เรียกได้ว่าเป็นปัญหาโลกแตกของเหล่าคนใช้บัตรเครดิตเลยก็ว่าได้ ที่บางครั้งก็ไม่สามารถจัดสรรเงินได้ตามรายจ่ายที่มี แน่นอนว่าวินัยทางการเงินก็เสียไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งบัตรเครดิตนั้นหลักๆแล้วจะต้องมีวินัย และเอาใจใส่การใช้เงินของตนเองเป็นอย่างดี เพื่อที่จะไม่ให้มีหนี้ก้อนโตตามมา แต่หลายคนก็ยากที่จะควบคุมการใช้จ่ายของตนเองให้ครอบคลุมกับรายได้ที่มีในแต่ละเดือน ซึ่งในบางครั้งก็อาจจะมีเรื่องที่ต้องให้ใช้จ่ายฉุกเฉินเกิดขึ้นอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้หลายคนเป็นหนี้บัตรเครดิตนั่นเอง
การใช้บัตรเครดิตในการทำธุรกรรมต่างๆในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม หากเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วควรที่จะจัดการให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะสามารถทำธุรกรรมในด้านอื่นๆต่อไปได้ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะทำให้ติดแบล็กลิสต์จนไม่สามารถทำรายการทางการเงินได้ อย่างเช่น การขอสินเชื่อกู้ซื้อรถยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนนิยมทำกัน เพราะมีโปรโมชั่นที่หลากหลาย โดยเฉพาะดอกเบี้ย 0%
ใครที่เป็นหนี้บัตรเครดิตแล้ว ก็คงจะย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้นหากเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้ว ควรที่จะจัดการและใช้หนี้ให้ให้เร็วที่สุด แต่หากอยากจะกู้ซื้อรถยนต์แต่พึ่งผ่านการเป็นหนี้บัตรเครดิตมานั้น จะผ่านหรือไม่ ก็ต้องดูก่อนว่าเข้าข่ายกรณีใด โดยมีอยู่ 2 กรณีหลักๆ คือ
การขอสินเชื่อกู้รถยนต์หากเป็นหนี้บัตรเครดิตมาก่อน
1. หากมีการชำระยอดหนี้ครบแล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีประวัติที่ติดอยู่ในเครดิตบูโร โดยจะมีระยะเวลาในการติดอยู่ประมาณ 3 ปี แต่ในกรณีที่ปิดหนี้บัตรและได้ใบรับรองจากสถาบันการเงินว่าปิดหนี้หมดแล้ว การขอกู้ซื้อรถยนต์ก็สามารถทำได้ทันที
2. การใช้เงินดาวน์ด้วยเงินสดที่สูงกว่าปกติ เพราะแน่นอนว่าหากเป็นบุคคลที่เป็นหนี้บัตรเครดิตมาหมาดๆ ก็จะต้องมีประวัติติดอยู่ที่เครดิตบูโร โดยการใช้เงินดาวน์รถด้วยเงินสดที่สูงกว่าปกติในการกู้สินเชื่อรถยนต์นั้น ถือเป็นการสร้างความเชื่อใจให้กับทางสถาบันการเงิน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าดาวน์เยอะแล้วสถาบันการเงินจะอนุมัติสินเชื่อในทันที เพราะสุดท้ายแล้วสถาบันการเงินจะทำการประเมินและพิจารณาในการอนุมัติต่อไปว่าผ่านหรือไม่ ดังนั้น ก่อนการขอสินเชื่อจะต้องไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่เสียก่อน เพื่อให้มีความเข้าใจที่ตรงกัน และได้ทราบถึงโอกาสที่จะได้รับอนุมัติในการขอสินเชื่อกู้ซื้อรถยนต์นั่นเอง
การซื้อรถยนต์โดยการขอสินเชื่อ
สรุป
การปิดหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้สินเชื่ออื่นๆแล้ว ก็ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันว่าจะสามารถขอสินเชื่ออื่นๆได้ เพราะอย่างที่กล่าวข้างต้นว่า เมื่อปิดหนี้สินแล้ว ประวัติก็ยังคงติดอยู่ในเครดิตบูโรอย่างน้อย 3 ปี ในช่วงสามปีเป็นช่วงที่ยากต่อการขอสินเชื่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากมีความจำเป็นที่จะต้องขอสินเชื่อในช่วงระยะเวลานั้นๆ ก็ควรปรึกษากับเจ้าหน้าที่สินเชื่อของสถาบันการเงินก่อน เพื่อทราบเงื่อนไขและช่องทางที่จะเป็นโอกาสในการขอสินเชื่อให้ผ่านสำหรับผู้ที่ยังมีประวัติค้างในเครดิตบูโร อย่าท้อและเดินต่อไป
อ่านเพิ่มเติม :
รีวิว 10 ลำดับรถยนต์ Eco Car ที่น่าซื้อมากที่สุดในปี 2018
ถอยรถยนต์ใหม่ป้ายแดงแล้ว รู้ยังว่าต้องรันอินทุกครั้ง เพื่อรักษาสภาพรถยนต์?