Suzuki Swift มือสองดีไหม
Suzuki Swift อีโคคาร์คันเล็ก ที่ทำยอดขายจาก 158 ทั่วโลกรวมมากกว่า 6 ล้านคัน (2004-2018) ด้วยหน้าตาโดดเด่น สามารถจับแต่งได้หลายแนว ออพชั่นครบครัน อีกทั้งยังมีความประหยัด คล่องแคล่ว เหมาะสำหรับขับขี่ในเมือง โดย Suzuki Swift ป้ายแดงราคาจะอยู่ที่ 499,000- 629,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่มากแต่ก็ไม่น้อย และถ้าใครกำลังต้องการอีโคคาร์ในราคาถูกกว่า ต้องลองมอง Swift มือสอง ที่วันนี้ทาง Khaorot.com เราได้รวมรวบข้อมูลต่างๆ อาทิ ข้อดี-ข้อเสีย, ราคาประมาณเท่าไหร่, ปัญหาที่ผู้ใช้พบคืออะไร เพื่อช่วยคุณประกอบการพิจารณาครับ
ภายในห้องโดยสาร Suzuki Swift 2015
1. อะไหล่หาง่าย
เนื่องจาก Swift เข้ามาจำหน่ายในไทยตั้งแต่ปี 2010 เรื่องอะไหล่เครื่องยนต์ และชิ้นส่วนประกอบต่างๆย่อมหาซื้อได้ง่ายทั้งแบบใหม่แกะกล่อง และเซียงกง
2. ทราบปัญหารถล่วงหน้า
อย่างที่ทราบข่าวกันเกี่ยวกับปัญหาของ Swift ที่เยอะมากมายจนหลายท่านขยาด โดยเฉพาะรุ่นที่ผลิตเป็นล็อตแรกๆ จะมีกระแสลูกค้าคอมเพลนมาเป็นระยะ ทั้งเรื่อง แร็คพวงมาลัย, คาลิเปอร์เบรก และเกียร์ CVT ซึ่งรุ่นหลังทางซูซูกิได้ทำการแก้ไขแล้ว หากรุ่นมือสองที่ซื้อมีปัญหาดังกล่าว อย่างน้อยจะช่วยให้ทราบสาเหตุและแก้ไขได้รวดเร็ว ตรงจุด
3. ช่วงล่างเกาะถนนดี
Suzuki Swift แม้จะเป็นอีโคคาร์ แต่ถือว่ามีช่วงล่างที่แน่นหนึบพอสมควร หากเทียบกับอีโคคาร์ระดับเดียวกัน ยิ่งรุ่นปัจจุบันปี 2018 ที่ปรับปรุงเพิ่มช่วงล้อและความยาวฐานล้อ โอเวอร์แฮงก์สั้นลง รวมถึงจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มการยึดเกาะถนนมากยิ่งขึ้น
4. คล่องแคล่ว
เนื่องจาก Suzuki Swift มีมิติรถขนาดไม่ใหญ่มาก โดยโฉมปี 2004-2010 มีขนาดยาว 3,695 มม. X กว้าง 1,690 มม. X สูง 1,510 มม. ส่วนรุ่นล่าสุดปี 2018 มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยคือ ยาว 3,850 มม. กว้าง 1,695 มม. สูง 1,510 มม. ซึ่งถือว่ามีความคล่องตัว เหมาะสำหรับขับขี่ในเมืองเป็นหลัก
5. ประหยัดเชื้อเพลิง
Suzuki Swift มีการประหยัดเชื้อเพลิงพอสมควร อาจไม่ได้ประหยัดมากเหมือนกับโฆษณา (บอกว่ามากกว่า 20 กิโลเมตร/ลิตร) แต่จะอยู่ในช่วง 13-16 กิโลเมตร/ลิตร แน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่และการใช้งานของแต่ละคนเป็นหลัก
Suzuki Swift ที่นั่งด้านหลังค่อนข้างแคบ
1. ที่นั่งด้านหลังแคบ
เบาะหลังชันไปหน่อย ถ้านั่งนานๆ จะเมื่อยเอาได้ ถ้าคนตัวสูงหน่อยนั่งแล้วหัวติดหลังคา นั่งไม่สบาย ที่พิงศรีษะดันช่วงไหล่
2. กระจกปรับลงอัตโนมัติ
Swift มีระบบกระจกข้างปรับลงอัตโนมัติ แต่ต้องกดขึ้นเอง (หลายเสียงอยากได้ปรับขึ้นอัตโนมัติมากกว่า)
3. อัตราเร่งช่วงต้นอืด
เป็นเพราะระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ทำให้เวลาเร่งต้องรอรอบ จึงดูเหมือนอืดกว่าค่ายอื่น แต่ถ้าได้รอบแล้วจะวิ่งฉิว ขับสนุกพอสมควร ส่วนรุ่นเกียร์ธรรมดายังไม่พบปัญหาอัตราเร่งอืดแต่อย่างใด
4. ช่วงล่างแข็ง
แม้ว่า Swift จะเซ็ตช่วงล่างออกมาให้เกาะถนน แน่นหนึบ แต่ถ้าวิ่งบนทางขรุขระ คอสะพาน หรือช่วงความเร็วต่ำ จะรู้สึกได้ถึงความแข็ง สะเทือนของช่วงล่าง (เปลี่ยนโช้คน่าจะพอช่วยได้)
5. ไม่มีไฟตรงปุ่มกดล็อค
ปุ่มปลดล็อคที่แผงประตูคนขับไม่มีไฟ หากเป็นตอนกลางคืนต้องเอามือคลำ งมหากันไป หรือไม่ก็เปิดไฟห้องโดยสาร
6. ปัญหาจุกจิกมาก
ตั้งแต่เปิดตัวมา Suzuki Swift ถือว่ามีปัญหาจุกจิกมากพอสมควร อาทิ เครื่องกระตุกช่วงเกียร์ต่ำ, แร็คพวงมาลัยดัง, คาลิปเปอร์เบรกเสียงดัง, น้ำเข้าไฟเบรคดวงที่ 3, กลิ่นเหม็นไหม้เมื่อขับความเร็วสูง เป็นต้น โดยเฉพาะรุ่นเก่าจะมีปัญหาเหล่านี้พอสมควร แต่สำหรับรุ่นใหม่ทางซูซูกิได้แก้ไขปัญหาไปแล้ว
Suzuki Swift โฉมเจเนอเรชั่นที่ 2
• เจเนอเรชั่นที่ 2 โฉมปี 2004-2010 (ในบ้านเราผลิตที่อินโดนีเซีย)
ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตร
ราคามือสอง : 270,000-350,000 บาท
• เจเนอเรชั่นที่ 3 โฉมปี 2010-2017 (ผลิตในไทย)
ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 1.2 ลิตร
ราคามือสอง : 300,000-390,000 บาท
• เจเนอเรชั่นที่ 4 โฉมปี 2017-ปัจจุบัน (ผลิตในไทย)
ขนาดเครื่องยนต์ความจุ 1.2 ลิตร
ราคามือสอง : 500,000-540,000 บาท
Suzuki Swift ปี 2011 (โฉมเจเนอเรชั่นที่ 3)
• เจเนอเรชั่นที่ 3 ผลิตปี 2012 ขึ้นไป แนะนำให้ซื้อรุ่นท็อป เพราะจะมีออพชั่นครบครันที่สุด ซึ่งราคาไม่ต่างจากรุ่นล่างๆมากนัก อีกทั้งยังผลิตในไทย และปัญหาเกี่ยวกับตัวรถได้แก้ไขไปบ้างแล้ว
ปัญหา Suzuki Swift ที่ผู้ใช้พบเจอ
1. กลิ่นเห็นไหม้ เวลาเร่งความเร็วรอบสูงๆมีกลิ่นไหม้ออกมา โดยกลิ่นจะโชยมาตามช่องปรับอากาศ ซึ่งเกิดจากยาง damping ด้านหลังบนท่อไอเสียละลาย เนื่องจาก Swift ออกแบบให้แผ่นยางกันความร้อนบริเวณท่อไอเสียด้านหลัง อยู่ในตำแหน่งติดกับท่อเสีย เมื่อท่อไอเสียมีความร้อน ยางก็จะละลาย จึงทำให้มีกลิ่นเห็นไหม้เข้ามาในห้องโดยสารได้
2. เครื่องยนต์กระตุก
มักจะมีอาการในช่วงรอบเครื่องเบา และเปลี่ยยนเกียร์
3. พวงมาลัยเสียงดัง
โดยจะมีเสียงดัง “กุก กุก” ช่วงบริเวณใกล้เท้าซ้าย ตรงกับช่วงกลางหน้าปัด
4. คาลิเปอร์เบรกเสียงดัง
เมื่อเหยียบเบรก จะมีเสียงดัง “กุก กุก” บริเวณล้อหน้า เกิดจากสลักคาลิเปอร์เบรกหลวม ในรุ่นหลังปี 2016 ยังมีปัญหาให้เห็นกันอยู่ประปราย
5. เกียร์มีเสียงหอน
เกิดอาการเมื่อขับด้วยความเร็วสูง แล้วลดลงมาเหลือประมาณ 40-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะมีเสียงดัง “วู้ว วู้ว” สั้นๆแล้วเงียบไป กระกอบกับรอบเครื่องลดลงมา แบบนี้ปกติ แต่ถ้ามีเสียงดังตั้งแต่เริ่มออกตัว ระบบเกียร์อาจมีปัญหาได้
รถยนต์ Suzuki Swift 2018
Suzuki Swift นับว่าเป็นรถยนต์มือสองอีกคันที่น่าสนใจ แต่ต้องเลือกรุ่นที่ใหม่หน่อย และชวนผู้เชี่ยวชาญร่วมทดลองขับกับ นอกจากนี้อาจจะต้องตรวจเช็คระบบเกียร์ พวงมาลัย เบรก ส่วนประกอบต่างๆอย่างละเอียด ก็จะได้รถมือสองที่ถูกใจแน่นอน แต่ถ้าจะซื้อมือสองรุ่น 2017-2018 ไม่แนะนำ เนื่องจากราคาสูง ซื้อป้ายแดงที่ราคาใกล้เคียงกันจะอุ่นใจกว่า อย่างน้อยเราก็เป็นเจ้าของตั้งแต่แรก ยังไงก็ขอให้ได้พบรถ “ที่ใช่” สำหรับคุณ เร็วๆนะครับ
ดูเพิ่มเติม: