ระบบ Infotainment ในรถยนต์
ทุกวันนี้การที่จะมีรถใหม่ป้ายแดงสักคันนอกจากจะพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอกและสมรถนะของรถยนต์คันนั้นแล้ว เรื่องเทคโนโลยีก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต่างให้ความสนใจ เพราทุกวันนี้โลกโซเซียลกำลังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทุกคน และโทรศัพท์มือถือก็เป็นเสมือนตัวเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับโลกโซเซียล และเมื่อเข้าไปอยู่ในรถยนต์โดยเฉพาะคนขับรถถ้าต้องมีการติดต่อสื่อสารอยู่ตลอดเวลา ก็คงจะไม่สะดวกที่จะต้องหยิบโทรศัพท์มาโทรหรือพิมพ์ข้อความได้ตลอดเวลา เพราะถ้าทำแบบนั้นก็คงจะเกิดอุบัติเหตุในแต่ละวันแบบนับครั้งไม่ถ้วน
ด้วยเหตุนี้ทางค่ายรถแต่ละค่ายจึงเล็งเห็นถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่จึงได้นำเทคโนโลยี ระบบ Infotainment เข้ามาไว้ในรถยนต์เกือบทุกยี่ห้อและเกือบจะทุกรุ่น แต่ตามหลังความเป็นจริงถ้ามองแค่ด้านเดียวการนำเอาระบบ Infotainment เข้ามาไว้ในรถยนต์นั้นก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะผู้ขับขี่จะได้สามารถขับขี่รถได้อย่างปลอดภัยและไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร
แต่ถ้ามองแบบสองด้านระบบ Infotainment ก็เปรียบเสมือนดาบสองคม ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวของมันเอง และข้อดีและข้อเสียนั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันคะ
- ประชันความสวยสมรรถนะเยี่ยม ระหว่าง NEW Honda City Minor Change 2018 และ Suzuki Ciaz
- จับกระแสความร้อนแรงของรถราคาหลักล้าน Toyota C-HR 2018 ปะทะ Mazda CX-3
ระบบ Infotainment ในรถยนต์ทำให้ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร
ข้อดีของระบบ Infotainment ในรถยนต์ก็มีดีอยู่มากมายหลายข้ออย่างที่เห็นกันชัดๆ เลยก็คือทำให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อต่อกับโลกโซเซียลได้ตลอดเวลาและไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสาร และก็ยังเป็นเสมือนสถานบันเทิงเคลื่อนที่ทั้งวิทยุและเครื่องเล่นเพลงเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้โดยสารในรถ รวมทั้งมาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัสที่ค่อนข้างจะใหญ่พอสมควรมีตั้งแต่ 5 นิ้ว ถึง 7 นิ้ว เลยที่เดียว และนอกจากนี้ระบบ Infotainment ในรถยนต์ยังสามารถทำงานในฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบ นำทาง GPS พร้อมแสดงผลทางจอระบบสัมผัส ระบบกล้องในรถยนต์ Bluetooth ที่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือได้ด้วยการสั่งงานด้วยเสียง ระบบตรวจสอบสภาพถนน ระบบป้องกันการชนหรือแจ้งเดือนเมื่อมีสิ่งกีดขวาง ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เป็นต้น
การใช้งานระบบ Infotainment ไม่ควรละสายตาจากถนนนานๆ
แต่ถึงแม้ว่าระบบ Infotainment ในรถยนต์จะมีข้อดีมากแค่ไหน ในข้อดีก็ต้องมีข้อเสียสอดแทรกเข้ามาเช่นกัน ซึ่งข้อเสียของระบบ Infotainment ก็คือ ถึงแม้ว่าระบบ Infotainment จะเป็นระบบสัมผัสและการสั่งงานด้วยเสียง แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งผู้ขับขี่เผลอหันไปจิ้มและมองหน้าจอสัมผัสสักแค่เพียง 5 วินาที ก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เพราะการที่คนเราจะทำอะไรสองอย่างในเวลาเดียวกันนั้นสมาธิเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งก็มีน้อยคนที่สามารถแยกได้และก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่สามารถแยก และลองคิดดูนะคะว่าถ้า ณ ช่วงเวลาที่ต้องใช้งานระบบ Infotainment แล้วเกิดระบบขัดข้องจิ้มแล้วจิ้มอีกก็ไม่สามารถใช้งานได้ หรือถ้าใครที่ยังใช้งานระบบ Infotainment ไม่ชำนาญเพราะระบบ Infotainment อาจจะยุ่งยากและซับซ้อนไปสักนิด อาจจะกดถูกกดผิด หรือระบบการสั่งงานด้วยเสียงไม่ทำงาน การที่คนเราตั้งใจจะทำอะไรแล้วยังไม่สำเร็จตามสันชาติญาณแล้วก็จะไม่ลดละความพยายาม ก็จะพยามทำจนกว่าจะสำเร็จและยิ่งถ้าเป็นการติดต่อสื่อสารที่เป็นเรื่องสำคัญผลาดการติดครั้งนั้นไม่ได้เลยสมาธิก็จะไปจดจ่ออยู่ที่หน้าจอ จึงอาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้
และนี่ก็เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของระบบ Infotainment จริงๆ แล้วระบบ Infotainment นั้นก็ถือว่าเป็นระบบที่มีประโยชน์และทันสมัยมากสำหรับผู้ใช้รถ ซึ่งถ้ามีสมาธิมากพอและไม่เพลิดเพลินไปกับระบบ Infotainment มากจนเกินไป แลถถ้าจะใช้ฟังกชั่นอะไรก็ควรจะมีสติการละสายก็ไม่ควรจะนานจนเกินไป และถ้ายังใช้งานระบบ Infotainment ไม่ชำนาญมากพอก็ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรให้เยอะแยะมากมายใช้เท่าที่จำเป็นก็พอ หรือถ้าระบบ Infotainment เกิดมีปัญหาก็แค่หาที่จอดรถเพื่อแก้ไข หรือเปลี่ยนมาใช้การติดต่อสื่อสารด้วยโทรศัพท์มือถือแทน ซึ่งก็จะทำให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
>> ดูเพ่ิ่มเติม:
- NEW Honda City Minor Change 2018 “เหนือกว่าที่สุด คือที่สุดในทุกด้าน”