ไม่สุดจะหยุดไง Kawasaki เตรียมพัฒนา NINJA H2 ให้เปรี้ยงปร้างและปลอดภัยกว่าเดิม
Kawasaki Ninja H2 สุดยอดรถบิ๊กไบค์แห่งวงการมอเตอร์ไซต์รุ่นใหญ่ล่าสุด ทางผู้สร้างยังไม่หยุดที่จะพัฒนาความเร็ว และความแรงควรถึงความล้ำสมัยไฮเทคให้กับเจ้ายักษ์เขียวจาก คาวาซากิ มากไปกว่า รุ่น 2019 นี้ ให้เป็นสุดยอดของ Super Bike แถวหน้าต่อไป
รถจักรยานต์ยนต์ซูเปอร์ไบค์ KAWASAKI NINJA H2 2019
โดยปัจจุบันรถจักยานยนต์ ซุปเปอร์ไบค์ Kawasaki Ninja H2 ล่าสุดเวอร์ชั่น 2019 ได้ถูกอัพเกรดขุมพลังแรงม้าจากเดิมที่ 199.7 แรงม้า ไปเป็น 231 แรงม้า ด้วยการปรับชิ้นส่วนและ ดึงอะไหล่มาจากรุ่น H2 SX ทั้งระบบกรองอากาศใหม่แบบ Intake Chamber ระบบการจุดระเบิด และกล่องสมองกล ECU ที่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดที่มีมาในรถจักรยานยนต์ซุปเปอร์ไบค์ของ Kawasaki รุ่นนี้
ดีไซน์หน้า-หลัง ของ NINJA H2 รุ่นปัจจุบัน
นอกจากขุมพลังความแรงของเครื่องยนต์จะถูกอพเกรดแล้วทางด้านอุปกรณ์หลายๆ ชิ้นในตัวรถก็ได้รับการอักเกรดใหม่ เช่นกัน ทั้ง หน้าจอแสดงผลที่ได้ดึงเอาหน้าจอ TFT มาจาก Ninja H2 SX สามารถเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ตามโหมดของการขับขี่ ระบบเบรกใหม่ของ Brembo เหมือนกับที่ติดตั้งอยู่ใน Ducati Panigale V4 และยางใหม่จากแบรนด์ Bridestone รุ่น RS11 และที่เป็นไฮไลท์ของซุปเปอร์ไบค์คันนี้ก็คือการเคลือบสีแบบใหม่ที่เป็นการเคลือบสีแบบพิเศษที่มีชื่อว่าง Self-Healing Paint ที่สามารถรักษาตัวเองได้หากเกินรอยขีดข่วน เพราะสามารถปรับสภาพให้ส่วนที่ถูกรอยจากการฉีกขาดที่ไม่ลึกมากจนเกินไปกลับมาดังเดิมได้
ขุมพลังความแรง 231 แรงม้าที่ถูกอัพเกรดในรุ่น 2019
อย่างไรก็ตามหากจะมีการเพิ่มแรงม้าให้กับตัวรถ Kawasaki Ninja H2 คันต่อไปให้มากกว่าเดิมอีก ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจหรือเซอร์ไพร์สจนเกินไปแต่อย่างใด มีการคาดการณ์ว่า Kawasaki Ninja H2 ในเฟสต่อไปที่จะถูกปรับปรุงนั้น จะเป็นในเรื่องของชิ้นส่วนแฟริ่ง โดยจะมีครีบทั้งสองข้างของตัวรถ เพื่อจะทำให้การแหวกอากาศตามหลักเอโร่ไดนามิกนั้น ทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมเฉหกเช่นรถที่ใช้ในการแข่งขัน Moto GP ก็ไม่ปาน และอีกหนึ่งความเป็นไปได้ที่จะมีการอัพเกรดกันนั้นก็คือในเรื่องของระบบเรดาร์ โดยการทำงานของเซ็นเซอร์เรดาร์นั้นจะแยกเป็นสองส่วน โดยส่วนหน้าจะมีการติดตั้งกล้องและเซนเซอร์เพื่อตรวจจับวัตถุ หากใกล้ที่จะเกิดอุบัติเหตุระบบจะสั่งการระบบเบรกให้ทำงานโดยอัตโนมัติ โดยจะสามารถทำการชะลอและห้ามล้อได้ในทันที โดยที่จะมีการตัดระบบคันเร่งของรถไว้ชั่วระยะหนึ่ง และส่วนที่สองคือด้านหลังที่จะมีการติดตั้งเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุ หากมีการขยับของวัตถุที่ใกล้เข้ามา ระบบจะทำการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ให้ทำการหลบหลีก โดยจะมีการสั่งงานไปยังระบบไฟแจ้งเตือนฉุกเฉิน รวมไปถึงสามารถส่งสัญญาณไปยังระบบบลูทูธหากผู้ขับขี่ทำการเชื่อมต่อระบบนี้กับตัวรถอยู่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่นักบิดเจ้ายักษ์เขียวสุดยอดแห่งวงการบิ๊กไบค์คันนี้
ดูเพิ่มเติม:
