เทียบ Compact Car สุดหรู ระว่าง BMW 3 Series กับ Audi A 4 2019 เสปคคันไหนจะชนะใจสาวก

RodPenRai 17 ม.ค. 2562 | 149 View | รีวิว

หากนึกถึงแบรน์รถยนต์ในตลาดกลุ่ม D-Segment ที่เป็นคอมแพคซีดานหรูคงจะหนีไม่พ้นค่ายรถยนต์จากค่ายรถเมืองเบียร์ที่ได้ทำการผลิตรถยนต์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความเป็นเลิศในทุกๆ ด้าน ทั้งรูปลักษณ์และสมรรถนะเครื่องยนต์รวมถึงความปลอดภัยสำหรับรถที่เรานำมาเปรียบเทียบเป็นบทความนี้เราขอยกรุ่นยอดนิยมอย่าง BMW Series 3 2019 กับอีกแบรนด์จากแดนเมืองเบียร์ที่คุ้นเคยในตลาดบ้านเราตั้งแต่ยุคต้นๆมิลเลียนเนียมเช่นกันอย่างAudi A 4 2019 มาเปรียบเทียบกันให้เห็นชัดๆในทุกๆด้านกันในบทนี้เลย

1. เปรียบเทียบระหว่าง BMW 3 Series 2019 กับ Audi A4 2019 โดยภาพรวม

BMW 3 Series และ Audi A4 2019 คอมแพคซีดานหรูที่ท้าชิงในตลาด D-Segemt ในปี 2019 นี้

สำหรับหนึ่งในจ้าวตลาด คอมแพคซีดานของโลกและในไทยอย่าง BMW 3 Series รุ่นนี้คือ Serie 3 เจเนอเรชั่น ที่ 7ในรหัสตัวถัง G20 มีการเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Paris Motor Show เมือปีที่แล้วให้วงการยานยนต์ได้ฮือฮาซึ่งหลังจากนั้นทำให้ BMW 3 Series โฉมใหม่นี้ เป็นโมเดลของคอมแพคซีดานระดับพรีเมียมที่สำคัญที่สุดของค่าย BMW ที่พร้อมจะให้ชาวโลกได้สัมผัสในปี 2019 นี้

ดูราคา Audi A4 ที่นี่ 

พรีวิวเปรียบเทียบรถยนต์ทั้งสองรุ่น

ส่วนทางด้าน Audi A4  2019 คือรถซีดานคอมแพ็คระดับพรีเมี่ยม ที่ในเจเนอเรชั่นนี้ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2015 ล่าสุดได้ถึงเวลาไมเนอร์เชนจ์แล้ว โดยเริ่มขายในยุโรปก่อนใครในไตรมาสนี้ และจะค่อยๆกระจายไปทั่วโลกเป็นรุ่นปี 2019 มาพร้อมรูปทรงใหม่ที่เน้นความสปอร์ตมากขึ้น จึงนับได้ว่าอาวดี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคูู่แข่งรถยนต์จกาเมืองเบียร์เยอรมันที่มาท้าชิงกับเจ้าตลาดอย่าง BMW หรือ Mercedes Benz ที่มี C-Class เป็นคู่ต่อกรในสนามนี้ Segment นี้ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาของการเปิดตัวหรือการวางจำหน่ายในตลาดรถยนต์ 

2. วัดกันที่รูปลักษณ์ภายนอกระหว่าง BMW 3 Series 2019 กับ Audi A4 2019

ดีไซน์ด้านหน้าของ BMW 3 Series 2019

ภายนอกของ BMW 3 Series 2019 ถูกปรับปรุงมาให้เข้ากับภาษาการดีไซน์ของ BMW เจเนอเรชั่นปัจจุบัน ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่โตขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเจเนอเรชั่นก่อนหน้า (F30) โดยมีความยาวเพิ่มขึ้น 76 มิลลิเมตร, กว้างขึ้น 16 มิลลิเมตร และ สูงขึ้น 1 มิลลิเมตร ยึดถือความสปอร์ตเป็นธีมหลักในการออกแบบ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าไตคู่แบบชิ้นเดียว มีเส้นเชื่อมอยู่ตรงกลางเป็นเส้นเดียวกัน และส่งต่อไปยังไฟหน้า LED ที่มีรอยบากอยู่ด้านล่าง แบ่งระหว่างดวงไฟคู่ของแต่ละข้าง ซึ่งรอยบากนี้จะเป็นเส้นที่ถูกส่งต่อไปยังกันชนหน้าได้อย่างลงตัว 

ดีไซน์ด้านท้ายของ BMW 3 Series 2019

BMW 3 Series ใหม่ ใช้ไฟหน้าแบบ LED เป็นออปชั่นมาตรฐาน แต่จะมีออปชั่นของ Daytime Driving Light รูปทรงวตัว U ภายในเป็นออปชั่น รวมถึงมีตัวเลือกของไฟหน้าแบบ Adaptive LED และ BMW Laserlight มาให้เลือกเป็นครั้งแรกในซีรีส์ 3 ด้วยส่วนด้านท้ายของตัวรถ เด่นด้วยไฟท้าย LED ทรง L Shape แคบๆ ตามที่ BMW ปรับมาใช้ไฟท้ายรูปทรงลักษณะนี้กับรถยนต์ BMW ใหม่หลากหลายรุ่น ในขณะที่กันชนชิ้นล่างของรุ่น Luxury / Sport Line จะใช้ดีไซน์กรอบไฟ T Shape เพื่อให้เข้ากับช่องดักอากาศทรงตัว T บริเวณด้านหน้าของตัวรถ ส่วนของท่อไอเสีย ใช้ท่อคู่ ขนาด 80-90 มิลลิมเตร แล้วแต่รุ่นเครื่องยนต์สีของตัวถัง ในวันเปิดตัว จะมีให้เลือกทั้งหมด 12 สี ซึ่งมีสีใหม่ 2 สีด้วยกัน คือสีน้ำเงิน Portimao Blue กับสีเงิน Vermont Bronze รวมถึงมีสีของ BMW Individual สีใหม่ คือสี Dravite Grey 

 

มุมมองด้านข้างของ BMW 3 Series และ Audi A 4 2019

มาทางด้าน  Audi A4 2019 มีจุดเปลี่ยนใหญ่ๆคือกันชนหน้า ที่เปลี่ยนจากช่องดักลมข้างทรงสี่เหลี่ยม กลายเป็นทรงห้าเหลี่ยมมุมป้าน ปาดขอบล่างเฉียงให้ดูไม่ทื่อแบบเก่า ภายในช่องดักลมดังกล่าวใช้ลายใหม่ ใส่กรอบสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีเซ็นเซอร์อยู่ตรงกลางกรอบนั้น และเพิ่มพื้นผิวลายรังผึ้งแบบ 3 มิติ ที่มีช่องอากาศผ่านเข้าไปจัดระเบียบลมหมุนวนในซุ้มล้อออกไป ส่วนท้ายรถเปลี่ยนกันชนหลัง ปรับดิฟฟิวเซอร์ขนาดเล็กลง กับปลายท่อไอเสียกลายเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว แทนที่วงกลมเดิมๆ นอกจากนั้นโดยรวมแล้วยังเหมือนเดิม

 ดีไซน์ด้านหน้าของ Audi A4 2019

สำหรับในรุ่นอื่นๆมีออพชั่นปรับใหม่เล็กน้อย โดยในรุ่น S-line เพิ่มสีเฉดใหม่ Turbo Blue สดใสตามภาพ พร้อมล้อแม็กซ์ขนาด 19 นิ้วพอดีซุ้ม ในรุ่น Avant หรือแวกอน ได้สปอยเลอร์หลังคาจากตัวแรง RS4 มาใส่อีกด้วย ซึ่งถือว่ามีการปรับให้มีความเหลี่ยมมนดุดันสมกับความเป็นรถรุ่นพรีเมียมอีกรุ่นนึงของ ตลาดรถยนต์ระดับนี้

ดีไซน์ด้านท้ายของ Audi A 4 2019

3. รีวิวภายใน BMW 3 Series 2019 กับ Audi A4 2019

ภายใน ห้องโดยสารส่วนหน้าของ BMW 3 Series 2019

สำหรับภายในของ BMW 3 Series 2019 นี่ถูกจัดเต็มมาไม่แพ้รุ่นใหม่ๆ ของค่าย BMW ที่เพิ่งเปิดตัวในโฉมปี 2019 เลย ด้วยหน้าปัดดิจิตอล ระบบ OS 7.0 เวอร์ชั่นล่าสุด และปุ่มควบคุมต่างๆ บนแผงคอนโซลกลาง ที่เป็นสไตล์ใหม่ทั้งหมด เรียงปุ่มและแยกการควบคุมได้เข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น ออกแบบปุ่มมาได้อย่างเรียบหรู สวยงาม และตัดขอบดีไซน์ด้วยเหลี่ยมมุมที่ให้อารมณ์ไดนามิกทุกสัดส่วน

หน้าปัดควบคุมการขับขี่ ใน BMW 2019

เบาะที่นั่ง ถูกปรับปรุงมาใหม่เช่นกัน และเพิ่มพื้นที่ legroom ให้กับผู้โดยสารทุกตำแหน่ง มีตัวเลือกของวัสดุให้เลือกมากขึ้น เช่นหนัง Vernasca ที่แยกออกมาเป็นออปชั่นเพิ่มความหรูหราให้กับห้องโดยสาร โดยBMW 3 Series ใหม่ มาพร้อมกับไฟ ambient ในห้องโดยสาร โดยใช้ไฟ LED ทุกตำแหน่ง มีให้เลือกปรับได้ทั้งหมด 6 สี ควบคุมได้จากหน้าจอ iDrive แถมยังมีออปชั่นของไฟส่องพื้นประตูด้านนอกตัวรถ ที่ทำหน้าที่เป็น Welcome Light Carpet ออปชั่นที่หลายคนชื่นชอบจากการเปิดตัวครั้งแรกของออปชั่นนี้ใน BMW 7 Series โฉมปัจจุบัน

เบาะที่นั่งภายใน BMW 3 Series 2019

และสุดท้ายฝากระโปรงท้ายของ BMW 3 Series ใหม่ มีความจุ 48 ลิตร สามารถกั้นช่องแยกส่วนได้ และสามารถพับเบาะหลังเพื่อเพิ่มความจุของฝากระโปรงท้ายได้ โดยแยกพับเบาะได้ทั้ง 3 ชิ้น แบบ 40:20:40 เพิ่มความยืดหยุ่นในการชีวิตประจำวันได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

ด้านท้ายของ BMW 3 Series รุ่นนี้จุได้ถึง 48 ลิตร

ส่วนภายในของ Audi A 4 ถูกออกแบบให้มีความหรูหราสไตล์สปอร์ตภายในรุ่นมาตรฐานก็เปลี่ยนการตกแต่งเป็นผิวโลหะด้าน กับเบาะสีดำหรือสีแทนห้องโดยสารเป็นโทนสีดำ แผงประตู​ด้านข้างบุด้วยผ้า Alcantara สีดำ ให้สัมผัสที่นุ่มสบายดีงาม มือจับเปิดประตู ทำจาก โครเมียมด้าน ให้ความรู้สึก​เหมือนโลหะมากๆ ล้อมรอบด้วยแผง Trim สีดำ Piano Black มือจับประตู​หุ้มด้วยหนัง แต่ด้านในเป็นพลาสติกผิวเรียบเนียนสีดำ ยาวต่อเนื่องมาเป็นพนักวางแขน ซึ่งวางท่อนแขนได้สบายพอดีๆถ้าคุณ​ปรับตำแหน่งเบาะให้ต่ำสุดด้านล่าง​ของแผงประตูคู่หน้านอกจากนี้ด้านคอนโซลกลางนั้น ด้านบนจะเป็นจอมัลติมีเดียขนาด 7 นิ้ว ซึ่งใช้สำหรับโชว์การทำงานของฟังก์ชั่นต่างๆ เช่นการเซ็ตค่าในแต่ละส่วนของรถ รวมถึงเครื่องเสียง และฟังก์ชั่น Apple Carplay


ความสปอร์ตภายใน Audi A4 2019

ภายใน Audi A4 2019 มีระบบปรับอากาศ เป็นแบบอัตโนมัติดิจิตอล 3-Zone ซึ่งสามารถปรับแยกอุณหภูมิห้องโดยสารแยก ซ้าย/ขวา/ผู้โดยสารด้านหลัง สามารถทำความเย็นได้ดีพอสมควร แต่ต้องเซ็ตไว้ประมาณ 22-23 องศาถึงจะสู้แดดกลางวันได้ (รถติดฟิล์มกรองแสงแล้ว) ในกรณีที่ต้องการปรับอุณหภูมิแบบเผด็จการ (เท่ากันทั้งห้องโดยสาร) ก็แค่กดปุ่ม SYNC โดยเอานิ้วไปลูบๆแตะๆปุ่มสีเงินอันที่สองจากซ้ายแล้วกดเลือกได้เลย


