เปรียบเทียบแฝดมหาประลัย Toyota 86 กับ Subaru BRZ ต่างกันยังไงแล้วจะซื้อคันไหนดี ?
การจับมือร่วมกันสำหรับโปรเจกสำคัญระหว่างสองค่ายแดนอาทิตย์อุทัย Toyota และ Subaru ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาช่างน่ามหัศจรรย์ มีแบ่งสัดส่วนการทำงานอย่างเจน ให้ Toyota ดูแลในเรื่องการวางแผนและออกแบบตัวถัง ส่วนทาง Subaru คือฝ่ายที่ดูแลด้านวิศวกรรมทำเครื่องยนต์ จนออกมาเป็นสองรุ่นแฝดนรกตัวแรง Toyota 86 และ Subaru BRZ เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจว่าทำไมสองรุ่นนี้จึงเหมือนกันอย่างกับแฝดหรือสำหรับใครที่เคยขับรถของค่าย “ดาวลูกไก่” Subaru แล้วได้มาขับ Toyota 86 ความรู้สึกที่ได้ก็จะไม่แตกต่างกันมากนัก
และเมื่อทั้งสองรุ่นถูกแนะนำในตลาดเมืองไทยช่วงปี 2012 กับราคาค่าตัวสูงลิบ ! มีแต่ขาซิ่งกระเป๋าหนักหน่อยเท่านั้นที่จะได้สัมผัส กับราคาจำหน่ายอยู่ตอนนี้ (08/2018) Toyota 86 จะเริ่มต้นที่ 2,490,000 ถึง 2,740,000 บาท ส่วนทางด้าน Subaru BRZ ราคาจำหน่ายจะอยู่ระหว่าง 2,250,000 - 2,320,000 บาท
แม้จะคล้ายกันในเรื่องขอตัวรถ แต่ราคาที่เมืองไทยฝั่ง Toyota BRZ สูงกว่าพอสมควร
ต่างกันเล็กน้อยในส่วนของราคาเริ่มต้นซึ่งต้องเข้าใจว่าเป็นรถนำเข้าสำเร็จ ไม่ได้ประกอบในไทย ภาษีนำเข้าจึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ราคาของสองรุ่นนี้สูงจนดับฝันความอยากเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้ในหลาย ๆ คน แต่ถ้าใครมีกำลังพอเอื้อมถึงแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกรุ่นไหนคันไหนดี เรามีรายละเอียดของแต่ละรุ่นมาบอกกับคุณ
ที่ภายนอกของทั้งสองรุ่นความต่างมีน้อยมาก เพียงส่วนของด้านหน้า Toyota 86 กับบริเวณส่วนของกันชนจะมาพร้อมกับแผงดักลมลายรังผึ้ง ส่วน Subaru BRZ จะมาในทรงสี่เหลี่ยมคางหมู รวมไปถึงส่วนของไฟตัดหมอกก็มากับรูปทรงที่แตกต่างกันใช้ร่วมกันไม่ได้
ดีไซน์ด้านหน้าแตกต่างเล็กน้อยที่บริเวณกันชน คือส่วนสำคัญที่ทำให้แยกออกว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน
มองที่ด้านข้างอาจจะพบจุดที่แตกต่างหลัก ๆ เพียงจุดเดียวนั่นคือส่วนของ “แก้มข้าง” ด้านหน้าที่ 86 จะมาพร้อมกับโลโก “86” เด่นตระหง่านสวยงาม ส่วนทางฝั่ง BRZ จะไม่มีโลกโก้อะไร เป็นเพียงช่องระบายอากาศเพิ่มลูกเล่นให้กับตัวรถเท่านั้น
ด้านข้างเป็นจอดเทียบแบบนี้ เดายากมากว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหนเพราะเหมือนกันมาก
ที่ด้านหลังชัดเจนว่าเหมือนกันอย่างที่สุด ตั้งแต่โคมไฟท้ายไปยังดิฟฟิวเซอร์ที่มาแบบท่อคู่ออกสองข้าง โดยรวมแล้วเรียกได้ว่าถ้าถอดป้ายโลโก้ออกก็แทบจะบอกไม่ได้เลยว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน
เทียบชัด ๆ ที่ด้านหลังแทบแยกกันไม่ออกเลนระหว่างสองรุ่นนี้
มิติตัวรถระหว่าง Toyota 86 และ Subaru BRZ เท่ากันที่
เช่นเดียวกับภายนอกที่การออกแบบหลักในส่วนของภายในห้องโดยสาร ดีไซน์ชิ้นส่วนแทบจะใช้ทดแทนกันได้เลยระหว่างสองรุ่น จะมีก็แต่เรื่องการตกแต่งเท่านั้นที่แต่ละค่ายจะแสดงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวออกมา และรุ่นเวอร์ชั่นปี 2017 ทั้งสองรุ่นได้มีการปรับปรุงในส่วนของภายในที่วัสดุให้น่านั่งน่าขับยิ่งขึ้นด้วยแต่ยังคงไว้ด้วยดีไซน์เดิม
ดีไซน์คอนโซลหน้าเหมือนกันต่างกันแค่การตกแต่งในส่วนของอุปกรณ์เท่านั้น
