14:46, 31 ก.ค. 2561

เปรียบเทียบอย่างละเอียดระหว่าง BMW X1 กับคู่แข่ง Mercedes-Benz GLA Class รถคันไหนดีกว่า

บันทึกรายการ

สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดส่งท้ายปี ด้วยการประชันระหว่าง BMW X1 และ Mercedes-Benz GLA-Class ที่ให้ทั้งความหรูหรา ความทันสมัยและการใช้งานสุดคุ้มค่า โดยมีจุดที่เหมือนกันคือเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ กับราคาที่สูสีกำลังดี


BMW X1


Mercedes-Benz GLA-Class

เปรียบเทียบอย่างละเอียดระหว่าง BMW X1 กับคู่แข่ง Mercedes-Benz GLA Class

เปรียบเทียบภายนอก

BMW X1 sDrive18i ได้รับการออกแบบให้มีความพรัอมในการเดินทางในทุกสภาวะ พ่วงด้วยอ็อพชั่นภายนอกที่เพียบพร้อมหลายรายการ ได้แก่ หลอดซีนอน LED Daylight แบบวงแหวนรอบดวงไฟ ไฟตัดหมอกทรงกลม การออกแบบรูปลักษณ์ด้านหน้าที่ชวนหลงไหล ด้วยกระจังหน้าไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์กับกันชนอันดุดัน, กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว, ไฟท้าย LED รูปตัว L, ราวหลังคาอเนกประสงค์ และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่เพิ่มความโปร่งสบาย


BMW X1

ส่วนรถเอสยูวี Mercedes-Benz GLA 200 Urban มีรูปลักษณ์สปอร์ต เรียบง่าย ลุยได้ทุกสภาวะถนน พร้อมเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทาง ด้วยไฟหน้าแบบไบซีนอน (Bi-Xenon) เสริมไฟ LED Daylight และไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียมแบบ 2 แถบ พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง,  กันชนด้านหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยขอบโครเมียม, ขอบหน้าต่างเสริมโครเมียม, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ


Mercedes-Benz GLA 

การเปรียบเทียบมิติตัวถังเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน มาดูกันว่า BMW X1 และ Mercedes-Benz จะมีขนาดตัวถังเท่าไหร่กันบ้าง

มิติตัวถัง

BMW X1

Benz GLA-Class

พื้นที่ตัวรถทั้งหมดยาวxกว้างxสูง (มม.)

4,454 x 1,798 x 1,545

4,417 x 1,804 x 1,494

ความยาวช่วงล้อ (มม.)

2,760

2,699

ความกว้างช่วงล้อ หน้า-หลัง (มม.)

1,500 - 1,529

1,569 - 1,560

ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.)

ไม่ได้ระบุ

ไม่ได้ระบุ

น้ำหนักรถ (กก.)

1,530

1,435 / 1,485

ความจุถังน้ำมัน (ลิตร)

63

50

เปรียบเทียบภายใน

BMW X1 ออกแบบภายในอย่างหรูหรา กว้างขวาง พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน การออกแบบแผนคอนโซลที่แซมด้วยลายไม้, รวมไปถึงการออกแบบที่นั่งผู้โดยสารตอนหน้าให้สามารถเห็นทิวทัศน์ได้ชัดเจนมากที่สุด ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกก็จัดอย่างครบครันหลายรายการ ทั้งมาตรวัดเรืองแสง จอแสดงข้อมูลการขับขี่ จอมัลติมีเดีย, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง, เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมหน่วยบันทึกความจำ, ระบบปรับอากาศแยกโซน พร้อมไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารและระบบควบคุมพาโนรามิค ซันรูฟแบบไฟฟ้า ในส่วนของพื้นที่สัมภาระท้ายของรถรุ่นนี้ ขนาดพื้นที่ปกติจะสามารถจุของได้มากถึง 480 ลิตร โดยเบาะแถวสองด้านหลังสามารถพับแบบ 40:20:40 ที่คุณสามารถพับเบาะเฉพาะส่วนได้ เพื่อพื้นที่ใช้สอยในการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่และหลากหลายยิ่งขึ้น

รีวิว BMW 730 Ld M Sport เรียบหรู พร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครบครัน


ภายใน BMW X1

ส่วน Mercedes-Benz GLA ยังคงคอนเซ็ปต์ของการออกแบบห้องอันหรูหรา สวยงามเช่นเคย อาทิ แผงประตูบุหนัง Artico, แผงหน้าปัดมาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบภาพสี, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, เบาะนั่งหุ้มหนัง Artico 5 ที่นั่ง, เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าที่สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ ด้านความบันเทิงที่ประกอบไปด้วย เครื่องเล่นวิทยุ-ซีดี MB Audio 20 จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว , ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Bluetooth), ช่องจ่ายไฟ 12V ในส่วนของพื้นที่สัมภาระท้าย 421 ลิตร พร้อมกับเบาะแถวหลังที่พับแบบ 60(-20):40 ก็สามารถขยายพื้นที่ได้สูงสุดถึง 1,235 ลิตรเลยทีเดียว


