หนุ่มบิ๊กไบค์โพสคลิปขอความเป็นขณะขับรถเจอด่านตรวจแต่รถพุ่งจนถูกขู่ตั้งข้อหาพยายามฆ่า
สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นที่โจษขานกันดังกล่าวเกิดจากรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ตรัยภพ ขอนขาว" ซึ่งเป็นคลิปขณะผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสคลิปวิดีโอเรื่องราวของตัวเองขณะขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์คู่ใจออกไปรับประทานข้าว จากนั้นเจอด่านตรวจ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้ทำการหยุดรถเพื่อขอทำการตรวจสอบ แต่ขณะนั้น รถเกิดพุ่งเข้าหาเจ้าหน้าที่ และเสียหลักล้มลงบนพื้นถนน ทำให้ผู้ขับขี่ เกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่จนถึงกระทั่งกำลังถูกตั้งหาถึงขั้นพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาหยุดรถซึ่งเจ้าตัวได้อธิบายว่ารถพุ่งเกิดจากมีหนึ่งในเจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์เผลอกำคลัตช์มอเตอรไซตของตนจำทำให้รถพุ่ง จนเป็นข้อถกเถียงอย่างมากในโลกออนไลน์ไปในทางสนับสนุนหนุ่มบิ๊กไบค์คนนี้ว่า ใครคือผู้กำคลัตช์ จนทำให้เกิดเหตุการณ์พิพาทนี้ขึ้น
คลิปเหตุการณ์
โดยทาง นายตรัยภพ ขอนขาว หรือ เบิร์ด อายุ 25 ปี หนุ่มบิ๊กไบค์ผู้โพสต์คลิป ได้อธิบายถึงกรณีนี้ว่าตนเองไม่มีเจตนาหลบหนี หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ตนแค่ชะลอรถเบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าจอด แต่รถยังจอดไม่สนิท และมีเจ้าหน้าที่เข้ามาขวางหลายคนทั้งซ้าย-ขวา คลัตช์กระเด้ง ทำให้มือตนหลุดไปโดนคันเร่ง รถจึงกระตุกไปข้างหน้า ก่อนเสียหลักล้มลงไปจนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ตำรวจที่ตั้งด่านในคลิป และ นายตรัยภพ ขอนขาว คู่กรณีในเหตุการณ์
จากเรื่องราวดังกล่าวล่าสุดนั้นได้รับคำตอบจากผู้บังคับบัญชาของ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกอ้างอิงในโลกออนไลน์ โดย พ.ต.อ.ทินกร สมวันดี ผกก.สน.พระโขนง ได้เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดหมาย นายตรัยภพ ผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ มาชี้แจงรายละเอียดและปรับความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถติดต่อประสานนายตรัยภพได้ และจะพยายามติดต่อนายตรัยภพต่อไปเพื่อเข้ามาพูดคุย
ชาวโซเชียลทำลูกศรเพื่อตั้งสังเกตว่าฝ่ายไหนถูกผิดในกรณีนี้
สำหรับกรณีที่โลกเชียลตั้งคำถามกรณีที่สงสัยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้กำคลัตช์ หรือมือไปโดนคลัตช์ รถบิ๊กไบค์คันดังกล่าวหรือไม่? พ.ต.อ.ทินกร ระบุว่า กำลังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และอะไรเป็นสาเหตุให้รถพุ่งตัวออกไปส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดในคลิปว่า จะแจ้งข้อหาพยายามฆ่านั้น ได้เรียกเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวมาพูดคุยแล้ว และไม่ได้ดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าหลังจากที่ได้พูดไว้ในคลิปแต่อย่างใด
หนุ่มบิ๊กไบค์โพสคลิปความเสียหายของรถ
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดถึงความผิดตามกฏหมายจราจรสำหรับหนุ่มบิ๊กไบค์คนดังกล่าวซึ่งจากการรายงานของเจ้าพนักงานในที่เกิดเหตุพบว่า ไม่ได้พกใบอนุญาตขับขี่และนำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และไม่ติดตรึงแผ่นป้ายทะเบียนรถให้เห็นเด่นชัดแต่ติดใต้ซุ้มล้อ อีกทั้งไม่นำสมุดหรือสำเนาคู่มือการจดทะเบียนรถมาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบได้ จึงทำการเปรียบเทียบปรับ และไม่ดำเนินคดีอาญาใดๆแก่หนุ่มบิ๊กไบค์รายนี้ ส่วนรถบิ๊กไบค์คันเกิดเหตุทางหนุ่มเจ้าของรถต้องรับผิดชอบความเสียหายเองโดยมีค่าใช้จ่ายราวๆ 40,000 บาท.
ดูเพิ่มเติม