พื้นที่เบาะหน้านั่งสบายทรงสปอร์ตกระชับซึ่งแตกต่างกับด้านหลังอย่างสิ้นเชิงที่แคบมาก ก็แน่ละรถสปอร์ตยังไงก็ทำมาให้เน้นนั่งสบายอยู่แค่สองคนด้านหน้าอยู่แล้ว เบาะหลังมีไว้เพียงแค่วางของเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอ แต่ถึงอย่างไรใช่ว่าจะต้องทิ้งความสะดวกสบายในการใช้งานขับขี่ไปเสียหมด เพราะทั้ง 86 และ BRZ เอื้อไว้ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายทั้งความบันเทิงและการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วสำหรับ Toyota 86 และ 6.2 นิ้วใน BRZ รองรับความบันเทิงได้ครบ หน้าจอ MID บอกข้อมูลการขับขี่ มาตรวัดทั้งสองรุ่นให้มาไม่ต่างกันมากนักเพียงแต่ 86 มีลวดลายเพิ่มมาให้นิดหน่อย
เบาะนั่งรูปทรงสปอร์ต นั่งสบายที่ด้านหน้า แต่ด้านหลังไม่เหมาะสำหรับโดยสารสักเท่าไรนัก
เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นบล็อกเดียวกันต่างกันที่รหัสเรียกแต่ละค่าย 4U-GSE เป็นชื่อรหัสเรียกของฝั่ง Toyota 86 และ FA20 เป็นรหัสที่ Subaru BRZ ใช้เรียกเครื่องยนต์ตัวนี้ มีแค่เรื่องการตั้งค่าปรับเซ็ทในส่วนต่าง ๆ ที่แต่ละค่ายออกแบบให้นิสัยรถแตกต่างตามแบบฉบับรถของค่ายตัวเอง พื้นฐานอุปกรณ์และชิ้นส่วนใช้แทบจะเหมือนกันทั้งหมด
เครื่องยนต์ขับหลัง “สูบนอนซิ่ง” Boxer อันเป็นเอกลักษณ์จาก Subaru 4 สูบขนาด 2.0L พื้นฐานเดียวกับเครื่องยนต์ที่อยู่ใน Subaru XV และ Subaru Impreza ให้แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 200 ตัวกับแรงบิด 205 Nm ความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาเพียง 7.6 วินาทีและ 8.2 วินาทีสำหรับเกียร์อัตโนมัติ ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ตั้งแต่ออกจากโรงงานอยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ธรรมดาซะที่ไหน
เครื่องยนต์ใช้เป็นตัวเดียวกัน แตกต่างที่กันเซ็ทค่าต่าง ๆ จากค่ายใครค่ายมัน
ความปลอดภัยพื้นฐานสำหรับรถสปอร์ตทั้งสองรุ่นนี้มีมาให้แบบครบครัน แม้จะดูไม่ค่อยหวือหวาเหนือระดับสักเท่าไรเมื่อเทียบค่าตัวที่ต้องจ่ายไปสองล้านกว่าบาทก็ตาม อุปกรณ์พื้นฐานมีมาให้ในทุกรุ่นย่อยทั้งระบบเบรก ABS, กระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ป้องกันล้อหมุนฟรี TRC และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VSC ที่เลือกเปิด-ปิดได้ตามจริตการขับขี่ เหมาะอย่างยิ่งกับรถสปอร์ตแรง ๆ ที่บางครั้งคนขับอาจจะต้องการ “เค้น” สมรรถนะในการขับขี่ให้ออกมาแบบเต็มขั้น
ยิ่งเป็นรถสปอร์ตเรื่องความปลอดภัยต้องมั่นใจกว่ากับถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน
ส่วนเรื่องถุงลมทั้ง 86 และ BRZ ก็ทำได้อย่างประทับใจถึงแม้ห้องโดยสารจะดูเล็ก ๆ เหมาะกับแค่นั่งสองคนก็ตามแต่มั่นใจได้ว่าถ้าเกิดเหตุ ถุงลมที่ให้ไว้ถึง 7 ตำแหน่งจะช่วยรองรับแรงกระแทกไว้ได้อย่างทันถ่วงที โดยถุงลมที่ให้มาจะเป็นตำแหน่งคู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า, ม่านถุงลมทั้งสองฝั่ง และที่บริเวณหัวเข่าคนขับ
เหมือนกันขนาดนี้ ถ้ายังตัดสินใจเลือกไม่ถูกแนะนำให้ไปลองขับทั้งสองรุ่นเลยดีที่สุด
น้อยมากจริง ๆ ถ้าจะให้สรุปในเรื่องของความแตกต่างระหว่างสองรุ่นนี้ Toyota 86 กับ Subaru BRZ เพียงแค่ภายนอกนิด ภายในหน่อย และการตั้งค่าต่าง ๆ จากโรงงานผู้จำหน่ายที่แตกต่างกันเท่านั้น แต่พื้นฐานโดยรวมแล้วเหมือนกันแทบจะใช้อะไหล่ตัวเดียวกันได้ ดังนั้นเงื่อนไขในการเลือกระหว่างสองรุ่นนี้ก็คงจะมีแต่เรื่องของแบรนด์ที่ผู้ซื้อแต่ละคนชมชอบเสียมากกว่า ใครใคร่ Toyota ก็ไปทาง 86 ใครใคร Subaru ก็ไปทาง BRZ หรือถ้าใจยังเป็นกลางเลือกไม่ถูก แนะนำว่าให้ลองไปขับทั้งสองรุ่นนี้เลยดีกว่า เผื่อสุดท้ายแล้วคำตอบอาจอยู่หลังจากได้เหยียบคันเร่งของรุ่นใดรุ่นหนึ่งก็เป็นได้
ดูเพิ่มเติม:
รีวิว Subaru XV 2018 รถหรูสไตล์สปอร์ต เน้นรูปลักษณ์ที่ทันสมัยมีชีวิตชีวา
รีวิว All New Toyota C-HR 2018 สัมผัสประสบการณ์ขับขี่อย่างเหนือระดับ