จับรถ SUV ราคาระดับล้านกลางๆ มาประชัน ระว่าง Ford Everest และ Toyota Fortuner
รถ SUV คือรถในฝันของคนมีครอบครัว เพราะเป็นรถที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้หลายรูปแบบไม่วาจะการท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ หรือไปแบบหรรษาเฮฮาทั้งครอบครัว รวมถึงมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง วันนี้ Khaorot.com จะเอาใจสาวกรถ SUV ราคาระดับล้านกลางๆ ระว่าง Ford Everest และ Toyota Fortuner ดูว่ารุ่นไหนจะโดนใจสาวกรถ SUV มากกว่ากัน
Ford Everest 2018
Ford Everest รถ SUV เอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง มี่ฟอร์ดบรรจงสรรสร้างมาเพื่อครอบครัวนักผจญภัยโดยเฉพาะ เพราะนอกจากเป็นรถ SUV เอนกประสงค์แล้ว Ford Everest ยังสวมวิญญาณออฟโรดมาเพื่อพร้อมลุยทุกสถานการณ์ แถมยังโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ HID และไฟส่องสว่างช่วงเวลากลางวันและไฟท้ายเป็นแบบ LED ส่วนประตูหลังก็สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า Ford Everest มีให้เลือกมากถึง 6 สี คือ สีแดง สีเงิน สีดำ สีขาว สีทอง และสีฟ้า ส่วนราคาก็หลักล้านขึ้น ซึ่ง Ford Everest มีด้วยกัน 3 รุ่น คือ รุ่น 2.2L Titanium 4x2 AT ราคา 1,369,000 บาท รุ่น 2.2L Titanium+ 4x2 AT NAVI ราคา 1,569,000 บาท และรุ่น 3.2L Titanium+ 4x4 AT NAVI ราคา 1,769,000 บาท
Toyota Fortuner
Toyota Fortuner รถ SUV สัมผัสใหม่แห่งนิยามยนตรกรรม ทุกมุมมองสะท้อนภาพลักษณ์แห่งความภาคภูมิ เหนือชั้นกว่าทุกข้อจำกัดแห่งการขับเคลื่อน ที่มาพร้อมกับไฟหน้าอันโดดเด่นที่เปล่งแสงเจิดจรัสด้วย LED โปรเจคเตอร์ แบบ Bi-Beem ส่วนไฟท้ายก็เป็น LED Light Guiding ที่ปรับแสงให้สามารถมองเห็นในระยะไกล กันชนท้ายดีไซน์สุดสวยเพื่อความโดดเด่นให้ให้กับตัวรถและรับกับกระจังหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว เพิ่มความหล่อด้วยล้ออัลลอย 18 นิ้ว สปอยเลอร์หลัง สุดล้ำมาพร้อมกับไฟเบรก LED 3 ดวง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวระบบ Welcome Light ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและยังมีระบบป้องกันการหนีบ ส่วนสีสันของตัวถังก็มีให้เลือกมากถึง 7 สี ได้แก่ Super White II , Dark Grey Mica Metallic , Nebula Blue , Phantom Brown , Silver Metallic , Attitude Black Mica , White Pearl CS ส่วนราคาก็ค่อนข้างจะสูงไปนิดเริ่มต้นที่ 1,239,000 บาท
ภายในห้องโดยสารของ Ford Everest
เบาะหลังพับเก็บเป็นที่วางสัมภาระ
ภายในห้องโดยสารของ Ford Everest เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับห้องโดยสารที่กว้างขวางทำให้รู้สึกโล่งสบายไม่อึดอัดทั้งๆ ที่มีผู้โดยสารนั่งไปเต็มคันทั้ง 7 ที่นั่ง เบาะนั่งเป็นหนังแท้ เบาะนั่งสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้ารวมทั้งเบาะหลังแถวที่ 3 ที่สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้เพียงแค่กดปุ่ม และภายในห้องโดยสารของ Ford Everest ยังได้นำเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนเข้ามา โดยการใช้ไมโครโฟนที่มีประสิทธิภาพสูงในการวัดระดับเสียงรถยนต์และการตรวจจับ เพื่อปล่อยคื่นเสียงต้านออกมาเพื่อลดการได้เสียงจากภายนอก หลังคาเป็นหลังคาแบบ Panoramic Moon Roof ปรับด้วยระบบไฟฟ้า ที่ทำให้ผ็โดยสารสามารถสำผัสกับบรรยากาศเย็นๆ สดชื่นจากภายนอกได้อย่างเต็มที่
ระบบนำทางบนหน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว
และนอกจากนี้ ของ Ford Everest ยังได้นำเทคโนโลยีล้ำๆ มากมายเข้ามาเพื่อให้ผู้ขับขี่ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNCTM 3 ทำสามารถโทรศัพท์เพียงแค่เรียกชื่อของผู้ที่ต้องการโทรหา หรือเล่นเพลงผ่านแอพพลิเคชั่น JOOX ที่สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียงหรือจะสั่งงานผ่านจอสัมผัสแบบ Multi-Touch ขนาด 8 นิ้ว ก็ได้ และยังมีระบบนำทาง Navigation System แบบภาษาไทย พร้อมทั้งรองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ให้คุณสามารถสื่อสารกับ Siri และเล่นวิทยุทั่วโลกผ่าน Internet ได้ทันที
รีวิว All New Toyota C-HR 2018 สัมผัสประสบการณ์ขับขี่อย่างเหนือระดับ
อิจฉา! มะกัน&ยุโรป รอขับ Toyota RAV4 2018
ภายในห้องโดยสาร Toyota Fortuner
ภายในห้องโดยสาร Toyota Fortuner
ปุ่มควบคุมที่พวงมาลัย
จอระบบสัมผัส 8 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร Toyota Fortuner ได้รังสรรค์ตกแต่งห้องโดยสารแบบ New legend of interior ...เหนือนิยามแห่งความมีระดับ ตอบรับสไตล์ชีวิตที่เหนือกว่า ด้วยห้องโดยสารที่โอ่โถกว้างขว้าง พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งคนขับสามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้ามากถึง 8 ทิศทาง เบาะแถว 2 ปรับได้แบบ One Touch เพิ่มความเย็นฉ่ำให้กับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ด้วยระบบรับอากาศอัตโนมัติแบบ 2 ตอน และยังมีเทคโนโลยีล้ำๆ ไม่แพ้ค่ายไหนมากมายไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดแสงดีไซน์แปลกแหวกแนวแบบ Optitron พวงมาลัยหุ้มหนังมาพร้อมกับสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่ จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID หน้าจอสีแบบ TFT หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว ที่แสดงระบบนำทางและเครื่องเล่น DVD รวมถึงการเชื่อมต่อ Bluetooth เชื่อมต่อกับระบบโทรศัพท์ด้วยระบบ Hands-free เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร ระบบปปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ช่องเสียบอุปกรณ์ USB ,iPOD และ AUX กล้องมองหลังที่ช่วยให้มั่นใจทุกครั้งที่ถอยหลัง และระบบ Push Start
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
กล้องมองหลัง
ด้านความปลอดภัย Ford Everest ได้เล็งเห็นถึงความปลอดภับของผู้ขับขี่และผู้โดยสารจึงได้ใส่ถุงลมนิรภัยมาให้มากถึง 7 จุด ที่มีทั้ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย ที่ไม่ว่าผู้โดยสารจะนั่งแถวไหนก็ปลอดภัยได้เช่นกัน และยังแถมถุงลมนิรภัยกันหัวเข่าด้านคนขับอีกด้วย
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจในทุกการขับขี่และทุกสภาพถนน เพราะระบบนี้จะช่วยให้รถเกาะถนนมากขึ้น ไม่ว่าจะเข้าโค้งหรือในช่วงที่เร่งแซง รถก็ยังสามารถปรับการทรงตัวให้นิ่งตลอดการเดินทาง
พวงมาลัยของ Ford Everest เป็นพวงมาลัยแบบเพาเวอร์ที่ช่วยผ่อนแรงด้วยระบบไฟฟ้า และยังช่วยชดเชยน้ำหนักของพวงมาลัยทำให้การควบคุมควบทำงานได้มากขึ้น
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Ford Everest เป็นรถ SUV ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงทำให้ผู้ขับไม่ค่อยมั่นใจในการเข้าจอดในที่แคบ เพียงแค่กดปุ่มระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบก็จะช่วยหาพื้นที่ในการจอดรถให้พอเหมาะกับขนาดของรถ จากนั้นก็สามารถปล่อยมือจากพวงมาลัยแล้วให้ระบบช่วยจอดอัจฉริยะทำงานต่อไปเพียงแค่ควบคุมเกียร์ คันเร่ง และเบรกไปตามปกติ
ระบบตรวจจับรถในจุดบอดและระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด นอกจาก Ford Everest จะมีระบบช่วยจอดแล้วยังมีระบบนำออกจากที่จอดอีกด้วย ที่เป็นเสมือนดวงตาคู่พิเศษที่ช่วยมองในจุดบอดหรือมุมอับไม่ว่าจะช่วงเวลาเปลี่ยนเลย หรือช่วงที่ถอยหลังออกจากที่จอดแล้วมีรถมาด้านหลัง ระบบก็จะแจ้งเดือน
กล้องมองมีความชัดเจนมาก มีเสียงสัญญาณเซ็นเซอร์แจ้งเตือเมื่อพบสิ่งกีดขวางด้านหลัง
