เปรียบเทียบรถยนต์ MG5 กับคู่แข่ง Honda City ใครจะได้รับความสนใจจากนักขับมากกว่ากัน

มนัส ช่วยบำรุง 18 ต.ค. 2561 | 699 View | ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์

MG5 ซีดานสายพันธุ์สปอร์ตที่ถูกดีไซน์โฉมหน้าให้ดูหรูหราพร้อมสะกดทุกสายตาเมื่อต้องถูกนำมาเปรียบเทียบกับ Honda City ยนตรกรรมสุดล้ำอีกรุ่นหนึ่งใครจะเหนือกว่ากัน ข่าวรถนำคำตอบมาให้แล้วครับ

1. แนะนำ

MG5 2018 ยนตรกรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดพร้อมนำพาผู้ขับขี่ไปพบประสบการณ์ที่เหนือระดับ โดยได้รับการดีไซน์ภายนอกภายใต้นิยามสมาร์ทคาร์แห่งยุคให้ความโดดเด่นด้วยเส้นสายบนตัวรถที่งดงามทันสมัยพร้อมด้วยหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่ในรุ่น 1.5 X และ 1.5 Turbo X ช่วยให้ผู้โดยสารมองทัศนียภาพภายนอกได้อย่างคมชัด อีกทั้งยังนำพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นพร้อมสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงรวมถึงหน้าจอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ และ ระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงภาพได้อย่างคมชัดในราคาเริ่มต้นเพียง 649,000 บาท เท่านั้น

MG 5 2018
รถยนต์ MG 5 2018

ขณะที่ Honda City 2018 ได้รับการดีไซน์ให้มีเอกลักษณ์ที่เรียบหรูพร้อมสะกดสายตาทุกคู่ให้จับจ้องผ่านรูปโฉมภายนอกที่โฉบเฉี่ยวให้อารมณ์สปอร์ตอย่างเด่นชัดติดตั้งชุดไฟหน้าแบบ LED คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็ค เพิ่มความสะดวกสบายด้วยพวงมาลัยแบบ Paddle Shift ติดตั้งฟังก์ชั่นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ MID ที่พ่วงติดมากับมาตรวัดเรืองแสงแบบ Self-Illuminating Meters อีกทั้งยังให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยมผ่านกล้องมองภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ถึง 3 ระดับ ในราคาเริ่มต้นเพียง 550,000 บาท

Honda City 2018
|รีวิว Honda City 2018

2. เปรียบเทียบราคาจำหน่าย MG5 กับคู่แข่ง Honda City

สำหรับราคาจำหน่าย MG 5 ซึ่งมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 6.4 แสนบาท พร้อมกับการนำขุมพลังเครื่องยนต์ VTi-Tech ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับรถในเซกเมนท์เดียวกันโดยเฉพาะ Honda City ที่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ขนาดใกล้เคียงกันพร้อมออฟชั่นภายในที่ไม่แตกต่างกันมากนักส่งผลให้รถ 2 รุ่นนี้ยังคงมีราคาจำหน่ายที่ไล่เลี่ยกัน

MG 5 2018
MG 5 2018

ราคาจำหน่าย MG 5 มีดังนี้

MG 5 1.5L รุ่น D ราคา 649,000 บาท
MG 5 1.5L รุ่น X Sunroof ราคา 699,000 บาท
MG 5 TURBO 1.5L รุ่น D ราคา 719,000 บาท
MG5 TURBO 1.5L รุ่น X Sunroof ราคา 759,000 บาท

ทางด้าน Honda City ซึ่งได้รับความนิยมในตลาดรถเมืองไทยเป็นอย่างมากด้วยสมรรถนะของรถที่คุ้มค่าในราคาเริ่มต้นเพียง 5.5 แสนบาท พร้อมฟังก์ชั่นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift ถึง 7 สปีด อีกทั้งยังนำเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ที่ให้อัตราการเร่งอย่างดีเยี่ยม พร้อมทางเลือกรุ่นย่อยที่มีให้หลากหลายกว่าทำให้ Honda City ดึงดูดใจผู้ซื้อได้มากกว่า MG 5 อยู่เล็กน้อย

Honda City 2018
Honda City 2018

ราคาจำหน่าย Honda City มีดังนี้

Honda City รุ่น S MT ราคา 550,000 บาท

Honda City รุ่น S CVT ราคา 589,000 บาท

Honda City รุ่น V CVT ราคา 649,000 บาท

Honda City รุ่น V+ CVT ราคา 689,000 บาท

Honda City รุ่น SV CVT ราคา 736,000 บาท

Honda City รุ่น SV+ CVT ราคา 751,000 บาท

3. เปรียบเทียบภายนอก MG 5 กับคู่แข่ง Honda City

MG 5 ยนตรกรรมแห่งอนาคต ได้รับการออกแบบภายนอกอย่างพิถีพิถันตอบโจทย์กลุ่มนักขับรุ่นใหม่ด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ที่ผสานเข้ากับกระโปรงหน้าแบบ V-Shape ติดตั้งไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน Daytime Running Lights แบบ LED พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า ระบบปัดน้ำฝนแบบตั้งหน่วงเวลาได้ เพิ่มความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นจากหลังคาซันรูฟขนาดใหญ่เปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

MG ZS ขึ้นแท่น แชมป์ B-SUV

ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์

ส่วนในด้านหลังติดตั้งไฟท้ายทรงสปอร์ตเป็นแนวยาวขนานไปกับฝาปิดท้าย พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ส่วนช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/55 R16 ด้วยโครงสร้างตัวรถของ MG 5 ที่มีขนาดใหญ่ในระดับ C-Segment ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในห้องโดยสารได้อย่างกว้างขวาง ผสานกับการนำโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF ที่มีความแข็งแกร่งสามารถช่วยลดแรงกระแทกที่จะเกิดกับห้องโดยสารได้เป็นอย่างมากส่งผลให้การดีไซน์ภายนอกของ MG 5 น่าสนใจขึ้นมากเลยทีเดียว

หลังคาซันรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
หลังคาซันรูฟเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า

ส่วนการดีไซน์ภายนอกของ Honda City โฉมใหม่ล่าสุดมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่ พร้อมชุดไฟหน้าแบบมัลติรีเฟ็ลกเตอร์ ไฟตัดหมอกแบบ LED ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวันแบบ DRL มือจับประตูแบบโครเมี่ยม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า ติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลาม ส่วนด้านหลังติดตั้งไฟท้ายแบบ LED เพิ่มความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นด้วยคิ้วฝากระโปรงท้ายแบบโครเมี่ยม ส่วนช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 185/55 R16

ชุดไฟหน้าแบบมัลติรีเฟ็ลกเตอร์
ชุดไฟหน้าแบบมัลติรีเฟ็ลกเตอร์

ส่วนออฟชั่นภายนอกอย่างอื่นไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมมากนักส่งผลให้โครงสร้างยังมีความคล้ายคลึงกับในรุ่นก่อนหน้าโดยมีมิติตัวถังกว้าง 1,695 มิลลิเมตร ยาว 4,440 มิลลิเมตร สูง 1,477 มิลลิเมตร น้ำหนักรถรวม 1,102 กิโลกรัม ผสานกับการออกแบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control ที่สามารถปกป้องห้องโดยสารจากการชนได้รอบทิศทาง อีกทั้งที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีการขยายขนาดให้มีความจุ 536 ลิตร ช่วยให้ผู้ขับขี่จัดเก็บสัมภาระได้มากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วโฉมหน้าของฮอนด้า ซิตี้ โฉมนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ขับอยู่เป็นจำนวนมาก

ด้านหลังติดตั้งไฟท้ายแบบ LED
ด้านหลังติดตั้งไฟท้ายแบบ LED

4. เปรียบเทียบภายใน MG 5 กับคู่แข่ง Honda City

MG 5 เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยเฉดสีตกแต่งภายในโทนสีดำ พร้อมเบาะนั่งหุ้มผ้าโดยเบาะนั่งคู่หน้าสามารถปรับด้วยมือได้ 4 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งด้านหลังปรับพับได้ ล้ำหน้าด้วยพวงมาลัยยูรีเทนแบบมัลติฟังก์ชั่นพร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียง อีกทั้งยังปรับทิศทางได้ 2 รูปแบบ ขึ้น-ลง หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ MID กระจกไฟฟ้าพร้อมระบบ One-Touch Up-Down ที่ด้านคนขับ ระบบปรับอากาศแบบธรรมดา กุญแจรีโมทพร้อมปุ่มเปิดฝากระโปรงท้าย เพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยแผงบังแดดด้านหน้าพร้อมกระจกส่องหน้าและไฟส่องสว่าง

เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง

MG5 2018 ให้ความบันเทิงผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอระบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว รองรับวิทยุ FM/AM MP3 ติดตั้งระบบนำทาง Navigation รวมถึงระบบ inkaNet รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ ติดตั้งช่องต่อ AUX และ USB ให้เสียงกระหึ่มผ่านลำโพงกว่า 4 ตำแหน่ง ติดตั้งช่องเก็บของใต้เบาะนั่ง ทั้งนี้ออฟชั่นภายใน MG 5 อาจได้รับการติดตั้งมาให้น้อยกว่าในฮอนด้า ซิตี้อยู่บ้างแต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับหลังคาซันรูฟที่เอ็ม จี ติดตั้งมาให้ด้วยก็ถือว่าเป็นอันรับได้เลยทีเดียว

ลิ้นชักเก็บของใต้เบาะนั่ง
ลิ้นชักเก็บของใต้เบาะนั่ง

ส่วนภายใน Honda City ให้ความโดดเด่นอย่างเหนือระดับจากการตกแต่งภายในด้วยสีดำผสมกับลายสปอร์ตสวยหรู คอนโซลหน้าตกแต่งจากวัสดุพิเศษแบบ Piano Black พร้อมรองรับการขับขี่ในระยะทางไกลด้วยเบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ ส่วนเบาะนั่งด้านหลังปรับ 60:40 เพิ่มความสะดวกด้วยมาตรวัดเรืองแสง (Self-Illuminating Meters) สีขาว บนหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ MID เสริมด้วยการนำนวัตกรรมไฟแสดงข้อมูลการขับขี่แบบประหยัด

ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ
ตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ

ติดตั้งพวงมาลัยแร็ค แอนด์ พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPS) รวมถึงการเพิ่มฟังก์ชั่นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด ( 7-Speed Paddle Shift) อีกทั้งยังติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) พร้อมสวิตช์ควบคุมบนพวงมาลัยรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ส่วนระบบอินโฟเทนเมนท์ให้ความบันเทิงผ่านชุดเครื่องเสียงบนหน้าจอระบบสัมผัสรองรับการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth ติดตั้งช่องเชื่อมต่อ HDMI และ AUX รวมไปถึงการเชื่อมต่อ Smart Phone ให้เสียงกระหึ่มผ่านลำโพงจำนวน 8 ตำแหน่ง นับว่าการติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายใน Honda City มาแบบจัดเต็มส่งผลให้สามารถเรียกคะแนนความสนใจได้มากกว่า MG 5 อยู่พอสมควร

ชุดเครื่องเสียงหน้าจอระบบสัมผัส
ชุดเครื่องเสียงหน้าจอระบบสัมผัส

5. เปรียบเทียบระบบเครื่องยนต์ MG 5 กับคู่แข่ง Honda City

MG 5 มาพร้อมทางเลือกรูปแบบเครื่องยนต์ที่มีให้ถึง 2 รูปแบบ ด้วยกันทั้งจากเครื่องยนต์ 15S4C DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-Tech ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 135 นิวตัน-เมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และ เครื่องยนต์รหัส 15S4G 4 สูบ 16 วาล์ว Turbo TCI-TECH ให้กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด เฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์ Turbo 1.5 ลิตร

เครื่องยนต์ Turbo TCI-TECH ขนาด 1.5 ลิตร
เครื่องยนต์ Turbo TCI-TECH ขนาด 1.5 ลิตร

ทางด้าน Honda City ส่งกำลังผ่านทุกขุมความเร็วด้วยเครื่องยนต์ (SOHC) 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที ให้ความเร็วได้อย่างเต็มที่ โดยมีอัตราการเร่งตั้งแต่ 0-100 กิโลเมตร ภายใน 11.8 วินาที ถือว่ามีความเร็วที่ดีเยี่ยมเมื่อเทียบกับรถยนต์ในรุ่นเดียวกันจากค่ายอื่น พร้อมเติมเต็มทุกอัตราการเร่งด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด ที่ทำงานได้อย่างไม่ติดขัดโดยมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานอยู่ที่ 16.3 กิโลเมตร/ลิตร

เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร
เครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร

เมื่อนำรถยนต์จากทั้งสองค่ายมาเปรียบเทียบกันแล้วในประเด็นเรื่องขนาดของเครื่องยนต์อาจจะใกล้เคียงกันเพราะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรเช่นเดียวกัน แต่ในส่วนของระบบส่งกำลังต้องยอมรับว่าระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด ในฮอนด้า ซิตี้ ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากนักขับว่ามีความแม่นยำและนุ่มนวลเหนือกว่าระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ใน เอ็ม จี 5 แต่หากมองในแง่ของสมรรถนะแล้วก็อาจะไม่แตกต่างกันนักขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของผู้ขับขี่แต่ละบุคคล

6. เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย MG 5 กับคู่แข่ง Honda City

ในส่วนของระบบความปลอดภัย MG 5 ถูกออกแบบมาให้พร้อมปกป้องผู้โดยสารด้วยโครงตัวถังนิรภัยแบบ FSF ที่มีความแข็งแกร่งสามารถคุ้มครองผู้โดยสารเมื่อประสบอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี เสริมด้วยการนำระบบควบคุมการทรงตัวแบบ SCS ที่ช่วยให้รถมีความสมดุลมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องขับขี่อยู่ในพื้นผิวที่ขรุขระผสานการทำงานร่วมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบ TCS ช่วยให้รถขับเคลื่อนในเส้นทางที่เปียกลื่นได้อย่างสมดุลนับว่าไม่น้อยหน้าคู่แข่งร่วมเซกเมนท์อย่าง Honda City เลยทีเดียว

โครงตัวถังนิรภัยแบบ FSF
โครงตัวถังนิรภัยแบบ FSF

ระบบความปลอดภัยใน MG 5 ยกตัวอย่างได้ดังนี้

  • ระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อคแบบ ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรกแบบ BA
  • ระบบควบคุมการทรงตัวแบบ SCS
  • ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลันแบบ MSR
  • ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งแบบ CBC
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถลแบบ TCS
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชันแบบ HSA  
  • ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยางแบบ ITPMS
  • กล้องมองภาพด้านหลังพร้อมสัญญาณกะระยะ
  • ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

Honda City ได้รับการติดตั้งฟีเจอร์ขั้นพื้นฐานด้านความปลอดภัยที่พร้อมคุ้มครองผู้โดยสารมาอย่างครบถ้วนเช่นกัน อาทิ ระบบเบรก ABS ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้งแบบ VSA ผสานกับการติดตั้งระบบช่วยในการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชันแบบ HSA อีกทั้งยังเพิ่มการคุ้มครองผู้โดยสารจนถึงขีดสุดผ่านโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ G-Force Control ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสามารถปกป้องห้องโดยสารจากการชนได้รอบทิศทางอีกด้วย

กุญแจนิรภัย Immobilizer
กุญแจนิรภัย Immobilizer

ระบบความปลอดภัยใน Honda City ยกตัวอย่างได้ดังนี้

  • สัญญาณไฟอัตโนมัติขณะเบรกกระทันหัน ESS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD ที่มีให้ครบทุกรุ่น
  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ แบบ Multi-angle Rearview Camera
  • ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง และ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS
  • ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ i-Side Airbags
  • ม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags
  • โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนได้รอบทิศทาง
  • คอนโซลหน้าตกแต่งจากวัสดุ Piano Black
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System)
  • ระบบกุญแจแบบนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย

7. สรุป

หากมองในภาพรวมแล้วรถยนต์จากทั้ง 2 ค่าย ต่างมุ่งเน้นไปที่การออกแบบภายนอกให้ดูปราดเปรียวผสานกับความคล่องตัวในรูปร่างที่ดูสปอร์ตเพิ่มความสนใจให้กับผู้ที่พบเห็นได้เป็นอย่างมาก ทางด้าน MG 5 ได้รับการติดตั้งหลังคาซันรูฟเสริมให้โดดเด่นยิ่งขึ้น อีกทั้งในส่วนของห้องโดยสารนั้นต้องยอมรับว่า MG5 มีขนาดที่กว้างขวางกว่า Honda City ส่งผลให้พื้นที่ใช้สอยภายในรถเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่ฮอนด้า ซิตี้ก็ทดแทนด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ครบครันทั้งกล้องมองภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ รวมถึงเครื่องยนต์ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ที่ได้รับการการันตีในด้านอัตราการเร่งที่ดีเยี่ยมนับว่ารถจากทั้ง 2 ค่ายมีดีกันคนละแบบขึ้นอยู่กับผู้ซื้อว่าจะชื่นชอบในรูปแบบใดครับ

ดูเพิ่มเติม:

แท็ก MG 5

โปรโมชั่น ดูทั้งหมด

โปรโมชั่น Ford กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชั่น Ford กันยายน 2565 สิทธิพิเศษจากฟอร์ดสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถแต่ยังไม่มีงบ พร้อมทั้งโปรโมชั่น Ford อื่น ๆ เช็กได้กันเลย

โปรโมชั่น Isuzu กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชั่น Isuzu กันยายน 2565 สิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าอีซูซุที่ยกมาให้เลือกพิจารณากันทั้งค่าย เช็กโปรโมชั่น Isuzu ได้ที่นี่

โปรโมชัน Nissan กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชัน Nissan กันยายน 2565 สิทธิดี ๆ ส่วนลดสุดปัง สำหรับรถยนต์ผู้ที่สนใจรถยนต์นิสสัน เช็กรายละเอียดโปรโมชั่น Nissan ได้ที่นี่

โปรโมชัน Suzuki กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ

โปรโมชัน Suzuki กันยายน 2565 และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายให้ที่ Suzuki นำมามอบให้แบบจัดเต็ม!

International

Cars in Thailand Chobrod.com (Cars in Thailand)