09:04, 6 ธ.ค. 2561

เปรียบเทียบ Ford Ecosport 2018-2019 กับคู่แข่ง MG ZS 2018-2019

บันทึกรายการ

Ford Ecosport กับ MG ZS ยอดรถยนต์อเนกประสงค์ SUV ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงเมื่อจับทั้งคู่มาเปรียบเทียบกันใครจะน่าสนใจข่าวรถมีคำตอบให้ครับ

1. แนะนำ

Ford Ecosport กับ MG ZS ถือเป็นคู่แข่งรายสำคัญของรถในเซกเมนท์เดียวกันด้วยขนาดของเครื่องยนต์ที่ถูกเลือกมาติดตั้งในรถทั้งคู่มีขนาด 1.5 ลิตร เท่ากันส่งผลให้มีสมรรถนะในการขับขี่ไม่แตกต่างกันมากนัก ในส่วนของรายแรก Ford Ecosport 2018 รถอเนกประสงค์ในตระกูล URBAN SUV สายลุยที่พร้อมทะยานไปในทุกเส้นทางโดดเด่นด้วยตัวถังที่สูงจากพื้นมากถึง 200 มิลลิเมตร พร้อมทางเลือกรุ่นย่อยที่มีให้ถึง 4 รุ่น ได้แก่ Ambiente 1.5 Ti-VCT MT , Ambiente 1.5 Ti-VCT AT , Trend 1.5 Ti-VCT AT และ Titanium 1.5 Ti-VCT AT ในราคาเริ่มต้น 6.6 แสน


รีวิว Ford Ecosport 2018

ส่วนทางด้าน MG ZS 2018 เรียกเสียงฮือฮาจากผู้สนใจรถยนต์อเนกประสงค์ตระกูล SUV ได้อย่างล้นหลามภายใต้นิยามยนตรกรรมสมาร์ทคาร์แห่งยุคในสไตล์รถอังกฤษที่ผสานการออกแบบสุดทันสมัยพร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกได้อย่างลงตัว เพิ่มความพิเศษให้นักขับด้วยทางเลือกรุ่นย่อยที่มีให้ถึง 3 รุ่น ได้แก่ 1.5 C , 1.5 D และ 1.5 X กอปรกับการนำเทคโนโลยีสุดล้ำพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นควบคุมด้วยไฟฟ้า EPS ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดน้ำหนักของพวงมาลัยได้หลายรูปแบบรวมถึงหลังคาซันรูฟแบบ Panoramic สุดหรู ในราคาเริ่มต้นเพียง 6.7 แสน เท่านั้น


รีวิว MG ZS 2018

2. เปรียบเทียบราคาจำหน่าย Ford Ecosport 2018-2019 กับคู่แข่ง MG ZS 2018-2019

Ford Ecosport 2018 มิติใหม่ของรถ SUV ที่สามารถขับขี่ได้ในทุกสภาพเส้นทางพร้อมทางเลือกรุ่นย่อยที่มีให้ถึง 4 รุ่น ในราคาเริ่มต้นประมาณ 6.6 แสน ถือว่าไม่สูงมากนักเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ Duratec ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมกับการออกแบบภายในที่เน้นความสบายด้วยห้องโดยสารขนาดกว้างขวาง


Ford Ecosport ติดตั้งยางอะไหล่พร้อมฝาครอบ

ราคาจำหน่าย Ford Ecosport 2018 มีดังนี้

Ford Ecosport Ambiente 1.5 Ti-VCT MT ราคา 669,000 บาท  

Ford Ecosport Ambiente 1.5 Ti-VCT AT ราคา 709,000 บาท

Ford Ecosport Trend 1.5 Ti-VCT AT ราคา 759,000 บาท

Ford Ecosport Titanium 1.5 Ti-VCT AT ราคา 839,000 บาท

MG ZS 2018  รถอเนกประสงค์ SUV รุ่นเรือธงจาก MG ที่พกพาความสปอร์ตมาอย่างเต็มขั้นพร้อมทางเลือกเฉดสีตัวถังที่มีทั้งสีแดง Scarlet Red , สีน้ำเงิน Marina Blue , สีขาว Arctic White , สีดำ Black Knight และ สีเงิน Silver Metallic พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร นับว่าน่าสนใจมากทีเดียว


หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา

ราคาจำหน่าย MG ZS 2018 มีดังนี้

MG ZS รุ่น 1.5 C ราคา 679,000 บาท

MG ZS รุ่น 1.5 D ราคา 729,000 บาท

MG ZS รุ่น 1.5 X ราคา 789,000 บาท

3. เปรียบเทียบภายนอก Ford Ecosport 2018-2019 กับคู่แข่ง MG ZS 2018-2019

Ford Ecosport 2018 มาพร้อมกับการออกแบบภายนอกที่เน้นหนักไปที่การให้ผู้ขับขี่สามารถขับรถรุ่นนี้ไปได้ในทุกเส้นทางด้วยตัวรถที่ยกสูงจากพื้นถึง 200 มิลลิเมตร พร้อมเส้นสายบนตัวรถที่เน้นดีไซน์ทันสมัยโฉบเฉี่ยวด้วยกระจังหน้าสีโครเมี่ยม กันชนหน้าสีเดียวกับตัวรถติดตั้งไฟหน้าพร้อมไลท์ไกด์ เปิด-ปิดได้ด้วยระบบอัตโนมัติ เสริมด้วยไฟตัดหมอกด้านหน้า และ ระบบไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow-Me-Home ถือเป็นฟีเจอร์ระบบไฟส่องสว่างที่เรียกได้ว่าจัดเต็มเลยทีเดียวผสานกับการติดตั้งราวหลังคาที่ช่วยให้ผู้ขับขี่บรรทุกสัมภาระด้านบนได้มากยิ่งขึ้น

เปรียบเทียบ Ford Mustang 2018 vs Chevrolet Camaro 2018 สองสปอร์ตคูเป้พันธุ์ดุ จากฝั่งอเมริกา


ไฟหน้าพร้อมไลท์ไกด์ เปิด-ปิด ด้วยระบบอัตโนมัติ

นอกจากนี้แล้ว Ford Ecosport 2018 ยังมีการเสริมหลังคาซันรูฟแบบปรับไฟฟ้าแนวเอียงและสไลด์แต่มีให้เฉพาะรุ่น 1.5 Titanium AT เท่านั้น เป็นออฟชั่นเสริมเข้ามาอีกทั้งยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยแผงตกแต่งข้างประตูพร้อมฝาครอบยางอะไหล่สีเดียวกับตัวรถที่ดูแล้วโดดเด่นเลยทีเดียว เสริมด้วยการติดตั้งระบบปัดน้ำฝนด้านหลังพร้อมที่ฉีดทำความสะอาด และไฟตัดหมอกด้านหลัง ส่วนช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/60 R16 ถือว่าการตกแต่งภายนอกของฟอร์ด เอคโคสปอร์ตทำได้ดีไม่น้อยไปกว่า MG ZS


พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังขนาดใหญ่

ทางด้าน MG ZS ได้รับการดีไซน์เส้นสายบนตัวถังให้ความรู้สึกสนุกเร้าใจผสานกับเทคโนโลยีระบบไฟส่องสว่างที่คัดสรรค์มาอย่างดี เช่น ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างแบบ DRL ติดตั้งระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ถือเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ใกล้เคียงกันกับใน Ford Ecosport อีกทั้งยังมีการนำหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ที่ถือเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้เสริมเข้ามาให้ด้วย


กระจังหน้าแบบตาข่าย

ผสานกับการติดตั้งไฟท้ายแบบ LED พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับ-พับ ได้ด้วยไฟฟ้า เสริมด้วยระบบปัดน้ำฝนแบบตั้งหน่วงเวลาได้ทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง อีกทั้งยังติดตั้งเทคโนโลยีระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง รวมถึงการดีไซน์ฝาปิดกระโปรงท้ายแบบสปอร์ต กอปรกับสปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ตพร้อมที่เปิดฝากระโปรงท้ายรูปแบบใหม่ซ่อนอยู่ภายใต้สัญลักษณ์ MG ส่วนช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/50 R17 จัดว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียวสำหรับออฟชั่นภายนอกที่เอ็ม จีมีการติดตั้งมาให้ส่งผลให้ดูเหนือกว่า Ford Ecosport อยู่พอสมควร  


พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่พร้อมฝาเปิดกระโปรงท้ายซ่อนอยู่ภายใต้สัญลักษณ์ MG

4. เปรียบเทียบภายใน Ford Ecosport 2018-2019 กับคู่แข่ง MG ZS 2018-2019

Ford Ecosport 2018 ได้รับการตกแต่งภายในตามแบบฉบับรถยุโรปที่ให้ความคุ้มค่ากับพื้นที่ใช้สอยภายในกว้างขวางพร้อมพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหลังขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มความสะดวกด้วยกระจกไฟฟ้าหน้า-หลัง พร้อมระบบเปิด-ปิดสัมผัสเดียวด้านคนขับ กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ เพิ่มความผ่อนคลายในทุกเส้นทางด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังแท้สีดำ โดยเบาะนั่งฝั่งคนขับสามารถปรับมือได้ 6 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งด้านหน้าฝั่งผู้โดยสารปรับมือ 4 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลังพับเรียบได้แบบแยกส่วน 60:40 แม้การออกแบบภายในจะดีเยี่ยมแต่เบาะนั่งที่ปรับมือทำให้ดูไม่น่าประทับใจมากนัก


ภายใน Ford Ecosport 2018

แต่อย่างไรก็ตาม Ford Ecosport ก็แก้ไขด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ช่องเก็บของทำความเย็นที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มได้ตลอดการเดินทาง พร้อมช่องต่อไฟขนาด 12V บริเวณเบาะแถวหลัง ให้ความเย็นสดชื่นด้วยระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแต่มีให้เฉพาะในรุ่น 1.5 Titanium AT เท่านั้น ส่วนพวงมาลัยเป็นแบบพาวเวอร์พร้อมระบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้าแบบ EPAS ปรับระดับได้ 4 ทิศทาง และ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start ให้ความบันเทิงผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ซึ่งไม่ใช่ระบบสัมผัส โดยรวมแล้วถือว่าการออกแบบภาใน Ford Ecosport อยู่ในระดับดีแต่ออฟชั่นอำนวยความสะดวกยังด้อยกว่า MG ZS อยู่มากทีเดียว  


ช่องเก็บของทำความเย็น

ภายใน MG ZS ได้รับการดีไซน์ให้หรูหราตามแบบฉบับยนตรกรรมจากอังกฤษผสานกับฟังก์ชั่นการใช้งานภายในที่เรียกได้ว่าอยู่ในระดับพรีเมี่ยมเลยทีเดียวพร้อมเฉดสีภายในแบบทูโทนน้ำตาล-ดำ ตกแต่งเพิ่มด้วยวัสดุ Soft Touch ทำให้ห้องโดยสารน่าประทับใจมากขึ้น ส่วนวัสดุหุ้มเบาะ MG ZS โฉมนี้ได้รับการผลิตจากหนังสังเคราะห์ โดยเบาะนั่งคนขับสามารถปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งด้านหลังปรับพนักพิงได้แบบ 60:40 ส่งผลให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายตลอดทริปการเดินทาง


MG ZS ตกแต่งภายในด้วยสีทูโทนน้ำตาล-ดำ

นอกจากนี้แล้ว MG ZS ยังล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบอัจฉริยะMID พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) พร้อมกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน เสริมด้วยกระจกไฟฟ้าแบบ One Touch Up-Down ด้านคนขับ รวมถึงปุ่มสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล และ ช่องจ่ายไฟขนาด 12 V เติมเต็มทุกความบันเทิงด้วยระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและข้อมูลไร้สาย ติดตั้งระบบสั่งการ i-Smart นับว่าฟีเจอร์พื้นฐานภายใน MG ZS เหนือกว่า Ford Ecosport อยู่พอสมควร


หน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว

5. เปรียบเทียบเครื่องยนต์ Ford Ecosport 2018-2019 กับคู่แข่ง MG ZS 2018-2019

Ford Ecosport 2018 มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Duratec ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมระบบแปรผันแคมชาร์ฟแบบอิสระคู่ Ti-VCT ให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า ที่ 6,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที พร้อมระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด Electronic Multipoint injection ขนาด 52 ลิตร อัตราส่วนกำลังอัด 11:1 มอบความประหยัดน้ำมันในทุกทริปการเดินทางรองรับพลังงานทางเลือก E85 ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Power Shift 6 สปีด พร้อมโหมด SelectShift สามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบเกียร์แบบธรรมดาได้นับเป็นฟังก์ชั่นที่น่าสนใจเลยทีเดียว


เครื่องยนต์ Duratec ขนาด 1.5 ลิตร

ทางด้าน MG ZS 2018 ส่งผ่านทุกขุมพลังความเร็วด้วยเครื่องยนต์เบนซินรหัส I5S4C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode รอบรับเชื้อเพลิง E85 พร้อมฟังก์ชั่น I-Smart Mobile เตือนความผิดปกติของรถยนต์ โดยรวมแล้วสมรรถนะในการขับขี่ของ MG ZS ไม่แตกต่างจาก Ford Ecosport มากนักแต่ฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ยังคงเหนือกว่าอยู่มาก


เครื่องยนต์เบนซิน VTi-TECH ขนาด 1.5 ลิตร

6. เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย Ford Ecosport 2018-2019 กับคู่แข่ง MG ZS 2018-2019

Ford Ecosport 2018 พร้อมมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ในทุกเส้นทางผ่านระบบถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าพร้อมสัญญาณเตือนการลืมคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ เสริมด้วยระบบสัญญาณกันขโมยแบบ Anti-Theft Alarm และ ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer นับเป็นฟีเจอร์พื้นฐานจากฟอร์ดที่มีการติดตั้งเข้ามาให้รวมถึงจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ Isofix ที่พร้อมมอบความปลอดภัยให้เด็กๆในทุกเส้นทางการขับขี่


ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า

ระบบความปลอดภัยใน Ford Ecosport 2018 มีดังนี้

  • สัญญาณกันขโมยแบบ Anti-Theft Alarm
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
  • สัญญาณเตือนการลืมคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ
  • ระบบถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
  • ระบบเปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อทำการเบรกอย่างกะทันหัน
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบ ESP
  • ระบบช่วยในการออกตัวบนทางลาดชันแบบ HLA
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถลแบบ TCS
  • สัญญาณเตือนกะระยะถอยหลังพร้อมจอแสดงผล
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็กแบบ Isofix

สำหรับระบบความปลอดภัยของ MG ZS มีการติดตั้งฟีเจอร์พื้นฐานด้านความปลอดภัยมาให้แบบจัดเต็มเลยทีเดียว ผสานกับการความขึ้นชื่อในด้านระบบอำนวยความสะดวกในการขับขี่ ผลักดันให้ MG ZS โฉมนี้ดูเหนือกว่า Ford Ecosport อยู่เล็กน้อย ทั้งจากโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF ถุงลมนิรภัย 6 จุด บริเวณคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย รวมถึงระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA


ระบบสั่งการ i-Smart ผ่านแอพพลิเคชั่นบนมือถือ

ระบบความปลอดภัยใน MG ZS 2018 มีดังนี้

  • โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF
  • ระบบแจ้งเตือนความผิดปกติของลมยางแบบ TPSM
  • กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเตือนกะระยะถอยหลัง
  • ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์
  • ถุงลมนิรภัย 6 จุด บริเวณคู่หน้า ด้านข้าง และ ม่านถุงลมนิรภัย
  • ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC
  • ระบบสัญญาณเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS
  • ระบบฟ้องกันล้อหมุนฟรี และ ควบคุมการลื่นไถลแบบ TCS
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer และ สัญญาณกันขโมย

7. สรุป

MG ZS 2018 รถยนต์อเนกประสงค์ SUV Crossover  ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสามารถสร้างความแตกต่างทางด้านราคาจำหน่ายที่เริ่มต้นเพียง 679,000 บาท แต่ได้รับฟีเจอร์อำนวยความสะดวกที่จัดมาให้อย่างครบครันเทียบเท่ากับรถในเซกเมนท์เดียวกันที่มีราคาสูงกว่านับเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ชื่นชอบรถแนวนี้

ส่วน Ford Ecosport 2018 รถอเนกประสงค์ SUV สายลุยเช่นเดียวกันชูจุดเด่นด้วยการออกแบบโครงสร้างตัวถังให้ตอบโจทย์การขับขี่ได้ในทุกสภาพเส้นทางจากตัวรถที่มีความสูงจากพื้นถึง 200 มิลลิเมตร รวมถึงขุมพลังเครื่องยนต์ Duratec ขนาด 1.5 ลิตร ที่สามารถสร้างอัตราการเร่งได้อย่างดีเยี่ยม ในราคาสบายกระเป๋าเพียง 669,000 บาท ถือว่าน่าประทับใจเลยทีเดียว

...

ดูเพิ่มเติม:

มนัส ช่วยบำรุง

ในหมวดเดียวกัน