10:21, 17 เม.ย. 2563

Kawasaki J125 2020 ไพ่ใบสุดท้ายของตลาดรถเล็กในไทย

บันทึกรายการ

Kawasaki J125 2020 สกูตเตอร์พรีเมียมน้องเล็กของค่าย อาจเรียกเป็นไม้ตายสุดท้ายในการทำตลาดรถเล็ก โดย Kawasaki J125 2020 มาพร้อมความเหนือขั้นกว่าสกูตเตอร์ 125 ซี.ซี. ค่ายอื่น ๆ



Kawasaki J125 2020 ไพ่ใบสุดท้ายของตลาดรถเล็กในไทย

บริษัทฯ คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) กับการทำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กในตอนนี้ คงไม่ผิดมากนักที่จะบอกว่าทางบริษัทไม่มีประเภทรถที่เป็นกระแสในปัจจุบันก็ว่าได้ โดยในปัจจุบันกระแสของรถสกูตเตอร์มีความนิยมแทบจะที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้ ซึ่งค่ายรถจักรยานยนต์ญี่ปุ่นแบรนด์อื่น ๆ ล้วนมีรถสกูตเตอร์ทำตลาดในหลาย ๆ รุ่น หลาย ๆ ซี.ซี. ก็ว่าได้

ไม่ใช่ว่าทาง Kawasaki จะไม่มีรถสกูตเตอร์ทำตลาดอย่างใด โดยสกูตเตอร์น้องเล็กมีชื่อรหัสว่า Kawasaki J125 2020 ซึ่งวางจำหน่ายหลาย ๆ ประเทศในแถบยุโรป เพียงแต่ว่าในประเทศไทยยังไม่มีจำหน่ายแต่อย่างใด

ในปัจจุบันรถจักรยานยนต์ Kawasaki ที่มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 150 ซี.ซี. ที่ขายในไทยมีทั้งหมด 3 รุ่นเท่านั้น ได้แก่ Kawasaki Z125/Pro, Kawasaki Klx150/BF และ Kawasaki D-Tracker150 ทั้งนี้ยังมีรถจักรยานยนต์วิบากที่ไม่สามารถจดทะเบียนได้ คือตระกูล KX ซึ่งเห็นได้ชัดว่าทางบริษัท Kawasaki ไม่มีรถที่เป็นกระนิยมในปัจจุบันก็ว่าได้

ความนิ่งเงียบของทาง Kawasaki ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า บริษัทยังคงจะจะทำตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กต่อไปรึไม่ หรืออาจจะหยุดไว้เพียงเท่านี้ เนื่องจาก Kawasaki ในตลาดรถบิ๊กไบค์ถือว่ามีส่วนแบ่งการตลาดที่เยอะพอสมควรก็ว่าได้ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลของความนิ่งเงียบของทางบริษัทในตลาดรถเล็ก

สกูตเตอร์ Kawasaki J125 2020 อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี หากทางบริษัทคิดจะหาหนทางกลับมามีส่วนแบ่งทางการตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กในไทยอีกครั้งหนึ่ง

Kawasaki J125 2020 มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 1 ลูกสูบ ขนาด 125 ซี.ซี. SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ สามารถทำแรงม้าสูงสุดที่ 12.8 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 10.9 นิวตันเมตร ที่ 7,750 รอบ/นาที พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์ออโตเมติก CVT และจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด

ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Telescopic ขนาดแกน 37 มม. ทำงานร่วมกับโช้คอัพหลังแบบ Twin shocks สามารถปรับเซ็ทได้ 5 ระดับ ในส่วนระบบเบรกหน้าเป็นดิสก์ขนาด 260 มม. จับคู่กับคาลิเปอร์แบบ 2 ลูกสูบ ระบบเบรกหลังดิสก์ขนาด 240 มม. จับคู่กับคาลิเปอร์แบบ 2 ลูกสูบเช่นกัน ส่วนสเปกขนาดล้อหน้า 120/80-14 ล้อหลังขนาด 150/70-13


ระบบเบรกหน้า พร้อม ABS


ระบบกันสะเทือนหลัง สามารถปรับเซ็ทได้

ตามสไตล์ของรถสกูตเตอร์ปัจจุบัน Kawasaki J125 2020 มาพร้อมที่เก็บสัมภาระใต้เบาะนั่งขนาดใหญ่ สามารถเก็บหมวกกันน็อคเต็มใบได้ 1 ใบ พร้อมทั้งรองรับน้ำหนักสูงสุดที่ 10 กิโลกรัมก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของบริเวณหน้ารถอีกเล็กน้อย พร้อมด้วยช่องชาร์จไฟ 12v