ระบบ Lane Keeping System เป็นระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ในกรณีที่รถของคุณเบี่ยงออกนอกเส้นทางโดยไม่ตั้งใจ และไม่ได้เปิดไฟเลี้ยว ระบบ Lane Keeping System จะเป็นตัวช่วยเดือนด้วยการสั่นพวงมาลัยเพื่อเตือนให้กลับเข้าสู่เลน
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและระบบควบคุมระยะห่างแบบอัตโนมัติ เพียงแค่กดปุ่ม ระบบจะช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม โดยจะข่วยเบรกเมื่อรถใช้ความเร็วมากเกิด และช่วยเร่งความเร็วเมื่อรถเริ่มทิ้งห่างจากคันหน้ามากจนเกินไป
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชันและระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน ช่วยให้การออกตัวรถขณะจอดในทางลาดชันทำได้ดี มั่นใจและปลอดภัย โดยระบบจะคงการเบรกเพื่อให้อีก 2 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้รถไหล
ถุงลมนิรภัย 7 จุด
กล้องมองหลัง
ด้านความปลอดภัย Toyota Fortuner ก็ได้จัดทุกอย่างมาแบบเน้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารเพื่อให้มีความมั่นจว่าสามารถนั่งอยู่บน Toyota Fortuner อย่างปลอดภัยได้ทุกเส้นทาง โดยที่ทาง Toyota Fortuner ได้จัดระบบถุงลมเสริมความปลอดภัยมาให้มากถึง 7 จุด มั่นใจอีกขั้นของการปกป้องที่เหนือชั้น ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง/ ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง/ ม่าน 2 ตำแหน่ง/ เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง และยังมีระบบ TSD ควบคุมแรงเบรกและแรงบิดของเครื่องยนต์ระบบ EBD การกระจายแรงเบรก ระบบเบรก ABS ระบบเสริมเบรก
เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ TDCi ขนาด 2.2 และ 3.2 ลิตร
ด้านสมรรถนะ Ford Everest มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ TDCi ขนาด 2.2 และ 3.2 ลิตร ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ Terrain Management System ที่พาคุณไปพจญภัยได้ทุกสภาพถนน ระบบล็อคเฟืองท้ายที่ช่วยส่งอัตราเร่งจากเครื่องยนต์ไปสู้ล้ออยางเต็มประสิทธิภาพ ช่วงล่างนุ่มนวลด้วยระบบกันสะเทือนแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพการควบคุมได้ดีขึ้น
Toyota Fortuner มีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล
ด้านสมรรถนะ Toyota Fortuner มาพร้อมกับเครื่องยนต์ทั้งเบนซินและดีเซล ซึ่งเบ่งเป็น 3 รุ่น คือ
รุ่นดีเซล 2.8 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ (177 แรงม้า) ที่ 3400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน - เมตร ที่ 1,600 - 2,400 รอบ/นาที
รุ่นดีเซล 2.4 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด/ เกียร์ธรรมดา 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 - 2,000 รอบ/นาที
รุ่นเบนซิน 2.7 ลิตร Dual VVT-i (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) ให้กำลังสูงสุด 122 กิโลวัตต์ (166 แรงม้า) ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เใมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที (รองรับน้ำมัน E20)
เป็นอย่างไรบ้างคะสาวก SUV ทั้งหลายโดนใจกันบ้างไหมคะ และถ้าใครเล็งอยากจะจับจองรถ SUV ทั้ง 2 ค่ายนี้อยู่แต่ยังรู้สึกว่าต้องการสัมผัสแบบตัวเป็นๆ ก็สามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลและทดลองขับได้ที่โชว์รูป Toyota และ Ford ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือจะเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ford.co.th และ https://www.toyota.co.th/
ดูเพิ่มเติม:
NEW Honda City Minor Change 2018 “เหนือกว่าที่สุด คือที่สุดในทุกด้าน”