Mercedes-Benz GLA


Mercedes-Benz GLA

Mercedes-Benz ชัดเจน จะไม่นำเครื่องยนต์ดีเซลประเภทรถบุคคลวางจำหน่ายใน USA อีกแล้ว

เปรียบเทียบเครื่องยนต์

BMW X1 sDrive18i ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 150 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตัน-เมตร ที่ให้สมรรถนะสูงแต่ยังประหยัดน้ำมัน ด้วยระบบควบคุมแคมชาฟท์และระบบการควบคุมการวาล์วแปรผันคู่ ที่ให้อัตราเร่งสูงในการออกตัวแม้ในรอบต่ำ ระบบส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม Steptronic จึงทำให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายในเวลาเพียง 10.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดถึง 200 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 16.1 กม./ลิตร อัตราการปล่อย CO2 ต่ำเพียงแค่ 185 กรัม/กม.


เครื่องยนต์ BMW X1

Mercedes-Benz GLA 200 Urban ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร แถวเรียง  4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังขับเคลื่อน 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติคลัทซ์คู่ 7 สปีด (7G-DCT) พร้อมพร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยและระบบปรับโหมดขับขี่ 3 โหมด "Economy" "Sport" และ "Manual" จึงให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม ที่ 8.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ย 17.5 – 18.1 กม./ ลิตร


Mercedes-Benz GLA

เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัย (ทั้งหมด)

BMW X1

Benz GLA-Class

โครงสร้างนิรภัย

*

*

คานเหล็กเสริมนิรภัย

*

*

ถุงลงนิรภัย 

คู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า  ม่านถุงลมนิรภัย

คู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า  ม่านถุงลมนิรภัย

เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ELR

3 จุด 2 ที่นั่ง

3 จุด 2 ที่นั่ง

เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ELR

3 จุด 3 ที่นั่ง

3 จุด 3 ที่นั่ง

กระจกนิรภัย

*

*

ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว 

แบบไดนามิค ทั้ง  DSC และ DCT

ESP

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี 

ASR

ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก และระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ABS with EBD)

*

*

ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน

-

ASR

ระบบเบรค Adaptive Brake พร้อมฟังก์ชั่น Hold

-

พร้อมฟังก์ชั่น  Hold และ Hill - Start Assist

ระบบช่วยเบรค

-

BAS

ระบบรักษาความเร็ว (Cruise Control) 

*

-

ระบบจำกัดความเร็ว (Speedtronic)

*

แกนพวงมาลัยยุบตัวได้

*

*

ไล่ฝ้ากระจกหลัง

*

*

ไฟเบรกดวงที่ 3

*

*

ไฟเบรคกะพริบฉุกเฉิน

*

*

ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน  (Daytime Running Lights)

*

*

ระบบปรับระยะส่องไฟหน้า

*

-

ไฟตัดหมอกหน้า

*

*

กล้องมองหลัง ขณะถอยจอด

*

*

สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง

*

*

เซ็นทรัลล็อก

*

*

ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ

-

*

ระบบเตือนแรงดันลมยาง

*

*

ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่

-

*

ระบบกุญแจป้องกันการโจรกรรม Immobiliser

*

*

สัญญาณกันขโมย

*

*

ราคา

BMW X1 sDrive18i ราคาเริ่มต้นที่ 1,999,000 บาท

Mercedes-Benz GLA 200 Urban ราคาเริ่มต้นที่ 2,090,000 บาท

ราคา Nissan GT-R 2018 เปิดตัวครั้งแรกในไทยด้วยราคาที่แพงทะลุเพดานสูงถึง 13.5 ล้านบาท

สรุป

ในด้านของ BMW X1 sDrive18i รถคอมแพ็คเอสยูวีหรูที่มาทั้งรูปลักษณ์, ขนาดตัวถัง, เทคโนโลยี, สมรรถนะและความปลอดภัยหลายรายการ จึงเปี่ยมไปด้วยความสมบูรณ์แบบในรอบด้าน เพียงแต่ว่าถ้าจัดรุ่น sDrive20d ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร ก็จะได้ระบบควบคุมการจ่ายน้ำมัน เช่น Eco Pro กับระบบ Auto Start/Stop เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน วิ่งไกลกว่าเดิม และให้แรงบิดที่โดดเด่น


BMW X1

ส่วน Mercedes-Benz GLA 200 Urban รถคอมแพ็คเอสยูวีหรูที่แม้จะมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กแค่ 1.6 ลิตร แต่กลับออกแบบมาให้สามารถรีดสมรรถนะได้สูงมากถึง 156 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ซึ่งเรียกได้ว่าเล็กพริกขี้หนูจริงๆ แถมยังมีระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันเพื่อมอบความประหยัดที่ไม่แพ้ใคร พร้อมระบบความปลอดภัยที่จัดแบบครบครันหลายรายการ


Mercedes-Benz GLA

ดูเพิ่มเติม :

รีวิวรถแฮทช์แบ็คเครื่องยนต์ขนาด 1.5 MG3 vs. Honda Jazz เปรียบเทียบ MG3 กับ Honda Jazz
รีวิวรถยนต์ Honda Jazz และข้อดี ข้อเสีย ที่ผู้ใช้บอกกล่าว !!

ในหมวดเดียวกัน