หลายคนที่ซื้อรถใหม่ป้ายแดงมาใช้งาน ก็คงจะมีคำถามผุดขึ้นมาในหัวหลังจากที่ใช้งานไปแล้วระยะหนึ่ง โดยเฉพาะผู้ที่เจอกับปัญหาต่างๆของรถ ใช้งานแล้วไม่ตรงตามความต้องการของตนเอง หรือแม้กระทั่งกำลังผ่อนรถมีไม่มากพอ ซึ่งก็คงเกิดคำถามว่าหากจะขายรถที่ยังติดไฟแนนซ์จะทำได้หรือไม่ และจะทำได้อย่างไรบ้าง โดยหลักๆแล้วมี 3 ขั้นตอนหลักๆ ที่จะต้องพิจารณา คือ
สำหรับการเลือกขายรถนั้น หลักๆ จะมีอยู่ 2 ทาง คือ เต็นท์รถมือสอง และขายให้กับผู้ใช้งานโดยไม่ผ่านคนกลาง ซึงข้อดีของการขายให้เต็นท์รถมือสองนั้น จะสะดวก รวดเร็วมากกว่า เหมาะกับผู้ที่ต้องการปิดการขายให้เร็วที่สุด เพราะจะทำให้ปิดหนี้กับทางไฟแนนซ์ได้เลย แต่ข้อเสียคือ การประเมินราคาอาจจะต่ำกว่าที่คิดเอาไว้ตั้งแต่แรก เพราะทางเต็นท์รถจะต้องมีกฎเกณฑ์ในการประเมินราคาที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าหากไม่รีบเร่งมากนัก สามารถขายให้กับผู้ใช้งานโดยตรงด้วยตนเอง และสามารถแจ้งได้ว่าหากจะผ่อนต่อจะต้องผ่อนอีกเท่าใด แต่การขายด้วยตนเองโดยตรงนี้ ข้อเสียคืออาจจะต้องใช้เวลานาน เพราะต้องจ่ายเงินสด นอกจากนี้ ตัวเลือกของการซื้อรถมือสองในปัจจุบันก็มีมากขึ้น หากปล่อยขายด้วยตัวเองจะต้องรอในเรื่องของเวลาด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับการเตรียมตัวในขั้นแรก คือ ให้เตรียมเงินเพื่อนำไปปิดไฟแนนซ์ให้เรียบร้อย โดยขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายว่าจะใช้เงินของฝ่ายใด โดยหากปิดไฟแนนซ์เรียบร้อยแล้ว กรรมสิทธิ์เจ้าของรถจะตกเป็นของผู้ขาย และผู้ขายจะต้องโอนต่อให้กับผู้ซื้อต่ออีกทีหนึ่ง แต่ในอีกกรณีหนึ่งก็คือ ให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายไปตกลงกับไฟแนนซ์เพื่อที่จะให้โอนชื่อจากผู้ขามยไปเป็นผู้ซื้อ และให้ผู้ซื้อเป็นคนจ่ายค่างวดต่อ ซึ่งในกรณีนี้ผู้ขายจะต้องได้รับค่างวดรถที่เคยผ่อนมาก่อนหน้านี้ด้วย เราจะเรียกการซื้อขายลักษณะนี้ว่า “ขายดาวน์” นั่นเอง
หลังจากที่ตกลงการซื้อขายแล้ว หากเป็นการซื้อโดยการปิดไฟแนนซ์แล้ว จะต้องนำสมุดคู่มือทะเบียนไปโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมการขนส่งได้เลย โดยต้องเตรียมเอกสารต่างๆให้พร้อม แต่ถ้าหากโอนชื่อผู้เช่าซื้อ หรือการขายดาวน์ ให้ทำการเตรียมเอกสารเพื่อส่งต่อให้ผู้ซื้อดำเนินการต่อกับทางไฟแนนซ์ เพราะหลังจากที่จ่ายค่างวดรถเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วกรรมสิทธิ์จะตกเป็นของผู้ซื้อโดยทันที
สรุป
สำหรับการขายรถที่ติดไฟแนนซ์อยู่นั้น ถือว่าไม่ได้มีความยุ่งยากมากนัก เพียงแต่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องตกลงกันให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาได้ โดยเฉพาะหนี้ที่มาจากการกู้ซื้อรถยนต์นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม :