ไม่ว่า Suzuki Swift จะออกรถมากี่ซีรี่ส์ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุผลหลักๆที่มีรถรูปทรงแบบนี้ออกมา ก็เพื่อตอบสนองคนที่อยากมีรถจากฝรั่งยุโรปอีกค่ายหนึ่ง ที่มีความน่ารักแต่ก็หรูหราในคราวเดียวกัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์คนมีงบอยู่อย่างจำกัด แต่ก็อยากจะมีรถเป็นของตัวเองด้วย เพราะราคาก็จะอยู่ที่ราวๆ 400,000 – 600,000 บาท ซึ่งก็ทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าลงไปได้ไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ของถูกก็มักจะมาพร้อมกับข้อจำกัดในเรื่องของอุปกรณ์และกระบวนการในการผลิตตามมา เพราะงบในการสร้างรถหนึ่งคันนั้นไม่ใช่น้อยๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่รถ Suzuki Swift นี้ จะค่อนข้างมีปัญหาที่กวนใจคนใช้อยู่ตลอด แถมมักจะบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าข้อเสียค่อนข้างที่จะเยอะ ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเท่าไหร่นัก ในที่นี้ เราจะนำสารพันปัญหากวนใจของผู้ใช้จริงมารีวิวให้ได้อ่านกัน
ตัวอย่างเสียงรีวิวจากผู้ใช้รถ Suzuki Swift
1) เครื่องไม่แรงเหมือนกับที่มีกำหนดมาในรุ่นว่าความแรงกี่แรงม้า เสมือนกับระบบของเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างไม่เต็มที่ อย่างเช่นในรุ่น Suzuki Swift GL 1.25L MT ก็ควรที่จะแรงมากกว่านี้ เมื่อเทียบกับรถ Honda Jazz
2) ปัญหาเสียงสลักคาร์ลิปเปอร์ดัง และทางศูนย์ใหญ่เองก็ยังไม่มีแนวทางในการแก้ปัญหาดังกล่าวให้หายขาดได้ ซึ่งมันค่อนข้างที่จะกวนใจในเวลาใช้รถค่อนข้างมาก
3) หลังจากที่วิ่งได้แค่ไม่กี่พันกิโล กลับต้องเจอปัญหา “แร็ค” และ “แกนพวงมาลัย” มีปัญหา จนต้องเอารถเข้าศูนย์ซ่อมเพื่อทำการเปลี่ยนให้เรียบร้อย
4) แผ่นกันความร้อนท้ายรถละลาย ซึ่งก็จะต้องส่งเข้าศูนย์เพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว
ตัวอย่างปัญหาที่มันเกิดกับเครื่องยนต์ของ Suzuki Swift
5) เสียงช่วงล่างดังขึ้นทุกครั้งที่ตกหลุม ซึ่งอาจจะเป็นเพราะขนาดรถที่เล็กและช่วงล่าง ไม่ได้ถูกยกขึ้นมาสูงมากนัก จึงทำให้เกิดเสียงระทบในเวลาที่ตกหลุม และปัญหานี้ทำให้การใช้งานไม่ครอบคลุมเท่าไหร่ เพราะอาจจะต้องวิ่งได้แค่ถนนที่มีความเรียบเท่านั้น ซึ่งก็ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มค่ากับการซื้อรถสักเท่าไหร่
6) เวลาที่มีการ kick down และทำการเร่งเครื่องแบบต่อเนื่อง มักจะได้กลิ่นไหม้จากช่องเครื่องปรับอากาศ ซึ่งกลิ่นก็ไม่ได้แรงเหมือนไฟไหม้ แต่ก็กวนใจอยู่ไม่น้อยในเวลาที่ต้องการเร่งเครื่อง ซึ่งถ้าหากขับแบบปกติกลับไม่ได้มีกลิ่นอะไรเลยแม้แต่น้อย
7) บางครั้งมักเจอปัญหาน้ำเข้าไฟท้ายและหน้าของรถ ซึ่งปัญหานี้อาจจะดูไม่ได้น่าสนใจสักเท่าไหร่นัก แต่มันก็กวนใจเจ้าของรถได้ไม่น้อย เพราะในเวลาที่นำรถเข้าไปตรวจหาสาเหตุที่ศูนย์ น้ำก็ไม่ได้มีแล้ว จึงทำให้เช็คไม่ได้
ตัวอย่างลักษณะภายในรถที่กลายเป็นปัญหาจุกจิกของ Suzuki Swift
8) เบาะคนขับดังในเวลาเบรก ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่ที่ซื้อรถมาได้ใหม่ๆ ซึ่งทางศูนย์เองก็ไม่ได้ติดต่อกลับแต่อย่างถึงถึงปัญหาที่ว่านี้
9) นอกจากนี้ยังมีปัญหาจุกจิกอื่นๆที่ทำให้บางคนถึงกับขายต่อและทำให้อีกหลายๆคนถึงกับเลิกซื้อรถรุ่นนี้ไปเลยก็มี อย่างเช่น การออกตัวในช่วงแรกจะมีความอืด, กระจกบางทีไม่ทำงานตามระบบ Auto, เกียร์ต่ำมีความกระตุก, เครื่องปรับอากาศถึงแม้จะเป็นระบบ Auto บางครั้งอาจไม่เย็น โดยเฉพาะปรับที่อุณหภูมิมากกว่า 24 องศา, ประตูปิดยากเพราะยางตรงขอบประตูมีความหนามากเกินไป, เครื่องจะสั่นเล็กน้อยตอนเครื่องปรับอากาศตัดการทำงาน, ยาง damping ด้านหลังบนท่อไอเสียละลาย, เบาะหลังนั่งไม่ค่อยสบาย, วิทยุเป็นรอยง่ายทั้งที่ไม่ได้มีการขีดข่วนอะไรรุนแรง, น้ำเข้าไฟเบรกง่ายเกินไป เป็นต้น
ตัวอย่างปัญหาที่พบบ่อยกับรถ Suzuki Swift จนต้องเข้าศูนย์
10) นอกจากปัญหาจุกจิกที่เกิดขึ้นกับรถ Suzuki Swift ที่พบตามรีวิวการใช้งานนั้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนเปลี่ยนใจไปใช้บริการค่ายอื่นแทน นั่นก็คือ การไม่ได้รับบริการหลังการขายจากศูนย์ใหญ่ที่ดีมากเท่าไหร่นัก เพราะบางครั้งที่นำรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คความผิดปกติที่พบ ศูนย์ไม่ได้ทำการติดต่อมาแต่อย่างใด หรือบางครั้งการตรวจสอบอาจไม่ได้ถนอมรถเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม จาก Suzuki Swift ปัญหาที่พบจากการใช้รถจริงนั้น เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่หยิบยกมาจากรีวิวของผู้ใหญ่จริงเท่านั้น ซึ่งปัญหาต่างๆที่พบก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับรถทุกคนแต่อย่างใด แต่ก็เป็นเสียงสะท้อนมาจากกลุ่มลูกค้าที่รีวิวตามการใช้งาน เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจของคนที่กำลังศึกษาอยู่ ซึ่งทางเราก็ได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ที่กำลังศึกษาและหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์เป็นของตัวเอง แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังจากมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงปัญหาต่างๆของรถ ทางค่ายเองก็มีการพัฒนาขึ้นมา จนรถที่ผลิตตามมาภายหลังก็พบปัญหาน้อยลง ทำให้เห็นว่าทางค่ายเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใดนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม :