Mitsubishi Lancer Evolution Xl จะกลับมาโลดแล่นบนท้องถนนอีกครั้ง

Mitsubishi Lancer Evolution Xl

นับเป็นข่าวที่เรียกความสนใจจากสื่อโซเชียลในรอบสัปดาห์ได้อย่างล้นหลามเมื่อมีกระแสข่าวถูกปล่อยออกมาว่า Mitsubishi Lancer Evolution รถเก๋งซีดานที่ได้รับการการันตีด้านขุมพลังอีกรุ่นหนึ่งจนสร้างกระแสความนิยมในหมู่นักขับผู้ชื่นชอบความเร็วมาอย่างยาวนานนับทศวรรษกำลังจะถูกนำมาปัดฝุ่นเพื่อทำตลาดกันอีกครั้งในเจเนอเรชั่นที่ 11 ภายใต้การเพิ่มความหลากหลายของโครงสร้างตัวถังที่มีทั้งในรูปแบบซีดาน 4 ประตูใกล้เคียงกับในรูปแบบเดิม และ แบบแฮทช์แบ็ค 5 ประตูผสานกับสมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.0 ลิตร ที่ยังคงตอบสนองทุกอัตราการเร่งได้เป็นอย่างดี

ตอบโจทย์แฟนคลับค่ายมิตซูบิชิในช่วงยุค 90 ภายหลังจากที่มีข่าวแว่วออกมาจากผู้บริหารระดับสูงของ Mitsubishi ถึงการนำ Mitsubishi Lancer Evolution สุดหล่อขวัญใจขาซิ่งกลับมาทำตลาดใหม่อีกครั้งภายหลังจากที่ได้หยุดการผลิตไปในปี 2016 สำหรับการกลับมาในครั้งนี้เป็นไปตามคำเรียกร้องของแฟนๆค่ายมิตซูบิชิที่ยังคงมีความประทับใจในรูปทรงตัวถังที่มีความคลาสสิคถูกใจผู้ขับขี่มาหลายยุคสมัย

Mitsubishi Lancer Evolution

โดยรุ่นล่าสุดและเป็นรุ่นสุดท้ายของ Mitsubishi Lancer Evolution ได้รับการเปิดตัวขึ้นภายใต้ชื่อ Concept-X (2007-2016) ซึ่งถือเป็นการพัฒนาออกมาเป็นเจเนอเรชั่นที่ 10 ของรถรุ่นนี้โดยได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 276-360 แรงม้า เสริมด้วยระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติแบบคลัทช์คู่ พร้อม Sportronic Shift ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD ภายใต้ชื่อ Super All Wheel Control (S-AWC) ควบคุมแรงบิดของแต่ละล้อให้มีความสัมพันธ์กันกับสภาพเส้นทางในการขับขี่ซึ่งนับเป็นเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยเป็นอย่างมาก

• Lightyear One 2020 นวัตกรรมรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์

• เผยโฉม Toyota Sienta ไมเนอร์เชนจ์ในไทยสิงหาคม 2562

Mitsubishi Lancer Evolution X ยังคงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนได้รับการติดตั้งระบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 6 สปีด แบบ SST twin-clutch เสริมเข้าไปพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift ส่งผลให้ Mitsubishi Lancer Evolution X โฉมนี้นับเป็นรุ่นที่มีความหลากหลายมากที่สุดในตระกูล Evolution และได้รับความนิยมจากนักขับมากที่สุด อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมามิตซูบิชิได้ประกาศหยุดการผลิต Mitsubishi Lancer Evolution ส่งผลให้กระบวนการผลิตรถสมรรถนะสูงจากค่ายมิตซูบิชิก็ดูเงียบเหงาซบเซาลงตามไปด้วย

Mitsubishi Evolution

จนกระทั่งในปี 2018 ที่ผ่านมาก็ได้มีข่าวออกมาจากมิตซูบิชิอีกครั้งว่าจะมีการนำจ้าวแห่งความเร็วตัวใหม่เข้ามาแทนที่ Mitsubishi Lancer Evolution  รุ่นเดิมพร้อมกับการปรับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Mitsubishi Evolution กอปรกับการออกแบบโครงสร้างตัวถังในสไตล์ใหม่ที่ไม่ใช่รถแต่งซิ่งอีกต่อไป แต่ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ประเภท SUV ครอสโอเวอร์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแล้วยังเพิ่มขนาดความกว้างของตัวถังส่งผลให้ดูบึกบึนแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นแต่ยังคงได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mitsubishi Lancer Evolution เข้าไปอีกด้วย

ภายใน Mitsubishi Evolution

ทั้งนี้ Mitsubishi Evolution อาศัยการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าผ่านการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 3 ตัว พร้อมชุดแบตเตอรี่ที่ถูกนำมาติดตั้งเอาไว้บริเวณใต้ท้องรถ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงถูกออกแบบให้มีกำลังมากกว่าเครื่องยนต์แบบสันดาปโดยทั่วไป ส่วนระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ อาศัยการควบคุมด้วย Dual Motor Active Yaw Control ที่ช่วยควบคุมแรงบิดที่ส่งไปยังล้อหลังในขณะเข้าโค้งเพิ่มเสถียรภาพในการยึดเกาะถนนได้อย่างสมดุลยิ่งขึ้นซึ่งนับเป็นการปรับโฉมครั้งสำคัญที่กระชากใจแฟนคลับ Mitsubishi Lancer Evolution อยู่พอสมควร

Mitsubishi Lancer Evolution 

แต่ล่าสุดอาจจะไม่เป็นไปอย่างที่คิดเมื่อ Mitsubishi Lancer Evolution เจเนอเรชั่นที่ 11 ของรถรุ่นนี้ได้รับแรงสนับสนุนให้ไปต่อและในคราวนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้รูปแบบโครงสร้างตัวถังบนแพลตฟอร์ม CMF-C/D F4 ซึ่งถือเป็นการร่วมกันพัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างพันธมิตรทั้ง Renault , Nissan และ Mitsubishi โดยใช้รูปแบบเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.8 ลิตร เช่นเดียวกันกับที่มีการติดตั้งใน Renault Megane RS รถแฮทช์แบ็ค 5 ประตูที่มีจุดเด่นในด้านของความเร็วเช่นเดียวกัน

อีกทั้งยังมีการเพิ่มทางเลือกรูปแบบตัวถังที่มีให้ผู้ขับขี่ได้ใช้งานกันอย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้นกว่าในอดีตที่เป็นเพียงซีดาน 4 ประตูอย่างเดียวเท่านั้นโดยในคราวนี้ได้มีการปรับเพิ่มรูปแบบแฮทช์แบ็ค 5 ประตู ไว้คอยรองรับต่อความต้องการของผู้ขับขี่ที่ต้องการบรรทุกสัมภาระเพิ่มเติมไปในระหว่างทริปการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 16 วาล์ว Turbo ขนาด 2.0 ลิตร 

Mitsubishi Lancer Evolution เจเนอเรชั่นที่ 11 มีการคาดหมายกันว่าน่าจะได้รับการติดตั้งขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า Mild Hybrid ขนาด 48 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 345 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 432 นิวตัน-เมตร ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD  

อย่างไรก็ตามแม้ข่าวนี้จะได้รับการนำเสนอจากสำนักข่าวใหญ่หลายสำนักแต่ก็ยังคงไม่มีการยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการจากมิตซูบิชิถึงแนวทางในการทำตลาด Mitsubishi Lancer Evolution รุ่นล่าสุดในเจเนอเรชั่นที่ 11 อย่างจริงจังแต่ก็นับเป็นข่าวดีว่าอย่างน้อยมิตซูบิชิก็ยังคงมีความสนใจที่จะพัฒนาซีดานสายซิ่งรุ่นเรือธงที่เคยได้รับความนิยมในอดีตอยู่อีกทั้งยังมีการวิจัยพัฒนาทดสอบและคัดเลือกโครงสร้างตัวถังที่มีความเหมาะสมกับรถรุ่นนี้อยู่โดยตลอด

...

ดูเพิ่มเติม

• Kia Xceed 2020 ครอสโอเวอร์สายแกร่งบุกยุโรป

• เปิดตัว MG Hector 2019 โฉมใหม่ในแดนภารตะ