Top 5 SUV ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุดสำหรับปี 2562 !!
ปัจจุบันรถยนต์ SUV เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถรองรับการใช้งานได้หลากหลาย อีกทั้งพื้นที่ภายในห้องโดยสารยังกว้างขวาง โปร่งสบาย แต่แน่นอนว่ารถที่มีขนาดตัวถังใหญ่ น้ำหนักมาก ย่อมส่งผลต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและเงินในกระเป๋าเราอยู่ไม่น้อย ซึ่งวันนี้ทาง khaorot.com มี SUV ที่ประหยัดน้ำมันมากที่สุดมาแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ จะมีรุ่นไหนกันบ้างไปชมกันเลยครับ
Honda CR-V ถือเป็น SUV รุ่นแรกๆที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึง เนื่องจากทำตลาดในไทยมาค่อนข้างนาน แม้จะมีรุ่นใหม่ๆจากค่ายอื่นออกมามากมาย แต่ CR-V ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ ด้วยรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ต ทันสมัย ไม่ตกยุคง่ายๆ มีให้เลือกทั้งแบบ 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนพับเบาะได้ตามรูปแบบการใช้งาน ด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและระบบอินโฟเทนเมนต์ก็ไม่น้อยหน้าค่ายอื่น CR-V มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch, รองรับ Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนอื่นๆ และยังมีฝากระโปรงท้ายที่เปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี (Hands-free Power Tailgate) สำหรับด้านสมรรถนะ CR-V มีให้เลือกทั้งแบบดีเซลและเบนซิน
• เครื่องยนต์ดีเซล DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-DTEC 2 STAGE TURBO ขนาด 1.6 ลิตร
ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 18.9 กิโลเมตร/ลิตร (ขับเคลื่อนแบบ 2WD)
• เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 2.4 ลิตร
ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 224 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่อง CVT พร้อมระบบ Shifting Control อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 13.5 กิโลเมตร/ลิตร รองรับเชื้อเพลิงทางเลือกได้ถึง E85
Mazda CX-5 2019 รถยนต์ที่มีความโฉบเฉี่ยว โดดเด่นทุกมุมมอง
Mazda CX-5 2019 ยนตกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด “Less is More” อีกหนึ่งระดับของ KODO DESIGN ที่ถึงแม้ภายนอกจะมีเส้นสายเรียบง่าย แต่แฝงไปดวยความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุพรีเมี่ยม แบบ “Hand-Crafted Design” ครบครันทุกออพชั่นอำนวยความสะดวก อาทิ จอทัชสกรีนดีไซน์ใหม่ ขนาด 7 นิ้ว, ติดตั้งระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Command, รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และหน้าจอ Head-up display เป็นต้น นอกจากนี้ด้านสมรรถนะยังมีให้เลือกถึง 2 แบบด้วยกันคือ
• เครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2 L
ให้กําลัง 175 แรงม้า แรงบิดสูง 420 นิวตัน-เมตร ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด 17 กิโลเมตร/ลิตร
• เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 L
เป็นรุ่นที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองอัตราเร่งได้ดีขึ้น ให้กําลัง 165 แรงม้า แรงบิดสูง 210 นิวตัน-เมตร ประหยัดสูงสุดถึง 13.9 กิโลเมตร/ลิตร
โดยขุมพลังทั้งสองแบบ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 จังหวะ (SKYACTIV-DRIVE) ที่มีการตอบสนองได้อย่างแม่นยํา จังหวะเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมันในทุกรอบความเร็ว
Nissan X-Trail ดีไซน์โดดเด่น สะท้อนไลฟ์สไตล์คนเมือง ด้วยกระจังหน้าแบบ V-Motion
Nissan X-Trail รถเอสยูวีอัจฉริยะ ดีไซน์โดดเด่น สะท้อนไลฟ์สไตล์คนเมือง ด้วยกระจังหน้าแบบ V-Motion ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของค่าย พร้อมไฟท้ายอันโฉบเฉี่ยวทรงบูมเบอแรง ภายในออกแบบอย่างประณีตในทุกรายละเอียด ดีไซน์เรียบหรู ตกแต่งด้วยวัสดุ Piano Black พร้อมพวงมาลัยใหม่แบบ Sporty D-Shaped และหน้าจอสัมผัสที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay /Android Auto มีหลังคา PANORAMIC SUNROOF ขนาดใหญ่ที่รับชมทิวทัศน์ได้อย่างชัดเจนทุกที่นั่ง และสามารถเปิด-ปิดประตูท้ายอัตโนมัติด้วยระบบแฮนด์ฟรี ด้านสมรรถนะ X-Trail มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบด้วยกัน คือ
• เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VTC
ให้กำลังสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 233 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT พร้อม Manual Mode 7 จังหวะ ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุดราว 12.80 กิโลเมตร/ลิตร
• เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร HYBRID 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว TWIN C-VTC
ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 200 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Electric Motor ที่ให้แรงม้าสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 160 นิวตัน-เมตร เมื่อรวมกับจะได้กำลังสูงสุดถึง 179 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT พร้อม Manual Mode 7 จังหวะ ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุดเฉลี่ย 16.70 กิโลเมตร/ลิตร
Subaru Forester เหมาะสำหรับการขับขี่ทุกรูปแบบ
SUV จากค่ายดาวลูกไก่ ถูกออกแบบมาให้เหมาะสำหรับขับขี่ได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะส่งลูกไปโรงเรียน ไปทำงาน หรือบุกตะลุยผ่านดินโคลน ด้วยตัวถังที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ อีกทั้งพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เพียงพอสำหรับสมาชิกในครอบครัว โดดเด่นด้านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่ช่วงล่างที่ถูกเซ็ตมาอย่างไร้ที่ติ ให้ทั้งความนิ่มนวลและมั่นใจทุกการขับขี่ ภายในตกแต่งด้วยสีดำสปอร์ต ติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 7 นิ้ว, ระบบสั่งงานด้วยเสียง, เบาะคนขับแบบปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมฟังก์ชั่นบันทึกตำแหน่ง, ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย และระบบควบคุมอากาศแบบ Dual zone เป็นต้น ด้านขุมพลังติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Lineartronic CVT สามารถประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุดได้ถึง 15.38 กิโลเมตร/ลิตร พร้อมระบบ Idle Stop System ที่ช่วยให้ประหยัดมากยิ่งขึ้น
Ford Everest SUV จากฝั่งอเมริกา พร้อมความสามารถในการลากจูงเหนือระดับ
Ford Everest SUV จากฝั่งอเมริกา ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์มากกว่าเดิม สามารถบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 750 กิโลกรัม ลากจูงน้ำหนักสูงสุด 3,100 กิโลกรัม ถือว่าเรี่ยวแรงไม่น้อยหน้ารถกระบะร่วมค่ายกันเลย ภายในตกแต่งสไตล์สปอร์ต มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพอสมควร ติดตั้งระบบเชื่อมต่อ SYNC™3 พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ติดตั้งระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่อื่นๆ มากมาย อาทิ ระบบช่วยจอด (Active Park Assist), ระบบเตือนจุดอับสายตา (BLIS® with Cross-Traffic Alert), ระบบเบรกฉุกเฉิน เป็นต้น สำหรับขุมพลัง Everest ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 213 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร และเครื่องยนต์ดีเซล Turbo ขนาด 2.0 ลิตร กำลัง 180 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด 14.49 กิโลเมตร/ลิตร (รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ)
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับ SUV แต่ละรุ่นที่ทางเราได้นำเสนอ ถือว่าครบเครื่องทั้งรูปทรงหน้าตา อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัย และสมรรถนะการขับขี่ ตลอดจนถึงราคาที่มีให้เลือกหลายรุ่น หากสนใจสามารถรับชมคันจริงและติดต่อทดลองขับได้ที่โชว์รูมแต่ละค่ายทั่วประเทศครับ
อ่านเพิ่มเติม:
โปรโมชั่น NEW NISSAN X-TRAIL ส่งท้ายเดือนแห่งความรักด้วยข้อเสนอพิเศษอัตราดอกเบี้ย 0.99% นาน 60 เดือน