ที่เก็บสัมภาระใต้เบาะนั่ง


ช่องเก็บสัมภาระพร้อมที่ชาร์จไฟ 12V

นอกจากนี้ยังมีหน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิทัล LCD กึ่งแอนะล็อกขนาดใหญ่ พร้อมแสดงผลข้อมูลการขับขี่ที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว รอบเครื่อง ระยะทาง เวลา และน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นต้น


เรือนไมล์แบบดิจิทัล LCD กึ่งแอนะล็อก

อาจกล่าวได้ว่า Kawasaki J125 2020 ได้ถูกว่างค่าทางการตลาดเป็นสกูตเตอร์แบบพรีเมียม ซึ่งหากนำออฟชั่นต่าง ๆ ของรถมาเทียบกับสกูตเตอร์รุ่นต่าง ๆ ที่ขายในไทยนั้น จะพบความแตกต่างอยู่พอสมควร โดยเริ่มจากระบบ ABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง, ก้านเบรกแบบปรับได และเบาะนั่งที่ได้รับการออกแบบตามสรีรศาสตร์


เบาะนั่งที่ออกแบบตามสรีรศษสตร์


ก้านเบรกแบบปรับได้

ถึงแม้ Kawasaki J125 2020 จะมีข้อดีในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะออฟชั่นที่ให้มาเหนือกว่าสกูตเตอร์ 125 ซี.ซี. แบรนด์อื่น ๆ แต่ก็มีข้อจำกัดในหลาย ๆ เรื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาค่าตัวที่จะสูงกว่าสกูตเตอร์ 125 ซี.ซี. แบบทั่วไปอยู่พอสมควร เนื่องจากแพงตามออฟชั่นที่ติดตั้งมากับรถ นอกจากนี้ขนาดไซซ์ของ Kawasaki J125 2020 ถือว่าใหญ่กว่าสกูตเตอร์ขนาด 125 ซี.ซี. แบรนด์อื่น ๆ อยู่พอประมาณ ทำให้การขับขี่ในเมืองอาจมีความลำบากมากกว่านิดหน่อย


ชิวบังลมขนาดใหญ่

เครื่องยนต์ขนาด 125 ซี.ซี. ที่รับภาระลากตัวถังขนาดใหญ่ ทำให้สามารถวิ่งความเร็วสูงสุดตามหน้าจอเรือนไมล์ได้ไม่เกิน 110 กม./ชม. ซึ่งความเร็วระดับนี้อาจจะขัดใจหลาย ๆ คนที่ใช้ขับขี่ในระยะทางไกลก็ว่าได้ ซึ่งแต่ก็อย่าลืมว่า Kawasaki J125 มีเครื่องยนต์ขนาด 125 ซี.ซี. เพียงเท่านั้น

เชื่อได้ว่าหากคิดจะนำ Kawasaki J125 2020 มาทำตลาดสกูตเตอร์ในไทยแล้ว อาจมีการลดออฟชันอะไรหลาย ๆ อย่าง เพื่อให้มีราคาที่ต่ำลง หากทาง Kawaski ไม่เลือกลดออฟชันใด ๆ เลย เชื่อได้ว่าตัวรถจะมีราคาที่สูงเกินกว่าสกูตเตอร์ขนาด 125 ซี.ซี. แบรนด์อื่น ๆ ไปไกลพอสมควร

สุดท้ายนี้ยังไม่อาจคาดเดาความนิ่งเงียบของ Kawasaki กับทิศทางตลาดรถเล็กได้เลย แต่ในเวลานี้หากบริษัทจะเลือกกลับมาทำตลาดรถขนาดเล็กอย่างจริงจังแล้วก็ ตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้คงหนีไม่พ้นสกูตเตอร์อย่างแน่นอน อีกหนึ่งปัญหาของทาง Kawasaki ก็คือศูนย์บริการที่ไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ หากเทียบกับแบรนด์รถญี่ปุ่นเจ้าอื่น ๆ ซึ่งสิ่งนี้ก็ถือเป็นโจทย์ที่สำคัญในการทำตลาดรถเล็กด้วยเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม

Suzuki Saluto 125 เผยสีสันสดใส 5 สี ไทยมีลุ้น ?
Yamaha NMAX 155 2020 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

RodPenRai

ในหมวดเดียวกัน