เมื่อยางลมอ่อน ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะอาจทำให้ยางรั่วและส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของยาง จึงควรเติมลมอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง หรือสองอาทิตย์/ครั้ง สำหรับการเติมลมยางมอเตอร์ไซค์ สามารถนำเข้าอู่ให้ช่างเติมลมให้ หรือทำด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่ปั๊ม
สำหรับการ เติมลมยางมอเตอร์ไซค์ เท่าไหร่ ควรเติมมากน้อยแค่ไหน หากผู้อ่านทุกท่านสังเกตรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองให้ดีก็จะพบกับสติกเกอร์ที่แปะเอาไว้บริเวณสวิงอาร์มตรงล้อหลัง โดยสติกเกอร์นี้จะถูกแปะไว้ที่รถมอเตอร์ไซค์ทุกคันทั่วโลก เพื่อเป็นการแนะนำเรื่องปริมาณแรงดันลมยาง แต่ถ้าหากเป็นรถมอเตอร์ไซค์ออโตเมติกสติกเกอร์นี้จะถูกแปะเอาไว้บริเวณที่ใต้เบาะนั่งของผู้ขับขี่นั่นเอง
โดยสติกเกอร์ดังกล่าวจะบอกข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับยางที่ติดมาจากโรงงานเอาไว้ทั้งหมดครบถ้วน ตั้งแต่แบรนด์ของยาง รุ่นของยาง ขนาดล้อหน้าและล้อหลัง รวมไปถึงคำแนะนำในเรื่องของแรงดันลมยางที่ผู้ขับขี่ควรเติม ซึ่งก็จะถูกระบุเอาไว้ด้วยกัน 2 แบบ คือ แรงดันลมยางสำหรับขับขี่คนเดียว และแรงดันลมยางสำหรับแบบมีคนซ้อน
อีกหนึ่งสิ่งที่รู้เอาไว้ก็ไม่เสียหายคือ ค่าแรงดันที่วัดปริมาณลมยางในบ้านเราใช้หน่วยการวัดเป็น PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) โดยปกติแล้วตู้เติมลมยางฟรีตามปั๊มน้ำมันจะสามารถปรับตัววัดค่าแรงดันได้ ทั้งนี้ ควรเติมในระดับมาตรฐานที่ทางโรงงานผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ได้ระบุเอาไว้จะดีที่สุด
ผู้ใช้รถควรเติมลมยาง มอเตอร์ไซค์ให้ได้ตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ ส่วนจะเติมลมมอเตอร์ไซค์ เท่าไหร่นั้น สามารถเช็กได้จากรายละเอียดที่ระบุไว้บนสติกเกอร์ที่แปะอยู่ใต้เบาะรถ หรือโครงรถด้านหน้า หรือบริเวณสวิงอาร์มด้านหลังของรถมอเตอร์ไซค์ (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถที่ใช้) สำหรับค่าวัดปริมาณลมยาง ประเทศไทยจะใช้หน่วย PSI
ตัวอย่าง ตารางเติมลมยางมอเตอร์ไซค์ของรถฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ
| ความดันลมขณะยางเย็น | |||
| ยางหน้า | 200 kPa | 2.00 kgf/cm2 | 29 PSI |
| ยางหลัง | 225 kPa | 2.25 kgf/cm2 | 33 PSI |
| ขนาดยาง ล้อหน้า 80/90-14 M/C 40P | ขนาดยาง ล้อหลัง 90/90-14 M/C 46P |
ตารางเติมลมยางมอเตอร์ไซค์
เพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้รถควรเติมลมยาง มอเตอร์ไซค์ในขณะที่ยางยังเย็นอยู่ เพื่อทำให้ค่าวัดความดันลมยางไม่ผิดเพี้ยน
ไม่ควรเติมลมให้ยางแข็งหรืออ่อนมากเกินไป เนื่องจากลมยางที่แข็งจะทำให้ประสิทธิภาพการเกาะถนนลดลง ส่วนลมยางที่อ่อนเกิน จะทำให้ยางรั่วได้ง่ายจนเนื้อยางอาจเสื่อมสภาพเร็ว
การเติมลมยางรถ ควรเติมขณะที่ยางยังเย็นอยู่
เมื่อเติมลมยางมอเตอร์ไซค์เสร็จแล้ว ควรเช็กค่าความดันลมอีกรอบเพื่อความแน่ใจ และอย่าลืมปิดฝาจุกให้แน่นทุกครั้งหลังเติมเสร็จด้วย