ด้านท้ายเปิดด้วยระบบไฟฟ้าและความจุที่กว้างขวาง ใน Audi A4 2019

4. เทียบขุมพลังเครื่องยนต์ของ BMW 3 Series 2019 กับ Audi A4 2019

BMW 3 Series 2019 มีขุมพลังเครื่องยนต์ที่มีความแรงสูงสุด จะเป็น BMW 330i ก่อน ซึ่งใช้เครื่องยนต์ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 258 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร และสามารถทำการเร่งจาก 0-100 km/h ได้ในระยะเวลา 5.8 วินาทีส่วนในรุ่นมาตรฐานอย่าง BMW 320i จะใช้เครื่องยนต์ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ 2.0 ลิตร 4 สูบเช่นกัน ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร และเร่งจาก 0-100 km/h ได้ในเวลา 7.2 วินาที

ขุมพลังเครื่องยนต์ของ BMW 3 Series 2019

ฝั่งเครื่องยนต์ดีเซล จะมีให้เลือกสูงสุดถึงรุ่น 330d ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร 6 สูบ 265 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุดแบบสะใจสุดๆ ที่ 580 นิวตันเมตร และในรุ่นดีเซล 4 สูบ ก็จะมีตัวเลือกของทั้งรุ่น 320d และ 318d ที่มี 190 และ 150 แรงม้า ตามลำดับและBMW รุ่นเกียร์อัตโนมัติ จะใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic ที่ถูกปรับปรุงมาใหม่ ส่วนในรุ่น M Sport ก็จะใช้เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic Sport ที่รองรับ Paddle Shift และระบบ Launch Control

ขุมพลังเครื่องยนต์ TFSI ใน Audi A4 2019

ส่วน Audi A4 ใช้ ขุมพลังแบบเดิมทั้งเบนซิน TFSI ความจุตั้งแต่ 1.4-2.0 ลิตร และดีเซล 3.0 V6 ที่แรงถึง 272 แรงม้า และที่สำคัญคือ มีรุ่นเครื่องยนต์ G-tron ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ กับเบนซิน 2.0 TFSI ติดแก๊ส CNG ถังขนาด 19 กก. ให้กำลัง 170 แรงม้า 

5. เทียบระบบความปลอดภัยของ BMW 3 Series 2019 กับ Audi A4 2019

พรีวิว Feature ความปลอดภัยที่ยังถูกนำมาใช้ในรถยนต์ BMW ในปัจจุบันทุกๆรุ่น

ด้านระบบความปลอดภัยของ BMW 3 Series 2019 ถูกติดตั้ง Active Guard Plus เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นย่อย ซึ่งประกอบด้วย ระบบแสดงการจำกัดความเร็ว, ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบป้องกันการชนด้านหน้าและคนเดินถนน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชั่นเบรก พร้อมทั้งสามารถเลือกติดตั้งระบบ Driving Assistant Professional ซึ่งประกอบด้วย Active Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go, ระบบ Steering and Lane Control Assistant, ระบบ Lane Keeping Assist พร้อมฟังก์ชั่นป้องกันการชนด้านข้าง, ระบบ Priority Warning, ระบบเตือนรถตัดหน้า และระบบเตือนเดินรถผิดช่องทาง เป็นต้น

Driving Assistant Professional เทคโนโลยีควบคุมการขับขี่ให้ปลอดภัยใน BMW 3 Series 2019

สำหรับความปลอดภัยที่ใน Audi A4 2019 โครงสร้างตัวถังของ A4 ใช้วัสดุผสมผสานระหว่างเหล็กกล้าทนแรงดันสูง โลหะต่างๆ อยางบริเวณกรอบข้าง เสา A และ B-pillar กับผนังห้องเครื่องซึ่งมีความสำคัญในกรณีการปะทะ จะใช้เหล็กกล้าแบบ Hot-formed steel ผสานกับเหล็กแบบ Cold-formed ในส่วนอื่นๆของบอดี้ มีการใช้อะลูมิเนียมเข้ามาช่วยเซฟน้ำหนักในส่วนของเบ้าโช้คและค้ำโช้คหน้า ซึ่งใช้อะลูมิเมียมขึ้นรูปแบบแข็งแรงเป็นพิเศษ ส่วนฝาท้ายจะทำมาจากอะลูมิเนียมแผ่นที่ช่วยทำให้มีน้ำหนักเบาลง เป็นภาระต่อระบบมอเตอร์เปิดฝาท้ายน้อยลง

ส่วนที่ความเร็วสูง Audi  A4 คันนี้วิ่ง 150-160 คือจุดที่ช่วงล่างทำงานได้ดี มั่นคง ซับแรงกระแทกจากถนนได้พอเหมาะ กระโดดสะพานมอเตอร์เวย์ เปลี่ยนเลนกระทันหันหลบพวกรถที่ออกจากซอยไม่ดูสี่ดูแปด ช่วงล่าง Sport-tuned ของ A4 รับได้หมดคือสิ่งที่ผู้ที่รักความปลอดภัยคาดหวังจากช่วงล่างของรถจากประเทศที่มีเอาโต้บาห์นแบบไม่ต้องปรับอะไรอีก

การทดสอบความปลอดภัยของ Audi A4 มาตรฐาน Euronap

Audi A4 ได้รับคะแนนความปลอดภัย 5 ดาว จากการทดสอบชนของ Euro NCAP โดยได้คะแนนการปกป้องผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ 89% คะแนนการปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก 87% คะแนนการปกป้องคนเดินถนนและจักรยาน 75% และคะแนนในด้านระบบช่วยเหลือด้านความปลอดภัย 75% ทั้งนี้ อุปกรณ์ความปลอดภัยที่ให้มาในรถสเป็คบ้านเราจะประกอบไปด้วย

  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
  • ระบบล็อคเบรกขณะหยุดนิ่ง Audi Hold Assist
  • ระบบเบรก ABS / EBD / BA
  • ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stabilization Control)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR
  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
  • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
  • ม่านถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง
  • เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า – ด้านหลัง
  • กล้องมองภาพขณะถอยจอด
  • จุดยึดเบาะนั่ง ISOFIX
  • ชุดปฐมพยาบาล

6. สรุป

โดยภาพรวมทั้งสองรุ่นถือว่ามีความสูสีใกล้เคียงกันในทุกๆด้าน  ด้วยชื่อชั้นของแบรนด์ที่การันตี ในความสุดยอดของรถยนต์ ซีดานที่คงความเรียบหรูดูดีมีราคาตามไสตล์  หากเปรียบเทียบด้วยรูปลักษณ์ภายนอก รวมถึงออฟชั่นต่างๆอย่างละเอียดแล้ว จะเห็นได้ว่าทั้งสองค่ายจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับซีดานหรูของยุคนี้มาอย่างครบครันก็ขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มเป้าหมายใหญ่ของรถในกลุ่ม D-Segment นี้ ที่เป็น กลุ่ม ผู้บริหาร หรือเศรษฐีมีฐานะ คงจะอยู่ที่รสนิยมและความชื่นชอบในตัวแบรนด์ของทั้งสองยี่ห้อ ซึ่งครองใจลูกค้ากลุ่มนี้ในบ้านเรามาหลายปี ส่วนคันไหนจะครองตลาดในด้านยอดขายคงต้องมาดูกันภายในปี 2019 นี้ หลังจากมีการเปิดตัวและจำหน่ายอย่างบ้านเราอย่างเป็นทางการกันเมื่อปีที่แล้วสำหรับ ฺBMW  3 Series  ที่มีราคาเริ่มต้นที่ 2,229,000 บาทและ Audi A 4 2019 ที่วางจำหน่ายในไทยเริ่มต้นกับรุ่น 40 TFSI S line มาพร้อมชุดแต่ง S Line รอบคันในราคา 2,699,000 บาท และรุ่นท็อปขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ในราคา 3,149,000 บาท สำหรับรายละเอียดต่างๆ สามารถสอบถามได้ที่โชว์รูมหรือตัวแทนจำหน่ายของทั้งสองแบรนด์ได้ทั่วประเทศเพื่อประกอบการตัดใจว่าคันไหนจะเป็นหนึ่งในดวงใจสาวก คอมปแพคซีดานหรูทั้งสองคันนี้

ดูเพิ่มเติม

โปรโมชั่น ดูทั้งหมด

โปรโมชั่น Ford กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชั่น Ford กันยายน 2565 สิทธิพิเศษจากฟอร์ดสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถแต่ยังไม่มีงบ พร้อมทั้งโปรโมชั่น Ford อื่น ๆ เช็กได้กันเลย

โปรโมชั่น Isuzu กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชั่น Isuzu กันยายน 2565 สิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าอีซูซุที่ยกมาให้เลือกพิจารณากันทั้งค่าย เช็กโปรโมชั่น Isuzu ได้ที่นี่

โปรโมชัน Nissan กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชัน Nissan กันยายน 2565 สิทธิดี ๆ ส่วนลดสุดปัง สำหรับรถยนต์ผู้ที่สนใจรถยนต์นิสสัน เช็กรายละเอียดโปรโมชั่น Nissan ได้ที่นี่

โปรโมชัน Suzuki กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชัน Suzuki กันยายน 2565 และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายให้ที่ Suzuki นำมามอบให้แบบจัดเต็ม!

International

Cars in Thailand Chobrod.com (Cars in Thailand)