เตรียมเอกสารหลักฐานการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด

โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

การติดต่อทำธุรกรรมกับกรมขนส่งทางบกสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ ที่ต้องทำเป็นประจำทุกปีก็คงเป็นการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี และการทำใบขับขี่ที่ต่อตามอายุของใบขับขี่โดยจะเริ่มจากมือใหม่หัดขับ 1 ปี  และต่อจากนั้นก็ 5 ปี ซึ่งก็ถือว่าเป็นเสมือนหน้าที่ที่ทุกคนที่ขับรถยนต์เป็นและผู้ที่เป็นเจ้าของรถจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนการทำธุรกรรมทั้ง 2 อย่างนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากและวุ่นวายอะไร แต่ก็ยังมีอีกธุรกรรมหนึ่งที่หลายคนคิดว่าค่อยข้างจะยุ่งยากและวุ่นวายไปสักนิดทั้งเอกสารและการดำเนินการนั้นก็คือ “การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์” ซึ่งก่อนจะทำการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก็ต้องรู้ข้อกฎหมายและการเตรียมเอกสารกันสักนิด ซึ่งหลายคนก็ยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง  ซึ่งเอกสารหลักฐานการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์นั้นก็มีดังนี้

ความเคลื่อนไหวการปรับโครงสร้างภาษีของตลาดรถยนต์ในเวียดนาม

หยุดแชร์!!! กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือ หยุดแชร์ “ถูกจับยึดใบขับขี่แล้วจะไม่ได้คืน”

เตรียมเอกสารโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

1. ใบคู่มือจดทะเบียนรถยนต์

2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้โอนและผู้รับโอน แต่ถ้าเป็นนิติบุคคลให้ใช้หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม

3. สัญญาซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี

4. กรณีโอนเป็นมรดกจะต้องมีใบมรณะบัตรของเจ้าของรถและคำสั่งศาล

5. แบบคำขอโอนและรับโอน ซึ่งจะต้องกรอกรายละเอียดและลงลายมือชื่อของทั้งผู้โอนและผู้รับโอน

6. หนังสือมอบอำนาจสำเนาบัตรประชาชนชองผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจกรณีผู้โอนและผู้รับโอนไม่สามารถมาดำเนินการด้วยตนเองได้

และสถานที่ในการติดต่อทำธุรกรรมโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์นั้นในกรุงเทพฯ มีสำนักงานกรมขนส่งทั้งสิ้น 5 สาขา หรือ 5 พื้นที่ดังนี้  

1. สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 (บางขุนเทียน) รับผิดชอบพื้นที่  บางขุนเทียน เขตจอมทอง เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตราษฎร์บูรณะ เขตยานนาวา เขตสาทร เขตบางคอแหลม เขตทุ่งครุ และเขตบางบอน

2. สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่  2  (สวนผัก-ตลิ่งชัน) รับผิดชอบพื้นที่  ตลิ่งชัน บางพลัด บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ หนองแขม พระนคร บางแค และทวีวัฒนา

3. สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่  3 (พระโขนง) รับผิดชอบพื้นที่  เขตพระโขนง  คลองเตย บางนา ประเวศ สวนหลวง และ เขตวัฒนา

4. สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่  4 (หนองจอก-สุวินทวงศ์) รับผิดชอบพื้นที่   เขตมีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง บึงกุ่ม สะพานสูง คันนายาว และคลองสามวา

 5. สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่  5 (หนองจอก-สุวินทวงศ์) รับผิดชอบพื้นที่   ป้อมปราบศัตรูพ่าย ปทุมวัน ดุสิต บางซื่อ บางเขน ดินแดง จตุจักร ลาดพร้าว สายไหม สัมพันธวงศ์ บางรัก พญาไท ห้วยขวาง บางกะปิ ดอนเมือง ราชเทวี หลักสี่ และวังทองหลวง

ส่วนกรณีโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ในพื้นที่ต่างจังหวัด สามารถไปโอนที่สำนักงานขนส่งจังหวัด หรือ สำนักงานในเขตหรืออำเภอ ซึ่งอาจจะมีสำนักงานขนส่งตั้งอยู่

และที่สำคัญการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์จะต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันโอน ซึ่งหากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดต้องระวางโทษ ไม่เกิน 2,000 บาท 

เห็นไหมคะว่าการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์นั้นหลักฐานเอกสารไม่ได้ยุ่งยากและมากมายอย่างที่หลายคนคิด และเพียงแค่มีเอกสารหลักฐานครบก็สามารถไปติดต่อโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครซึ่งมี 5 พื้นที่ ในกรณีที่อยู่ในกรุงเทพฯ แต่ถ้าเป็นต่างจังหวัดก็สามารถไปโอนที่สำนักงานขนส่งจังหวัด

ดูเพิ่มเติม:

ถูกปรับแน่! ถ้าเปลี่ยนสีรถใหม่ แล้วไม่แจ้งกรมขนส่งฯ
รถยนต์คันเก่า ขายที่ไหนให้ได้ราคาสูง ?!