เมื่อจะออกเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ว่าจะใกล้หรือไกลก็ตาม ควรเช็กลมยางให้เรียบร้อยทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าขับไปแล้วยางจะไปรั่ว หรือยางบวม ยางแตก จนอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ หากพบปัญหาควรนำเข้าอู่ให้ช่างแก้ไขให้
เติมลมยางมอเตอร์ไซค์ ควรเติมอย่างพอดี
ยางมอเตอร์ไซค์ดูแลได้ไม่ยาก แค่ต้องหมั่นเช็กลมยางอย่างสม่ำเสมอก่อนออกเดินทางทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังควรเติมลมอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง หรือสองอาทิตย์ต่อครั้ง เพื่อไม่ให้ลมยางมอเตอร์ไซค์อ่อนเกินไปจนเกิดการรั่วซึมจนอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของยาง
สำหรับใครที่ไม่เคยเติมลมยางด้วยตัวเองและจะใช้บริการให้เจ้าของร้านซ่อมรถเติมให้ตลอด บอกเลยว่าวิธีการเติมด้วยตัวเองนั้นง่ายนิดเดียวและที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินเลยสักบาทเดียว เพราะตามปั๊มน้ำมันทุกสาขาในบ้านเราจะมีจุดเติมลมยางไว้คอยให้บริการ โดยมีวิธีการเริ่มต้นง่ายๆ ดังนี้
ขั้นตอนแรกเมื่อเลี้ยวรถเข้ามาในปั๊มแล้วก็มุ่งหน้าไปยังจุดเติมลมยางทันที จอดรถภายในบริเวณที่จอดสำหรับเติมลมยางให้เรียบร้อย หลังจากนั้นลงจากรถแล้วหมุนจุกลมยางสำหรับล้อที่ต้องการเติมลมออกก่อน
เมื่อหมุนเปิดจุกล้อที่ต้องการเติมลมออกแล้วให้เดินมายังเครื่องเติมลมเพื่อตั้งค่าแรงดันลมยางตามคำแนะนำของสติกเกอร์ที่แปะรถมอเตอร์ไซค์ โดยคำแนะนำจะมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ซึ่งจะระบุไว้อย่างชัดเจนว่าล้อหน้าควรเติมเท่าไหร่และล้อหลังควรเติมเท่าไหร่ หลังจากนั้นก็ตั้งค่าปริมาณลมยางตามคำแนะนำบนสติกเกอร์ได้ทันที
นำสายสำหรับเติมลมยางออกแล้วเสียบเข้ากับรูที่บริเวณยางรถ จับเสียบเข้าให้พอดีเพราะถ้าหากจับหัวเติมลมไม่เข้ากับจุกจะทำให้ลมออกจากยางออกแทนการเติมเข้าไป เมื่อมั่นใจแล้วว่าจุกลมยางมีความพอดีก็สามารถรอจนกว่าสัญญาณของเครื่องเติมลมจะดังขึ้นก็เท่ากับว่าปริมาณลมที่เข้าไปในยางมีค่าเท่ากับที่เราได้ตั้งไว้ก่อนเติมเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่มีสัญญาณดังขึ้นให้ถอดสายเติมลมออกจากจุกเติมลม นำจุกมาหมุนปิดเข้ากับยางให้สนิท ทำแบบเดียวกันทั้งล้อหน้าและล้อหลัง เมื่อเติมเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้นำสายเติมลมไปเก็บเข้าไว้ที่เดิม
หลังจากที่เราได้ใช้บริการเติมลมยางตามจุดให้บริการที่ปั๊มน้ำมันแล้ว เพื่อความมั่นใจของผู้ขับขี่แนะนำให้ซื้ออุปกรณ์ตรวจเช็กลมยางติดรถเอาไว้ เพื่อให้ได้ค่าแรงดันลมยางที่เป็นไปตามความต้องการตลอดเวลา รวมทั้งการเติมลมยางแต่ละครั้งควรเติมค่าแรงดันตามที่สติกเกอร์แปะที่รถได้แนะนำเอาไว้ และสามารถเพิ่มหรือลดได้นิดหน่อยเพื่อปรับให้ตอบโจทย์ของผู้ขับขี่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaorot.com/
อ่านเพิ่มเติม