หากพูดถึงรถยนต์ประเภท Ecocar หลายคนก็คงจะต้องร้องอ๋อกันอย่างแน่นอน และหนึ่งในรถยนต์ประเภทนี้ที่หลายคนจะต้องนึกถึงก็คงจะหนีไม่พ้น Nissan March เพราะถือเป็นแบรนด์แรกๆที่เข้ามาตีตลาดในบ้านเราจนเกิดกระแส Ecocar ฟีเว่อร์ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น และความสะดวกสบายในการอเนกประสงค์ของผู้ใช้งาน แน่นอนว่าในทีนี้เราจะมารวบรวมสุดยอดข้อมูลประกอบการตัดสินใจ สำหรับผู้ที่กำลังคิดจะซื้อ Nissan March มือสอง ให้ตัดสินใจได้ง่าย โดยไม่ต้องกุมขมับอีกต่อไป
รถยนต์ Ecocar Nissan March
สำหรับ Nissan March นั้น ถือเป็นรถยนต์อีโคคาร์แบบ 5 ประตู ที่มาพร้อมความโดดเด่นในการออกแบบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะส่วนหน้าที่ดีไซน์กระจังหน้าแบบ V-Shape และช่องกระจังหน้าแบบรังผึ้งที่เสริมสร้างความสปอร์ตของตัวรถได้เป็นอย่างดี ไฟหน้าที่โฉบเฉี่ยว สวยงาม ตลอดจนล้ออัลลอยด์ขนาด 15 นิ้ว ที่เข้ากันกับสปอยเลอร์หลังที่มีไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ยิ่งส่งเสริมให้เส้นสายของตัวรถดูโดดเด่นมากขึ้น ชนิดที่ขับไปไหนจะต้องตกเป็นเป้าสายตาบ้างไม่มากก็น้อย
ดีไซน์ภายนอก Nissan March
หากกล่าวถึงสมรรถนะของ Nissan March แล้ว คงจะต้องนึกภาพออกว่ารถยนต์ประเภท Ecocar จะเน้นการใช้งานที่สมรรถนะดี แต่รถคันเล็กกะทัดรัด โดย Nissan March มาพร้อมกับเครื่องยนต์ HR12DE 3 สูบแถวเรียง DOHC เครื่องยนต์ขนาด 1,198 ซีซี 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที ลดแรงเสียดทาน ให้อัตราเร่งดี พร้อมแรงบิดสูงในรอบเครื่องยนต์ต่ำ ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ปล่อยมลพิษน้อยกว่า ระบบเกียร์แบบ XTRONIC CVT พร้อมระบบเกียร์ SUB-PLANETARY ถือเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น เพื่อส่งผลให้เกิดความนุ่มนวลในทุกการขับขี่ และสะดวกสบายในทุกๆเส้นทาง
การออกแบบด้านท้ายของตัวรถ
สำหรับ Nissan March นั้น ถือเป็น Ecocar ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมค่อนข้างสูง ด้วยความที่เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานในระดับบุคคลไปจนถึงครอบครัว โดยไม่ได้เน้นการบรรทุกสิ่งของให้มากมาย นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าเสียงจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่มองว่า หากเทียบกับเงินที่จ่ายไปแล้ว ค่อนข้างคุ้มราคาเลยทีเดียว เพราะไม่ใช่เพียงดีไซน์ที่ตอบโจทย์เท่านั้นที่ทำให้ Nissan March ได้รับความนิยม หากแต่รวมไปถึงการใช้งานและระบบต่างๆที่เสริมมาให้แบบไม่มีหวงหรือกั๊กไว้แต่อย่างใด
การออกแบบภายในของตัวรถ
ระบบการแสดงผลทางด้านของผู้ขับ
แน่นอนว่าระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยของ Nissan March ค่อนข้างหลากหลายและอัดแน่นด้วยคุณภาพระดับสากล ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันล้อล็อค ถุงลมนิรภัย เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลังเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับถึงแม้จะเป็นมือใหม่ ระบบโครงสร้างเพื่อความปลอดภัยของตัวรถ รัศมีวงเลี้ยวที่แคบสอดคล้องกับการทำงานของพวงมาลัย ระบบป้องกันเด็กเปิดจากภายในรถที่ประตูหลัง ไฟเบรกดวงที่สาม ระบบความบันเทิงที่ครบครันภายในรถ และอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้ Nissan March สามารถครองใจใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสองก็ตาม
รัศมีวงเลี้ยวแคบช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้น
ข้อดี
ข้อเสีย
รุ่น | ราคามือสองโดยเฉลี่ย |
2012 Nissan March 1.2 (ปี 10-16) EL Hatchback - AT |
250,000 – 270,000 บาท |
2013 Nissan March 1.2 (ปี 10-16) E Hatchback - AT |
250,000 – 270,000 บาท |
2014 Nissan March 1.2 (ปี 10-16) E Hatchback - AT |
260,000 – 300,000 บาท |
2015 Nissan March 1.2 (ปี 10-16) EL Hatchback - AT |
280,000 – 350,000 บาท |
2016 Nissan March 1.2 (ปี 10-16) E Hatchback - AT |
327,000 – 365,000 บาท |
2017 Nissan March 1.2 (ปี 10-16) S Hatchback - MT |
230,000 – 370,000 บาท |
2018 Nissan March 1.2 (ปี 10-16) E Hatchback - AT |
379,000 – 399,000 บาท |
กล่าวได้ว่า Nissan March มือสอง ถือเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ประเภท Ecocar ที่น่าสนใจอยู่ไม่ได้ ด้วยราคาที่ไม่สูงมากนักหากเทียบกับ Ecocar รุ่นอื่นๆในตลาดรถยนต์ในขณะนี้ ที่สำคัญคือการใช้งานโดยภาพรวมถือว่าค่อนข้างดีเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกหาก Nissan March จะกลายเป็นตัวท็อปในวงการรถยนต์ประเภท Ecocar ที่ครองใจแฟนคลับในบ้านเรามาหลายปี
อ่านเพิ่มเติม :