เลือกรถครอบครัว Honda Freed มือสองดีไหม ?
ไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดของ Honda Freed มาเมื่อปี 2012 กับรูปแบบรถมินิแวนที่ถูกนำเข้ามาจากแดนเหนา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งก่อนหน้ารถรุ่นนี้ได้เปิดตัวออกมาเมื่อปี 2009 แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไร ด้วยเงื่อนไขของราคาตัวรถที่เกินไป “ทะลุล้าน” ทำให้พ่อบ้านใจกล้าทั้งหลายอาจจะมองว่าแพงเกินไปสำหรับการจะนำมาเป็นรถครอบครัวขนาดเล็ก
Freed 2009 และ 2012 ไมเนอร์เชนจ์ เปลี่ยนแปลงเล็กหน่อย
ตอนซื้อมือสองอย่าลืมดูความแตกต่าง และถึงแม้โฉมไมเนอร์เชนจ์จะออกมาพร้อมกับราคาที่ถูกลงกว่าแสน เริ่มต้นที่ 8 แสนต้น ๆ แต่ก็เหมือนว่าจะสายเกินไปแล้วที่จะ Freed จะกลับมาประสบความสำเร็จในตลาด จนท้ายที่สุดการมาของ Honda Mobilio เมื่อปี 2014 ก็เหมือนเป็นการตอกฝาโรงปิดประตูขายของ Honda Freed อย่างเป็นทางการ
Honda Freed แม้จะไม่ได้ถูกผลิตที่โรงงานในไทย นำเข้ามาทั้งคันจากอินโดฯ แต่แพลตฟอร์มของตัวรถนั้นใช้ร่วมกับ Honda Jazz และ Honda City ภายใต้รูปแบบรถ Compact MPV 7 ที่นั่ง ไฮไลท์สำคัญของรถรุ่นนี้คือ การใช้ประตูเลื่อนอัตโนมัติทั้งซ้ายและขวาที่เปิดได้กว้างกว่า 600 mm ทำให้การเข้าออกจากรถทำได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น และเมื่อมากับแพลตฟอร์มเดียวกับ Honda Jazz แล้ว แน่นอนว่าเครื่องยนต์นั้นก็ใช้ขนาดเดียวกันด้วย เป็นเครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC ขนาด 1.5L 118 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 5 Speed ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ Grade Logic Control ให้การตอบสนองฉับไว สนุกได้ทุกจังหวะการขับขี่ และรองรับการใช้น้ำมันได้สูงสุดประเภท E20
มิติตัวรถของ Honda Freed
อีกหนึ่งความโดดเด่นและแตกต่างจากรถในแพลตฟอร์มเดียวกัน คือส่วนของภายในห้องโดยสาร Honda Freed ออกแบบคอนโซลหน้าให้แบ่งพื้นที่สำหรับการใช้งานออกเป็นสองส่วนโดยเจตนา เพื่อการใช้งานที่สะดวกใกล้มือ ทั้งส่วน Upper และ Lower โดยส่วน Upper เป็นที่สถิตวางของช่องแอร์และหน้าจอสัมผัสเพื่อระบบความบันเทิง ส่วนด้านล่าง Lower ใช้สำหรับวางตำแหน่งคันเกียร์และปุ่มควบคุมต่าง ๆ รวมไปถึงช่องวางแก้วทั้งซ้าย-ขวาที่สามารถหยิบใช้งานได้อย่างสะดวก
ตัวเบาะจะอยู่ในลักษณะที่ตั้งชันมากกว่ารถทั่วไป ต้องขอบคุณในเรื่องความสูงของตัวรถที่สามารถทำให้นั่งสบายได้เหมือนอยู่บนโซฟา อีกทั้งภายในห้องโดยสารทั้งคันยังกว้างขวาง นั่งสบายไม่อึดอัดโดยเฉพาะเบาะแถว 2 โดยรวมแล้วอาจจะพูดได้ว่า Honda Freed คันนี้ เป็นรถครอบครัวน่าใช้ที่ถูกลืมก็เป็นได้
Honda Freed จุดเด่นคือเรื่องของภายในห้องโดยสาร ทั้งเรื่องความกว้างและนั่งสบาย
เมื่อเหรียญยังมีสองด้านก็ต้องไม่ลืมที่จะดูในเรื่องข้อเสียของรถรุ่นนี้ด้วย Honda Freed ข้อเสียจะมีอะไรบ้าง เราไปตรวจสอบดูกันจากผู้ใช้กันเลยดีกว่า
เครื่องอืดและเปลืองน้ำมัน
หนึ่งเรื่องที่มีผู้ใช้หลายคนพูดถึงในรถรุ่นนี้และไม่น่าแปลกใจเมื่อพื้นฐานของ Freed กับ Jazz อีกทั้งเครื่องยนต์ มาในรูปแบบเดียวกัน กับน้ำหนักรถที่หนักกว่า 1.3 ตัน แต่เครื่องยนต์มีขนาดเล็กเพียง 1.5L จะหวังให้ความประหยัดหรืออัตราเร่งของ Honda Freed ทำได้ดีเหมือน Honda Jazz ก็คงจะเป็นไปได้ยากสักหน่อย เป็นสิ่งผู้ใช้อาจต้องทำใจเมื่อจะเลือกเส้นทางมาในแบบรถครอบครัวแล้ว
ช่วงล่างโคลงเคลง
หนึ่งในข้อเสียที่ผู้ใช้รถรุ่นนี้บ่นกัน คือช่วงล่างอาจไม่เกาะถนนสักเท่าไร จากเรื่องความสูงของ ตัวรถที่ Honda Freed มีความกว่า 1735 mm ส่งผลโดยตรงทำให้เรื่องการเกาะถนนเมื่อตอนใช้ความเร็วสูงของรถรุ่นนี้ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร
เบาะแถว 3 ค่อนข้างแคบ
เรื่องของตำแหน่งการนั่งเบาะหลัง เบาะแถว 2 Honda Freed ได้รับคำชมมากมายในเรื่องความสบายในการนั่ง แต่ดูเหมือนว่าส่วนของเบาะแถว 3 นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะใครที่ขายาว ๆ นั่งเบาะหลังสุดนาน ๆ ตอนเดินทางไกลอาจมี “ตะคริว” ขึ้นกันบ้าง เพราะฉะนั้นส่วนของเบาะหลังสุดนี้น่าจะเหมาะให้เด็กตัวเล็ก ๆ นั่งหรือบรรทุกสัมภาระเสียมากกว่า
เบาะแถว 3 คนนั่งอาจจะอึดอัดหน่อย เหมาะให็เด็กนั่งมากกว่า
ประตูไฟฟ้าเปิดได้ช้า
ไฮไลท์ในเรื่องของประตูข้างเปิดแบบสไลด์ด้วยไฟฟ้าของ Honda Freed ก็มีข้อเสียอยู่ “นิดหน่อย” เรื่องความรวดเร็วตอนเปิด-ปิด เนื่องจากทำงานด้วยระบบไฟฟ้าเป็นสิ่งหนึ่งที่คุณอาจต้องทำใจและให้เวลากับมันสักหน่อยเวลาจะเข้าออกรถแต่ละที เพราะยังไงก็ไม่สะดวกทันใจได้เท่าเปิดด้วยตัวเองอยู่แล้ว
ประตูไฟฟ้าเปิดได้กว้างจริง แต่อาจต้องใช้เวลาหน่อย ไม่ทันใจเหมือนเปิดเอง
น่าเสียดายที่ Honda Freed ไม่มีจำหน่ายแล้วในแบบรถใหม่ป้ายแดงออกศูนย์ จะสัมผัสก็มีแต่ในแบบรถมือสองเท่านั้นซึ่งราคาเริ่มต้นในตลาดตอนนี้อยู่ที่ 400,000 บาท (12/2018) ถือว่าไม่แพงเลยสำหรับการลงทุนเพื่อคนที่คุณรัก มาเป็นรถสำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง
สรุปจุดเด่นหลัก ๆ ของ Honda Freed นั่นคือถ้าคุณกำลังมองหารถสำหรับครอบครัวแท้ ๆ เน้นเรื่องความกว้างสบายในห้องโดยสารมาเป็นอันดันหนึ่ง ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ก็ไม่ได้เก่าตกยุคแม้จะเป็นมือสอง พร้อมสรรพสำหรับการใช้งาน เครื่องยนต์มาแบบเดียวกับ Honda Jazz ข้อดีก็คือเรื่องอะไหล่เมื่อซ่อมมีให้เลือกได้ตามเชียงกง ส่วนจุดด้อยก็เป็นไปตามที่เรากล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งถ้าคุณชอบรถรุ่นนี้เป็นทุนเดิมมาอยู่แล้ว ข้อด้อยต่าง ๆ ก็หาใช่ว่าจะรุนแรงจนรับไม่ได้เสียเมื่อไร เอาเป็นว่า ! ถ้าคุณกำลังเลือกรถสำหรับครอบครัวในแบบมือสองที่ราคาไม่เกิน 5 แสน Honda Freed คันนี้แหละที่จะตอบโจทย์คุณได้ชัดเจนทุกข้อที่คุณต้องการ
ดูเพิ่มเติม:
รีวิวความคิดเห็นเกี่ยวกับรถยนต์ Toyota Sienta
เปรียบเทียบ Ford Ecosport 2018-2019 กับคู่แข่ง MG ZS 2018-2019