้าใครที่สนใจและอยากจะรู้ว่าจริงๆ แล้ว Toyota Fortuner 2018 มีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไรบ้าง สามารถเข้าไปสอบถามรายละเอียดและทดลองขับ Toyota Fortuner 2018 ได้ที่โชว์รูมโตโยต้าได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
ดูเพิ่มเติม:
เปรียบเทียบระว่าง Ford Everest กับ Toyota Fortuner จับรถ SUV ราคาระดับล้านกลางๆ มาประชัน
รีวิว Toyota Fortuner 2018 : สมรรถนะคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายหรือไม่ มาดูกัน